Wongnai ผุดฟีเจอร์-บริการล่าสุดในแนวคิด “Back To Life” ให้คนไทยเริ่มต้นใช้ชีวิต New Normal รับคลายล็อกเฟส 3

Wongnai รับคลายล็อกเฟส 3 ผุดฟีเจอร์-บริการล่าสุด ในแนวคิด “Back To Life” เตรียมความพร้อมให้คนไทยเริ่มต้นใช้ชีวิตแบบ New Normal ด้วยไฮไลท์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์ Badge “Be Safe” ให้ค้นหาร้านอาหารที่มีมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย รวมถึงเช็กร้านที่เปิดให้นั่งกินที่ร้านได้ เพิ่มความมั่นใจในการทานนอกบ้าน แคมเปญดีลสุดคุ้มจากร้านอาหาร คลินิกเสริมความงาม สปา และที่พักระดับ 4-5 ดาวทั่วไทยกว่า 600 ดีล ให้กลับไปใช้ชีวิตที่คิดถึง รับส่วนลดสูงสุดกว่า 90% ที่สามารถเก็บไว้ใช้ได้สูงสุดถึง 2564 รวมถึงฟีเจอร์และบริการอื่นๆ อีกมากมาย บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Wongnai เท่านั้น

ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท วงใน มีเดีย จำกัด กล่าวว่า “ตั้งแต่เริ่มผ่อนปรนให้นั่งทานอาหารที่ร้านได้เมื่อวันที่ 3 พ.ค. และผ่อนปรนเปิดห้างเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจร้านอาหารเริ่มมีรายได้กลับมาราว 50-60% โดยจากฐานข้อมูลของ Wongnai พบว่า มีร้านอาหารมากกว่า 8,000 ร้านที่มีมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยตามแนวปฏิบัติของ ศบค. และอีกกว่า 4,500 ร้านที่เปิดให้นั่งทานที่ร้านได้ นอกจากนี้ แคมเปญดีลที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง New Normal ในการปรับตัวของธุรกิจช่วงวิกฤตเพื่อเพิ่มกระแสเงินสดหมุนเวียน โดยช่วงเวลาล็อกดาวน์ เดือนเม.ย. – พ.ค. ที่ผ่านมา มีร้านอาหารและคลินิกเสริมความงามกว่า 170 ร้านที่เข้าร่วมขายดีลผ่าน Wongnai และมียอดขายดีลผ่าน Wongnai รวมมากกว่า 4,000 ครั้ง เมื่อดูจากแนวโน้มที่เกิดขึ้น ธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์ต่างๆ พร้อมที่จะต้อนรับชีวิตปกติวิถีใหม่ โดย Wongnai ในฐานะซูเปอร์ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อคนไทยกับบริการด้านไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เราได้พัฒนาฟีเจอร์และบริการใหม่ๆ มากมาย ภายใต้แนวคิด ‘Back To Life’ เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ทุกคนได้เริ่มต้นใช้ชีวิตแบบ New Normal”

Wongnai ชวน “Back To Life” ให้คนไทยเริ่มต้นใช้ชีวิต New Normal ไปด้วยกัน บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Wongnai ด้วยฟีเจอร์ใหม่และบริการไฮไลท์มากมาย ได้แก่

  • ฟีเจอร์ใหม่ Badge “Be Safe” ให้ค้นหาร้านอาหารที่มีมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย รวมถึงเช็กว่าร้านเปิดให้นั่งทานที่ร้านได้หรือไม่อีกด้วย นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถร่วม #ปลดล็อกร้านด้วยรูปของคุณ ด้วยการอัปโหลดรูปภาพบรรยากาศร้านที่เปิดให้นั่งทานที่ร้านได้แล้วบน Wongnai เพื่อบอกต่อให้ผู้ร่วมใช้งานทุกคนเตรียมตัวออกไปทานอาหารที่ร้านโปรดได้อย่างมั่นใจ

