พลิกเกมกลยุทธ์ “อิงอร” ที่มากกว่า “สบู่” โอกาสเเบรนด์ไทย ปรับรับยุค New Normal


วิกฤตที่ไม่คาดฝันอย่างการเเพร่ระบาดของ COVID-19 สะเทือนทุกหย่อมหญ้าทั้งภาคธุรกิจเเละชีวิตประจำวันของทุกคนส่งผลให้เกิด New Normal เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค เมื่อผู้คนหันมาช้อปปิ้งออนไลน์ที่มากขึ้น สั่งอาหารออนไลน์มากขึ้น ทำงานเเบบ Work from Home รวมไปถึงการเรียนออนไลน์เเละใช้จ่ายเเบบไร้เงินสด

อีกหนึ่งพฤติกรรมที่จะกลายเป็น New Normal ของผู้บริโภคหลังจบ COVID-19 ที่น่าสนใจคือการที่ผู้คนหันมาใส่ใจในคุณภาพและหันมาใช้ “Local Brand” กันมากขึ้นเพราะผู้บริโภคเริ่มกังวลที่จะซื้อสินค้านำเข้า อีกทั้งผู้ผลิตในประเทศยังตอบสนองความต้องการได้ดีกว่าด้วย

นี่จึงเป็นโอกาสสำคัญของ Local Brand สินค้าผลิตในประเทศที่จะเร่งพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์สร้างความสัมพันธ์เเละความเชื่อมั่นให้ลูกค้าในระยะยาว

การปรับตัวของเเบรนด์ไทยที่มีการเปลี่ยนเเปลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงนี้ก็คือ “อิงอร” เเบรนด์สบู่สมุนไพรที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน เราต่างคุ้นชื่อกันดี

ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเราได้เห็น “อิงอร” ปรับกลยุทธ์ใหม่ที่เข้าถึงตลาดคนรุ่นใหม่มากขึ้นทั้งเรื่องเเพ็กเกจจิ้งเพิ่มสีสันความสดใส ออกผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย สร้าง Brand awareness ให้เป็นที่จดจำ ด้วยการใช้พรีเซนเตอร์ที่เป็นขวัญใจวัยรุ่น

การปรับตัวเหล่านี้ นับเป็น “กรณีศึกษา” การทำตลาดของเเบรนด์ไทยที่น่าสนใจไม่น้อย

– การเปลี่ยนเเปลงเเพ็กเกจจิ้งของผลิตภัณฑ์อิงอร เทียบระหว่างปี 2009 เเละปี 2020 โดยมีการปรับให้ดูสดใสเเละมินิมอลขึ้น

“อิงอร” ถือกำเนิดขึ้นในปี 2004 จนถึงตอนนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 16 เเล้วจากสมัยก่อนที่สบู่สมุนไพรยังจำกัดอยู่ในกลุ่มผู้ใช้เฉพาะกลุ่มสู่ปัจจุบันที่มีการขยายตลาดส่งออกไปถึง 12 ประเทศ

อาจกล่าวได้ว่า “เทรนด์รักสุขภาพ”  มีส่วนอย่างมากในการทำให้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติได้รับความนิยมขึ้นส่งผลให้การเเข่งขันของ “ตลาดสบู่สมุนไพร” ดุเดือดขึ้นไม่เเพ้กัน

ขณะเดียวกันพฤติกรรมการล้างมือป้องกันไวรัส COVID-19 มีส่วนทำให้ยอดส่งออกสินค้าสบู่และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นโดยมีตลาดสำคัญอย่าง ฮ่องกง ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีน เเละอาเซียน

จากข้อมูลล่าสุดของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศระบุว่าการส่งออกสบู่ไทยไปต่างประเทศในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2020 พุ่งขึ้นถึง 19% โดยในปี 2019 ไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าสบู่และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวอันดับที่ 9 ของโลกมีมูลค่าส่งออกกว่า 279 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 8.6 พันล้านบาท)

ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เเบรนด์ต้อง “เร่งเครื่อง” ปั้นกลยุทธ์ใหม่เพื่อเจาะใจผู้บริโภคทั้งในประเทศเเละทั่วโลก

ย้อนไปถึงการเริ่มเข้าตลาดของอิงอรที่ชู Product Benefit ด้วยการเป็น “สบู่มะขาม” ที่ผู้บริโภคคนไทยต่างรับรู้ถึงคุณสมบัติของ “มะขาม” เป็นอย่างดีว่าช่วยบำรุงดูแลผิวพรรณ ดังนั้นการสร้างการรับรู้ของเเบรนด์จึงไม่ยากนัก     จากนั้นได้รุกการสื่อสาร โดยการทำตลาดทั้ง Offline Media และ Online Media เข้าถึงผู้บริโภคครอบคลุมทั้งในวงกว้าง ตามมาด้วยการส่งสโลแกน #สวยจริงอิงอร มาเจาะตรงถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเสริมความสวยงามของผิวพรรณ

อิงอรได้ต่อยอดความสำเร็จไปไกลมากกว่าสบู่มะขาม โดยมีการขยายการเติบโตทางธุรกิจด้วยการแตกโปรดักต์ไลน์ใหม่ ทั้งสบู่ก้อน สกัดจากสมุนไพรธรรมชาติสูตรต่างๆ ครีมอาบน้ำเเละโลชั่นบำรุงผิวสมุนไพร ส่วนช่องทางการขายกระจายครอบคลุมทั้งร้านสะดวกซื้อไฮเปอร์มาร์เก็ต และซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงการจัดโปรโมชั่นต่างๆ ทางออนไลน์อย่างการ “ซื้อ 4 ฟรี 1” เป็นต้น

