10 แนวทางรักษา ‘คุณภาพงาน’ และขจัด ‘สิ่งรบกวน’ ในช่วง ‘Work from Home’

ประโยชน์ของการ Work from Home นั้นมีมากมาย ทั้งไม่จำเป็นต้องไปเจอกับการจราจรที่แสนติดของกรุงเทพฯ, แต่งตัวแต่งหน้ายังไงก็ได้ แต่… “พลังอันยิ่งใหญ่ มาพร้อมความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่” ดังนั้นความท้าทายของการทำงานที่บ้านคือ ‘ความรับผิดชอบ’ จึงจำเป็นต้องหาวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้ตัวเองให้มีประสิทธิภาพและมีสติ เราไปดู 10 แนวทางที่จะช่วยให้รักษาคุณภาพของผลงานแม้จะทำงานอยู่บ้านก็ตาม

1.กำหนดการพักให้เหมือนปกติ

อาจเป็นความคิดที่ดีที่บังคับตัวเองให้ทำงานให้มากที่สุด แต่วิทยาศาสตร์ไม่เห็นด้วย เพราะการ ‘พัก’ จะช่วยลดความเครียดได้และช่วยให้สมองของเราเติมพลัง ดังนั้นอาจลองใช้เทคนิค Pomodoro เพื่อกำหนดช่วงเวลาการหยุดพัก เช่น ทำงาน 25 นาทีจากนั้นพัก 5 นาที ทำ 4 ครั้ง เมื่อครบแล้วก็พักยาว 10-30 นาทีเพื่อมาลุยงานอีกครั้ง วนไปจนกว่าวันทำงานจะสิ้นสุด

2.กำหนดเวลาที่เหมาะกับสมองของคุณเอง

สิ่งนี้อาจเป็นเรื่องยุ่งยากหากเราต้องทำงานกับทีม ซึ่งต้องทำงานตามกำหนดเวลาของคนอื่น แต่ถ้าไม่ เราก็สามารถจัดเวลาให้เหมาะกับตัวเองได้เลย อาทิ บางคนจะทำงานได้ดีในช่วงเช้า ดังนั้นอาจจะปิดกั้นทุกการแจ้งเตือนต่าง ๆ เพื่อโฟกัสกับงาน

3.พักทานอาหารกลางวันจริง ๆ (ไม่ข้าม!)

การพักทานอาหารกลางวันอย่างแท้จริงนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเติมพลังให้กับตัวเอง เพราะจะช่วยทำให้แน่ใจได้ว่าเราได้รับสารอาหารเพิ่มเพื่อให้สมองของเรามีพลังสูงสุด แต่พอทำงานที่บ้านเราอาจจะทานอาหารไม่ตรงเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องบังคับให้เป็นกิจวัตร

4.วางแผนรายการที่ต้องทำและกำหนดเวลาล่วงหน้า

การทำงานจากที่บ้านมักมีเรื่องที่ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายได้ ดังนั้น วิธีที่ยอดเยี่ยมในการลดความบ้าคลั่งให้เหลือน้อยที่สุดคือ การวางแผนวันล่วงหน้าพร้อมรายการสิ่งที่ต้องทำ ด้วยวิธีนี้เราสามารถให้ความชัดเจนว่าจะไปทำอะไรก่อนหลังและการรู้ล่วงหน้าจะช่วยให้เรามีความพร้อมทางด้านจิตใจมากขึ้น

5.ระวังพฤติกรรมที่ทำให้เสียสมาธิ

หากเป็นคนประเภทที่พบว่าตัวเองต้องเลื่อน Instagram 10 ครั้งต่อวันหรือนั่งเฝ้า Facebook ดังนั้น หนึ่งในสิ่งที่จำเป็นของการ Work from Home คือ ลดความฟุ้งซ่านของตัวเอง โดยล็อกเอาต์ออกจากบัญชี Social ทั้งหมดของเราบนคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ในช่วงเริ่มต้นของวันทำงาน และหวังว่าจิตจะแข็งพอที่จะไม่ล็อกอินกลับเข้าไป แต่อย่างน้อย ๆ ช่วงที่ต้องกรอก Username และ Password ก็น่าจะช่วยดึงสติได้บ้าง

6.เลือกเพลงที่เหมาะ

มีงานวิจัยมากมายที่แสดงให้เห็นว่าดนตรีสามารถช่วยเร่งความเร็วในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในระดับพื้นฐานที่สุด เพลงจะช่วยเพิ่มอารมณ์ของเรา ซึ่งจะทำให้เราอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อให้ทำงานได้อย่างลื่นไหล และยังมีงานวิจัยที่แสดงว่า สมองของเราจะใช้เวลาโฟกัสได้ง่ายขึ้นเมื่อมีซาวด์แทร็กที่ถูกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับดนตรีบรรเลงที่ไม่มีเนื้อเพลง รวมถึงเพลงที่คุ้นเคยที่คุณเคยได้ยินมาก่อน

7.ล็อกเวลาดูแลตนเอง 30 นาทีทุกวัน

เลือกสิ่งที่ทำให้มีความสุขสดชื่นและมีพลังมากที่สุดและพยายามให้ตัวเอง 30 นาทีต่อวัน อาทิ ออกไปเดินเล่นยืดกล้ามเนื้อ, อ่านหนังสือหรือชมภาพยนตร์หรือการแสดงที่คุณสนใจ, สำรวจงานอดิเรกใหม่ ๆ ที่คุณอยากลอง, โทรหาคนที่คุณรักหรือแค่เพียงนอนบนเตียงและจ้องมองเพดาน

8.ขอความช่วยเหลือได้ถ้าจำเป็น

บางทีการทำงานที่บ้าน เราอาจจะกดดันตัวเองมากเกินไปเพราะไม่มีใครให้เดินไปปรึกษาง่าย ๆ หรือมีทีมคอยช่วยเหลือ ดังนั้น เราสามารถขอความช่วยเหลือได้ นี่ไม่ใช่สัญญาณของความอ่อนแอ แต่เป็นสัญญาณของการทำงานเป็นทีม

9.บอกถึงช่วงเวลาการทำงานให้คนอื่นในบ้าน

การทำงานจากที่บ้าน แน่นอนว่าต้องเผชิญกับเด็ก ๆ หรือสมาชิกในครอบครัวซึ่งมันทำให้การทำงานเป็นไปได้ยากขึ้น ดังนั้นอาจจะต้องแจ้งครอบครัวล่วงหน้า เพื่อจะสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น

10.ให้เครดิตกับตัวเอง!

บางครั้งคุณรู้สึกผิดที่ทำงานได้ไม่ดีพอ นี่คือส่วนสำคัญของการเรียนรู้วิธีการทำงานจากที่บ้านให้ประสบความสำเร็จ คือต้องมีความยืดหยุ่นและให้เครดิตกับตัวเองสำหรับงานที่ยอดเยี่ยมทั้งหมดที่ทำ

อย่างไรก็ตาม เราอาจะต้องลองผิดลองถูก ลองผสมผสานระหว่างความรู้และการเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง เพื่อหาวิธีที่จะช่วยเหลือเองในแบบที่ทำให้เราสบายใจ มีความสุขและสามารถทำงานให้เสร็จได้

Source