  • แคมเปญดีลสุดคุ้ม พิเศษสุดสำหรับเดือนมิถุนายนนี้ Wongnai เอาใจสายท่องเที่ยว ชวนแพ็คกระเป๋ากลับไปท่องเที่ยวหลังคลายล็อกดาวน์ ด้วยดีลสุดคุ้มสำหรับโรงแรมและที่พักระดับ 4-5 ดาวอีกกว่า 30 แห่งทั่วไทย ทั้ง หัวหิน เขาใหญ่ เชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต และอีกมากมาย รับส่วนลดที่พักสูงสุดกว่า 70% เริ่มต้น 999 บาท เข้าพักได้ถึงปี 2564 พร้อมด้วยดีลสุดคุ้มอีกกว่า 600 ดีลจากร้านอาหาร คลินิกเสริมความงาม และสปา ค้นหาได้ที่ https://www.wongnai.com/evouchers

  • นวดที่บ้านปลอดภัยกว่ากับ Wongnai Massage at Home กลับมาอีกครั้งกับบริการนวดถึงที่ เรียกพนักงานนวดจาก Wongnai ไปที่บ้านหรือออฟฟิศ เลี่ยงพื้นที่แออัด ไม่ต้องเดินทาง และไม่ต้องใช้ของร่วมกับผู้อื่น พร้อมด้วยมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และมาตรการคัดกรองผู้รับบริการที่เคร่งครัด เชื่อมั่นได้ในความสะอาดและปลอดภัย เริ่มต้น 599 บาท สามารถนวดได้นานสุดถึง 4 ชั่วโมง และสามารถแชร์กับเพื่อนหรือครอบครัวได้ (3 กม. แรก ฟรีค่าเดินทาง) พื้นที่ให้บริการในเขตไม่เกิน 5 กม. จากสถานีรถไฟฟ้า BTS และ MRT กดจองพนักงานนวดได้แล้วบนแอป Wongnai เท่านั้น

  • บริการ Delivery และ Pickup สำหรับทุกคนที่คุ้นชินกับการสั่งอาหารแบบ New Normal สามารถสั่งอาหารเดลิเวอรีกว่า 100,000 ร้านทั่วไทย ส่งฟรี 3 กม.แรก (เฉพาะร้านที่ร่วมรายการ) ผ่านเว็บไซต์และแอป Wongnai และ LINE MAN ได้ในทันที พร้อมด้วยโปรโมชันมากมาย นอกจากนี้ ฟีเจอร์ “Pickup (รับที่ร้าน)” ให้กดสั่งอาหารล่วงหน้าและจ่ายเงินผ่านแอป แล้วแวะไปรับที่ร้านหรือ Drive Thru ก็ได้ สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอคิวหน้าร้าน ลดการสัมผัส และไม่เสียค่าบริการ รับอาหารที่ร้านกว่า 5,000 ร้านได้แล้ววันนี้

“ตลอดช่วง 2 เดือนแห่งความยากลำบากที่ผ่านมา วาระสำคัญสูงสุดของ Wongnai คือการพัฒนาแอปพลิเคชัน ฟีเจอร์ คอนเทนต์ และบริการมากมายที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อร้านอาหารทั่วประเทศ รวมถึงธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์อื่นๆ เข้ากับคนไทยให้สู้ไปด้วยกัน ในเวลานี้ที่สถานการณ์ผ่อนคลายมากขึ้น เราก็จะยังคงยึดมั่นภารกิจในการเชื่อมต่อสิ่งดีๆ เพื่อเป็นตัวช่วยให้ทุกคนสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติในวิถีใหม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เราทุกคนก็ต้องอย่าลืมปฏิบัติตามแนวทางป้องกันอย่างเคร่งครัดเพื่อรักษาสมดุลระหว่างสุขภาพและสภาพเศรษฐกิจโดยรวม” ยอดกล่าวสรุป