สมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทยยืนยัน แอลกอฮอล์ไม่ใช่สาเหตุการแพร่เชื้อโควิด 19

สมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย หรือ TABBAแสดงจุดยืนของภาคธุรกิจเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19โดยยืนยันว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่สาเหตุให้เกิดการแพร่เชื้อ แต่เกิดจากการรวมกลุ่มชุมนุมกันซึ่งอาจเกิดจากกิจกรรมใดก็ได้ พร้อมแนะนำผู้บริโภค”ดื่มที่บ้าน ไม่รวมกลุ่ม ต้านโควิด ไม่ติดต่อ”โดยรณรงค์ขอความร่วมมือทั้งผู้บริโภคและผู้ขายให้ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐเพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดยึดหลักการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) งดรวมกลุ่มสังสรรค์ และบริโภคอยู่ที่บ้านอย่างรับผิดชอบในขณะที่ภาครัฐต้องชัดเจนในการปราบปรามผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด

สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19ที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยส่งผลให้รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการในการควบคุมป้องกันเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการดำรงชีพได้ โดยรัฐยังคงเน้นย้ำให้ประชาชนเฝ้าระวังการแพร่ระบาดลดการรวมตัวเป็นกลุ่มเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) รณรงค์ให้ประชาชนอยู่ในที่พักอาศัยส่งเสริมการทำงานที่บ้าน (Work From Home) และงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตจังหวัดโดยไม่มีเหตุจำเป็นสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทยหรือTABBA สนับสนุนมาตรการข้างต้นของภาครัฐทุกประการ โดยเชื่อว่าหากประชาชนปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ประเทศไทยจะสามารถควบคุมโรคระบาด อีกทั้งฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามทางสมาคมฯ ยังขอยืนยันว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่สาเหตุของการแพร่ระบาด และการห้ามจำหน่ายเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด ทั้งยังจะก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น เหล้าเถื่อน ตลาดมืด ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลเสียต่อทั้งภาครัฐและประชาชน

นายธนากร คุปตจิตต์ นายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย หรือ TABBAกล่าวว่า “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้เป็นสาเหตุให้เกิดการแพร่เชื้อ อาจมีคนมองว่าแอลกอฮอล์ต้องมาพร้อมกับการสังสรรค์ในหมู่เพื่อนซึ่งไม่เป็นความจริงเสมอไป ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่อาจเป็นต้นตอให้เกิดการรวมตัวเป็นกลุ่มก้อน TABBA จึงมองว่าการระงับห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด สิ่งที่ควรทำคือสร้างความเข้าใจและย้ำเตือนผู้บริโภคให้ปฏิบัติตามมาตรการSocial Distancing ของภาครัฐ ว่าเราต้องปรับตัวตามสภาวะปกติแบบใหม่ หรือ  New Normal ที่การฉลองสังสรรค์จะทำในรูปแบบเดิมไม่ได้ในช่วงเวลานี้และขอให้ภาครัฐบังคับใช้กฎหมายในการปราบปรามผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโรคระบาดอย่างเคร่งครัด”

TABBA จึงขอย้ำเตือนนักดื่มให้รู้เท่าทันการบริโภคแอลกอฮอล์ของตน ให้สอดคล้องและไม่ฝ่าฝืนกับมาตรการของรัฐ คือ ไม่รวมกลุ่มสังสรรค์ ไม่บริโภคเครื่องดื่มจากแก้วหรือภาชนะเดียวกัน ไม่บริโภคในที่สาธารณะ และการดื่มที่บ้านก็ยังต้องทำอย่างรับผิดชอบ โดยไม่ดื่มขณะท้องว่าง ดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ ดื่มน้ำตามเยอะๆ  ไม่ดื่มเกินพอดีจนขาดสติสัมปชัญญะนอกจากนี้ยังควรกำหนดวันงดดื่มหรือหากิจกรรมอย่างอื่นทำเพื่อผ่อนคลายเนื่องจากในช่วงการแพร่ระบาด เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนควรครองสติให้ได้มากที่สุด การดื่มอย่างรับผิดชอบที่บ้าน จึงนับว่าเป็นการเฝ้าระวังตัวเองไม่ให้เป็นภาระแก่สังคมในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้อีกด้วย นอกจากนี้ TABBA ยังแนะนำให้ผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัดระเบียบในการซื้อขาย ให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม แจกบัตรคิวการเข้าซื้อเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อและความชุลมุนจึงขอฝากให้ผู้ขายช่วยสอดส่องดูแลอีกทาง โดยเชื่อมั่นว่าหากทุกฝ่ายช่วยกันรณรงค์ให้ผู้บริโภคเข้าใจสภาวะปกติแบบใหม่ หรือ New Normal นี้ ก็จะสามารถเฝ้าระวังการแพร่เชื้อได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการหักดิบที่ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศ

เกี่ยวกับสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย 

สมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย (Thai Alcoholic Beverage Business Association: TABBA) ก่อตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2552 โดยผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 7 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด, บริษัท บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท บราวน์ ฟอร์แมน (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เพอร์นอต  ริคาร์ด ประเทศไทย (จำกัด), บริษัท สยามไวเนอรี่ เทรดดิ้ง พลัส จำกัด และบริษัท อินดิเพนเดนท์ ไวน์ แอนด์ สปิริต (ประเทศไทย) จำกัด

พันธกิจหลักของ TABBA ประกอบด้วย

  1. การสนับสนุนส่งเสริมการทำการตลาดและสื่อสารการตลาดของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีจรรยาบรรณและ รับผิดชอบต่อสังคม พร้อมร่วมมือกันกำหนดกฎเกณฑ์การควบคุมตนเอง(self-regulation) ในประเด็นดังกล่าว
  2. ร่วมมือกับภาครัฐในทุกมิติ พร้อมนำเสนอข้อมูลวิจัยและงานวิชาการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการกำหนดแผนงาน นโยบาย และมาตรการต่าง ๆ ในการกำกับดูแลธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