กลุ่มบริษัทรองเท้าเอส.ซี.เอส. ผู้ผลิตรองเท้านักเรียนผ้าใบเบรกเกอร์ รองเท้านักเรียนป๊อบทีนและรองเท้านักเรียนแคทช่าเชื่อมั่นตลาดรองเท้านักเรียนไทยมูลค่า 5,000 ล้านบาท จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังจากชะลอตัวจากการเลื่อนเปิดภาคเรียน พร้อมชูโครงการ CSR ช่วยเหลือนักเรียนที่ประสบปัญหาจากวิกฤตโควิด-19อัดงบโฆษณาและกิจกรรมทางการตลาดเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาดึงวงพาราด็อกซ์วงตะโพนไทย และนางเอกน้องใหม่ ปิ่น-ชรินพร เงินเจริญ มิสทีน ไทยแลนด์ปี 2562 มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อปลุกกำลังซื้อให้กลับมา และพาแบรนด์เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคให้มากที่สุด
นายสมฤกษ์ วงศ์วีระนนท์ชัย รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทรองเท้า เอส.ซี.เอส. เปิดเผยว่า“โดยปกติช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจะเป็นช่วงเปิดภาคเรียน แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19ทำให้มีการเลื่อนเปิดภาคเรียนออกไป แผนการตลาด การกระจายสินค้า การยิงโฆษณาต่างๆ จึงมีการเลื่อนออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทั้งนี้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการเลื่อนการเปิดภาคเรียนจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรองเท้านักเรียนเป็นระยะเวลายาวนาน เพราะรองเท้านักเรียนเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ปกครองต้องจัดหามาให้บุตรหลานเพื่อสวมใส่ไปโรงเรียนอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้อาจจะมีการชะลอการตัดสินใจซื้อ แต่มั่นใจกำลังซื้อจะกลับมาคึกคักอีกครั้งรับเปิดภาคเรียนเพราะรองเท้านักเรียนเป็นสินค้าจำเป็นไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย
ส่วนการแข่งขันของ Back to School ในปีนี้จะยาวนานตั้งแต่เดือนมิถุนายน จนถึง 1 กรกฏาคม 2563 ซึ่งเป็นวันเปิดเรียนของโรงเรียนต่างๆ ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันของปีนี้สนุกมากขึ้น เพราะแบรนด์รองเท้าจะมีเกมการตลาดที่มีสีสัน ซึ่งบริษัทฯถือว่ามีความพร้อมในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วนทั้งในด้านคุณภาพสินค้า Product Line ครอบคลุมตั้งแต่อนุบาลไปจนถึง มัธยมศึกษาตอนปลาย และคนทำงาน พร้อมอัดงบการตลาดเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา3 เรื่อง ออนแอร์ผ่านสื่อโทรทัศน์และสื่อออนไลน์พร้อมกันในเดือนมิถุนายน โดยได้ 3 พรีเซ็นเตอร์ที่มี Character เฉพาะตรงกับแต่ละแบรนด์ปีนี้รองเท้านักเรียนผ้าใบเบรกเกอร์กับสโลแกน“เบรกเกอร์ สั่งได้ดั่งใจ” ได้วงพาราด็อกซ์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์และในส่วนของรองเท้าป๊อบทีน ตามสโลแกน “เห็นแล้วปิ๊ง ใส่แล้วป๊อป” ได้น้องปิ่น-ชรินพร เงินเจริญ มิสทีน ไทยแลนด์ปี 2562มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ และสำหรับสาวเปรี้ยวแคทช่า สโลแกน“แคทช่าซ่าสุดๆ”ได้น้องฟ้า จากวงตะโพนไทย มือกีตาร์สาวขาร็อกที่มีเทคนิคการเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าที่น่าสนใจมากซึ่งตรงกับBrand Character
สำหรับช่องทางการกระจายสินค้าของบริษัทฯ ครอบคลุมเทรดดิชั่นนัลเทรด โมเดิร์นเทรด และออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศและให้สอดคล้องกับวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ต้องใช้วิถีใหม่ (NEW NORMAL) ในการให้บริการ โดยเน้นการส่งสินค้าที่สะดวกสบาย ปลอดภัย พร้อมจัดโปรโมชั่นมากขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย ในปี 2563 นี้ถือเป็นปีที่มีความท้าท้ายต่อภาคธุรกิจเป็นอย่างมาก บริษัทฯได้เตรียมแผนการรับมือไว้แล้วอย่างระมัดระวังในทุกๆ ขั้นตอน”นายสมฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติม
ตลอดเวลากว่า 40 ปีกลุ่มบริษัทรองเท้า เอส.ซี.เอส. ได้อยู่เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาวนาน ได้เล็งเห็นความเดือนร้อนของคนไทย และมีเจตนารมณ์ที่จะร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมได้มีการเปิดโครงการร่วมปันน้ำใจผ่านวิกฤตโควิด-19 มอบรองเท้านักเรียนคู่ใหม่ให้กับน้องๆ ที่เดือดร้อน โดยเริ่มโครงการนำร่องแจกรองเท้าแล้ว6 ชุมชนในเขตกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ชุมชนสุขุมวิท 93 ชุมชนเปี่ยมสุข ชุมชนเปี่ยมเจริญสุข ชุมชนสาหร่ายทองคำ ชุมชนฤกษ์เที่ยง และชุมชนหมาหลง และจะกระจายสู่ชุมชนอื่นๆที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไปและเพื่อต้อนรับเปิดเทอมใหม่นิ้ บริษัทฯได้ผลิตหน้ากากผ้าไว้ให้น้องๆนักเรียนได้ใช้สวมใส่ไปโรงเรียน โดยได้ส่งมอบหน้ากากอนามัยจำนวน 10,000 ชิ้นให้กับคุณหญิงกัลยาโสภณพนิช รมช.กระทรวงศึกษาธิการ ให้ที่กระทรวงฯ เพื่อนำไปแจกให้แก่น้องๆนักเรียนทั่วประเทศต่อไป
ในสถานการณ์วิกฤตทางสังคมที่พวกเราคนไทยทุกคนประสบอยู่ในขณะนี้กลุ่มบริษัทรองเท้าเอส.ซี.เอส.ได้ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการทำสิ่งดีๆ เพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยทุกคนได้ก้าวผ่านสถานการณ์ที่วิกฤตไปด้วยกัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/scsbacktoschool