“โบอิ้ง” ปลดพนักงาน 16,000 คน หลังประเมิน “อุตสาหกรรมการบิน” จะไม่ฟื้นอีกหลายปี

Boeing
อุตสาหกรรมการบินเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่ได้รับแรงสั่นสะเทือนสูงสุดท่ามกลางวิกฤต COVID-19 ล่าสุด “โบอิ้ง” ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตเครื่องบินแห่งสหรัฐฯ ประกาศเตรียมปลดพนักงาน 16,000 คน หลังไตรมาสแรกรายได้หดไปแล้ว 26% และขาดทุน 641 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“การระบาดทั่วโลกได้เปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตและการทำงานของเราไป” เดวิด คาฮูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โบอิ้ง กล่าวในคำแถลงถึงพนักงาน “มันได้เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมของเรา เรากำลังเผชิญความท้าทายที่คาดไม่ถึง”

เนื่องจากสายการบินทั่วโลกกำลังพยายามต่อสู้กับวิกฤตครั้งนี้ โดยมีการประเมินว่าธุรกิจสายการบินจะสูญเสียรายได้ไปกว่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ภายในสิ้นปี ดังนั้น สายการบินต่างๆ ย่อมตัดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด มีการยกเลิกคำสั่งซื้อ ชะลอการรับเครื่องบิน รวมไปถึงการบำรุงรักษาด้วย

โบอิ้งย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับผลกระทบในซัพพลายเชน และรับมือกับผลกระทบด้วยการชะลอการผลิตเครื่องบินหลายรุ่นไปแล้ว ทั้ง 737 Max (รุ่นเจ้าปัญหา), 787, 777 และ 777x มีความพยายามระดมทุนทั้งจากรัฐบาลและตลาดทุน แต่ก็ยังไม่เพียงพอจนต้องปลดพนักงาน

โดยคาดว่าจะปลดพนักงานประมาณ 10% ของทั้งบริษัท และพนักงานในแผนกที่ได้รับผลกระทบสูงสุดคือส่วนเครื่องบินพาณิชย์และธุรกิจบริการ จะถูกปลดประมาณ 15% รวมแล้วประมาณ 16,000 คนที่จะถูกเลย์ออฟ ขั้นแรกจะเริ่มจากโครงการสมัครใจลาออกและเออร์ลี่ รีไทร์ก่อน คาดว่าพนักงานชุดแรกที่เลย์ออฟจะเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้

“ผมรู้ว่าข่าวนี้เป็นเรื่องน่าผิดหวังในสถานการณ์ที่ท้าทายอยู่แล้ว” คาฮูนกล่าวในคำแถลงถึงพนักงาน “ผมเสียใจที่จะเกิดผลกระทบกับพวกคุณหลายคน ผมหวังอย่างจริงใจว่า จะมีทางอื่นนอกจากนี้”

 

การบินไม่น่าจะฟื้นกลับมาถึงจุดเดิมได้ใน 3 ปี

โบอิ้งเพิ่งรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2020 โดยรายได้ประจำไตรมาสอยู่ที่ 1.69 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 26% และขาดทุนสุทธิ 641 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับไตรมาสแรกของปี 2019 ที่โบอิ้งมีกำไร 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ

เรียกว่าสถานการณ์กลับกันโดยสิ้นเชิงเนื่องจากโรคระบาดที่ซ้ำเติมปัญหา 737 Max ที่บริษัทมีอยู่เดิม ระหว่างไตรมาสแรก โบอิ้งมีคำสั่งซื้อใหม่เพียง 49 รายการ และยังถูกยกเลิกคำสั่งซื้อไปถึง 196 รายการด้วย

โบอิ้งยังประเมินด้วยว่า อุตสาหกรรมการบินไม่น่าจะฟื้นกลับมาถึงระดับสูงสุดที่เคยเป็นก่อนเกิดโรคระบาดได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า และคิดว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีจากนั้นกว่าที่การเดินทางจะกลับมาเติบโตสูงดังเดิม

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน British Airways สายการบินอังกฤษเพิ่งประกาศว่าจะมีการปรับโครงสร้างบริษัท และผลของมาตรการนี้อาจจะทำให้พนักงานราว 1 ใน 4 หรือประมาณ 12,000 คนถูกเลย์ออฟ ขณะที่สายการบิน Virgin Australia เพิ่งประกาศล้มละลาย

สายการบินไทย ก็กำลังระส่ำเช่นกัน จากผลขาดทุน1.2 หมื่นล้านบาทเมื่อปี 2562 บวกกับวิกฤตครั้งนี้ ต้องติดตามว่ารัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป

Source