อังกฤษเล็งให้ “สัญชาติ” ชาวฮ่องกงเกือบ 3 ล้านคน ตอบโต้ “จีน” ออกกฎหมายความมั่นคง

(Photo by Zach Gibson/Getty Images)
รัฐบาลอังกฤษมีแผนขยายสิทธิทางวีซ่าและเพิ่มโอกาสในการได้รับสัญชาติอังกฤษแก่ประชากรเกือบ 3 ล้านคนในฮ่องกง เพื่อตอบโต้ที่จีนจะนำกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติมาบังคับใช้กับอดีตอาณานิคมของตน

สภาประชาชนแห่งชาติจีนได้อนุมัติแผนบังคับใช้ “กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ” ในฮ่องกง ซึ่งบรรดานักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย นักการทูต และคนในแวดวงธุรกิจบางคนมองว่าจะเป็นการบ่อนทำลายอำนาจปกครองตนเองขั้นสูงและความเป็นศูนย์กลางการเงินโลกของฮ่องกง

อังกฤษ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา รวมถึงสหภาพยุโรป ต่างออกมาประสานเสียงวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของจีนอย่างรุนแรง

โดมินิก ราบ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ ระบุเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ว่า หากปักกิ่งยังคงเดินหน้าใช้กฎหมายความมั่นคงกับฮ่องกง อังกฤษก็จะขยายสิทธิทางวีซ่าให้แก่ ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางสัญชาติอังกฤษนอกราชอาณาจักร (British National Overseas – BNO) ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 350,000 คนในฮ่องกง โดยจะขยายระยะเวลาจาก 6 เดือนเป็น 12 เดือน และจะเปิดทางให้คนกลุ่มนี้ได้รับสัญชาติอังกฤษในอนาคตด้วย

(Photo by Anthony Kwan/Getty Images)

กระทรวงมหาดไทยอังกฤษได้ชี้แจงเพิ่มเติมในวันที่ 29 พ.ค. ว่า สิทธิ์ดังกล่าวจะถูกมอบให้แก่ผู้ใดก็ตามที่มีคุณสมบัติในการขอหนังสือเดินทาง BNO ซึ่งถ้าวัดกันในจุดนี้จะมีชาวฮ่องกงที่อาจได้รับสิทธิ์ถึง 2.9 ล้านคน โดยอีก 2.55 ล้านคนที่เพิ่มเข้ามานั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เคยถือ BNO อยู่แล้ว แต่ไม่ได้มาต่ออายุ

หนังสือเดินทาง BNO นั้นถูกออกให้แก่พลเมืองฮ่องกงที่เกิดก่อนอังกฤษส่งมอบเกาะแห่งนี้คืนให้แก่จีนในปี 1997

“หากจีนบังคับใช้กฎหมายนี้ เราก็จะเตรียมช่องทางต่างๆ ให้ผู้ที่ถือหนังสือเดินทาง BNO สามารถขอเข้ามาพำนักอยู่ในสหราชอาณาจักรได้ รวมถึงเปิดโอกาสให้ได้รับสัญชาติอังกฤษด้วย” ปรีติ ปาเทล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยอังกฤษ ระบุในถ้อยแถลง “อังกฤษจะเดินหน้าปกป้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในฮ่องกง”

รัฐบาลปักกิ่งระบุว่า กฎหมายความมั่นคงที่เตรียมบังคับใช้ก่อนเดือน ก.ย. มุ่งลงโทษผู้ที่พยายามแบ่งแยกดินแดน ล้มล้างอำนาจรัฐ ก่อการร้าย และกระทำการใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ แต่ยืนยันว่ากฎหมายนี้จะไม่เป็นภัยคุกคามต่ออำนาจปกครองตนเองขั้นสูงของฮ่องกง และไม่กระทบต่อผลประโยชน์ของนักลงทุนต่างชาติ

Source