“เถาเป่า” มังกรตราเพชรแห่งโลกออนไลน์ (ตอน 1)

เพราะคุณรู้ดีว่า โลกวันข้างหน้านั้น จุดศูนย์กลางของมันกำลังจะหมุนกลับแบบตาลปัตร มหาอำนาจของโลกจะถูกเปลี่ยนมือมายังเอเชีย ที่มีจ่าฝูงเป็น “จีนแผ่นดินใหญ่” การทำความรู้จัก “เถาเป่า (Taobao.com)” เว็บไซต์ที่ทันสมัยที่สุดในโลกอี-คอมเมิร์ซจากแดนมังกรนี้ ก็ถือเป็นการปักหมุดจุดเริ่มต้นให้ทันโลกได้ถูกทางที่สุด

สถิติข้างล่างของเว็บเถาเป่านี้เชื่อว่าจะเป็นสิ่งดึงดูดใจให้นักการตลาดเช่นคุณอ่านบทความนี้แบบรวดเดียวจบ

* เปิดตัวหลังยุคดอทคอมบูม แต่วันนี้มีสมาชิก 170 ล้านคนที่เป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขายในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็น 43% ของประชากรชาวเน็ตในจีน
* มีร้านค้าเปิดใหม่ 5,000 ร้านทุกวัน มีสินค้าให้เลือกซื้อกว่า 300 ล้านชิ้น จากทั้งคนขายรายย่อย โรงงาน ไปจนถึงแบรนด์ดังระดับโลก
* ยอดขายปีที่แล้ว 1 พันล้านบาท คิดเป็นเกือบ 2% ของยอดการค้าปลีกของจีนทั้งประเทศ

ที่เล่ามาไม่ได้หมายความว่าเราจะโฟกัสที่วิธีการหาซื้อของในเถาเป่า เพราะคุณสามารถหาจากเอเย่นต์ผู้นำเข้าสินค้ามากมายแค่ค้นคำว่า “เถาเป่า” ในกูเกิล แต่เรากลับต้องการวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขมหาศาลเหล่านี้เกินขึ้นได้ต่างหาก
ปัจจัยทางกายภาพใน “โลกออฟไลน์” หลายประเด็นต่อจากนี้ คือคำตอบหลัก อันได้แก่ การที่จีนขึ้นสู่ตำแหน่งโรงงานของโลก ที่ผลิตได้ตั้งแต่มือถือไปจนถึงเครื่องบินโบอิ้ง ทั้งค่าแรงราคาอภิมหาถูกจากชาวจีนอพยพหลายมณฑลนับอีกร้อยล้านคน และธุรกิจขนส่งสินค้ารายย่อยที่แข่งขันกันรุนแรงกว่า UPS กับ DHL ที่เรียกใช้ได้ทันที เพราะมีอยู่ทุกหัวมุมถนน โดยใช้ทั้งยานพาหานะตั้งแต่เครื่องบิน จนถึงจักรยานไฟฟ้า แต่ก็สามารถการันตีการส่งอาหารทะเลสดๆ เป็นๆ ถึงคุณที่หน้าประตูบ้านภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
แต่พลังหนุนสำคัญของการผงาดของเถาเป่ายังต้องอาศัย “เทคโนโลยี และโลกออนไลน์” เป็นโช้คอัพเสริม มองในแง่มุมของคนขาย เถาเป่าซื้อใจโดยการให้ลงขายสินค้ากี่ชิ้นก็ได้ไม่จำกัด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นี่เองถึงเป็นเหตุให้อาจารย์สั่งการบ้านนักศึกษาโดยการให้ลงมือสร้างร้านค้าจริงๆ ในเถาเป่า แล้วเอายอดขายมาแปรเป็นเกรด ผลก็คือ บรรดาเถ้าแก่หน้าอ่อนสามารถสร้างเงินแสนก่อนเรียนจบด้วยซ้ำ
ที่พูดมาทั้งหมดก็ยังไม่สำคัญเท่ากับเทคนิคการซื้อของที่เป็นแบบ “ได้ของก่อนจ่ายเงินทีหลัง!” เพราะเถาเป่าสร้างระบบการชำระเงินออนไลน์ที่คล้ายๆ กับเพย์พาลของตัวเองขึ้นมาในชื่อ อลีเพย์ (alipay.com) สามารถเติมเงินผ่านไปรษณีย์และบัตรเครดิตได้ ซึ่งปัจจุบันมียอดโอนเงินต่อวัน 5 ล้านครั้ง คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 6 พันล้านบาท ซึ่งถือเป็นหัวใจที่ทำให้ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซที่นี่โตได้อย่างยั่งยืน และถาวร

นอกจากเรื่องเบสิกเหล่านี้แล้ว ในเว็บเถาเป่ายังมีฟีเจอร์มากมายที่เหนือว่าเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งเข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี อันได้แก่

* “ว่องว่อง” ระบบแชตระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย รูปแบบเหมือนกับ MSN เป๊ะ แต่สร้างมาสำหรับใช้ในเถาเป่าโดยเฉพาะ สามารถออนไลน์ผ่านมือถือ หรือทางหน้าเว็บโดยไม่ต้องลงโปรแกรมก็ได้ ฝากข้อความไว้หากคนขายแบบออฟไลน์ก็ได้

* มีระบบเช็กราคาสินค้าผ่าน SMS กับลูกค้าของไชน่า โมบายโดยเฉพาะ เผื่อกรณีวินโดวส์ ช้อปปิ้งที่ห้างแล้วเจอสินค้าที่ถูกใจ แต่อยากได้ราคาถูกกว่า ต้องหาที่เถาเป่าเท่านั้น!

* มีแอพสโตร์ของตัวเอง ที่เชิญโปรแกรมเมอร์มาร่วมแข่งกันพัฒนาฟีเจอร์เสริมให้กับเว็บเถาเป่าชิงเงินรางวัลกว่า 10 ล้านหยวน (4.7 ล้านบาท) กับเวทีประกวดชื่อว่า TOP (Taobao Open Platform) Application Competition ซึ่งจุดนี้จะเป็นส่วนที่ทำให้เถาเป่าโตได้ไม่สิ้นสุด ทั้งยังสามารถเพิ่มขีดความสามารถของเว็บไซต์ให้ไฮเทคแบบไร้เทียมทานมากขึ้น และผลงานที่เข้าตาก็มี อาทิ การทำหน้าร้านในรูปแบบ 3 มิติ ระบบวิเคราะห์ผู้เข้าชมเว็บ (คล้าย Google Analytics) โดยระบบนี้จะทำให้เจ้าของเว็บ สามารถอัปเกรดหน้าร้านออนไลน์ของตัวเองให้มีฟีเจอร์ที่ต้องการได้ อาทิ ตรวจสอบยอดขาย เช็กสต๊อก โดยเสียค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย เช่นเดือนละ 10-300 บาท เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ในมุมมองของผู้เขียนมองว่าสิ่งที่เถาเป่าขาดไปก็คือ ระบบการค้นหาสินค้าด้วยภาพ และสี ซึ่งจะต้องลงทุนอีกมาก แต่ก็ไม่น่าเกินความสามารถของเถาเป่า และทีมโปรแกรมเมอร์จาก TOP

ไม่เพียงแต่การเป็นมังกรตาเพชรในโลกออนไลน์เท่านั้น การขยายอำนาจจากจอพีซีมายังโลกจริงของเถาเป่าก็มีอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้เปิดตัวบัตรเครดิต (BOC-Taobao credit card) ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างเถาเป่า, อลีเพย์ และธนาคารแห่งชาติจีน เป้าหมายหลักก็คือ เปิดโอกาสให้เศรษฐีใหม่ในจีนช้อปกระจาย ด้วยการจ่ายเงินออนไลน์โดยไม่จำกัดวงเงินสูงสุดต่อการโอนเงินแต่ละครั้งนั่นเอง

เร็วๆ นี้ เถาเป่าเตรียมขยายแฟรนไชส์ร้านค้าจริงๆ ในโลกออฟไลน์ที่ปกคลุมไปด้วยเครือข่ายไว-ไฟ ให้ได้ 30,000 ร้านค้าในแถบโรงเรียน และแหล่งชุมชน (ร้านแรกเปิดเมื่อปี 2006 ที่เซี่ยงไฮ้) เพื่อเป็นช่องทางใหม่เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นคนที่ไม่ได้เล่นอินเทอร์เน็ต อาทิ ผู้สูงอายุ สามารถซื้อของออนไลน์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยจัดการให้ตั้งแต่ออเดอร์ยันของถึงมือ ข้อดีของร้านค้าชนิดนี้ก็คือ การให้ความรู้สึกเหมือนซื้อของในร้านค้าทั่วไปจริงๆ แต่ถูกกว่า จ่ายเงินสดได้เลย และหากมีปัญหาสามารถนำกลับมาคืนที่ร้านนี้ได้ทันทีอีกด้วย

และเป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้นกำลังจะมาถึงนั่นคือ การทุ่มเงิน 6,800 ล้านบาท เพื่อสร้างห้างสรรพสินค้าชื่อ “เถาเป่า ซิตี้” ขนาด 450 เอเคอร์ ที่เมืองหังโจว โดยชั้นล่างทำเป็นพื้นที่ของร้านค้า ซึ่งถ้าเป็นสมาชิกเถาเป่าออนไลน์จะได้ลดค่าเช่าพื้นที่ 40% ทุกร้านมีอินเทอร์เน็ตไร้สายให้เล่น ส่วนชั้นบนเป็นออฟฟิศแห่งใหม่ของพนักงานเถาเป่ากว่า 15,000 คนด้วย คาดว่าจะแล้วเสร็จอีก 4 ปีข้างหน้า

ฉบับหน้าจะพาคุณมาหาคำตอบว่า การที่เมืองจีนเป็นประเทศที่มีประชากรเน็ต และประชากรผู้ใช้โทรศัพท์มือถือมากที่สุดในโลก จะเป็นพลวัตที่ขับเคลื่อนแผนธุรกิจของเถาเป่าไปในทิศทางใดต่อ แต่รับรองว่าจะต้องแหวกแนว และน่าทึ่งอีกตามเคย!

เกี่ยวกับเถาเป่า
เถาเป่าเป็นธุรกิจอี-คอมเมิร์ซใหม่ที่เน้นการค้าระหว่างลูกค้าสู่ลูกค้า (C2C) เติบโตมาหลังความสำเร็จระดับอินเตอร์ของเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซแบบ B2C ที่รู้จักกันดีว่า อลีบาบา.คอม (Alibaba.com) ที่ๆ คนทั่วโลกมาหาของเอาต์ซอร์สจากบริษัทจีน บริหารงานโดยซีอีโอร่างเล็กนามว่า “แจ๊ค หม่า”