– ตัวอย่างการออกโปรโมชั่นทางออนไลน์ของอิงอร เพื่อส่งเสริมการขายในช่วง COVID-19

พร้อมกันนั้นมีการ “รีเเพ็กเกจจิ้ง” ให้มีสีสันสดใส ดีไซน์ให้ดูทันสมัย เข้าถึงง่าย ดูเเล้วรู้สึก “สดชื่น” เป็นการปรับภาพลักษณ์ของเเบรนด์ให้ดู “เด็กลง” เเต่ยังคงเป็นเเบรนด์ที่เเข็งเเกร่งด้วยการอยู่ในตลาดมานานกว่า  16 ปีเเละมีการพัฒนาต่อเนื่อง

“อิงอร” เริ่มรุกตลาดคนรุ่นใหม่อย่างเห็นได้ชัดมากๆ คือการเปิดตัวพรีเซนเตอร์ที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มวัยรุ่นอย่าง “ใบเฟิร์น – พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” นักเเสดงสาวที่มีผู้ติดตามในอินสตราเเกรมถึง 7.2 ล้านคนเเละมีผู้ติดตามในเพจเฟซบุ๊กถึง 5.6 ล้านคน โดยมีการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า Millenials มากขึ้น

ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคคุ้นชินกับการใช้เทคโนโลยีมากขึ้นผู้บริโภคเช็กข่าวเฉลี่ย 12 ครั้งต่อสัปดาห์ (ข้อมูลจาก Nielsen) เป็นโอกาสของเเบรนด์ต่างๆที่จะออกมาสร้าง Engagement สร้างเเคมเปญเชื่อมต่อกับลูกค้า โดยเฉพาะกิจกรรมที่กำลังมาเเรงอย่างการส่งต่อคำท้าหรือ  “Challenge” ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในโลกออนไลน์

โดยอิงอรถือเป็นแบรนด์สบู่ไทยแรกๆที่เข้าไปทำการตลาดบน TikTok เเอปพลิเคชั่นแชร์วีดีโอสุดฮิตพร้อมใช้เพลงสไตล์ “ลูกทุ่ง” ที่มีจังหวะสนุกสนานสะท้อนความเป็นไทยเพื่อเข้าถึง “คนไทย” อย่างเเท้จริง

พร้อมมีท่อนฮุคติดหู “วิ้ง เนียน เด้ง” ที่สื่อถึงคุณประโยชน์ของสบู่สมุนไพรอิงอรสูตรใหม่ “ส้ม มะละกอ” ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ เเละมีเสียงตอบรับที่ดีจากกระเเส #วิ้งเนียนเด้งChallenge

 

– กิจกรรม #วิ้งเนียนเด้งChallenge บนเเอปพลิเคชั่น TikTok

โดยเเคมเเปญใหม่อย่าง #วิ้งเนียนเด้งChallenge เปิดให้ทุกคนได้ร่วมสนุกโชว์การเต้นกับใบเฟิร์นตามสเต็ป
“วิ้ง เนียน เด้ง” จัดเต็มความสดใสพร้อมเเชร์ไปตามโซเชียลมีเดียต่างๆ เป็นการส่งต่อความสนุกสนานเเละการสื่อสารถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ไปพร้อมๆกัน

ดึงดูดผู้เข้าร่วมด้วยท่าเต้น 3 สเต็ปง่ายๆ อย่างเช่นท่า “วิ้ง วิ้ง” ให้ยกมือเเละโยกมือไปข้างๆ 2 ครั้ง ตามมาด้วยท่า“เนียน เนียน” จะให้แยกขาซ้ายออกมาเเละเอามือซ้ายลงลูบไปที่ขาแบบเซ็กซี่ จากนั้นท่าที่ 3 คือท่า“เด้ง เด้ง” จะเป็นการเอามือข้างขวาตบที่สะโพกเเล้วเด้งตัวไปตามจังหวะเพลง


โดยอิงอรได้นำเทรนด์ส่งต่อ Challenge นี้มาเป็นกลยุทธ์เชื่อมโยงกับ “สบู่สมุนไพรอิงอร ส้ม มะละกอ” สูตรใหม่ ชูความเป็นสมุนไพรแท้ สารสกัดเข้มข้นจากธรรมชาติ ไม่มีสาร SLS มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน อุดมไปด้วยสารสกัดเข้มข้น จากส้มและมะละกอ พร้อมขจัดเซลล์ผิวเก่าและสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวดูมีชีวิตชีวาและดูอ่อนเยาว์

– สบู่สมุนไพรอิงอร “ส้ม มะละกอ” สูตรใหม่

นับเป็นกลุยทธ์การตลาดที่เน้นเจาะลูกค้าคนรุ่นใหม่ ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัยเเละชอบเล่นโซเชียลมีเดีย อีกทั้งยังสร้าง Brand awareness ได้ในวงกว้าง

“อิงอร” จึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ไทยที่น่าจับตามอง ด้วยการเป็น “Local Brand” ที่สามารถดันผลิตภัณฑ์ให้ติดตลาดได้สำเร็จทั้งในเเละต่างประเทศ ผ่านการทำตลาดเเนวใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้คนไทยหันมาช่วยสนับสนุนเเบรนด์ไทย ให้รอดพ้นวิกฤตนี้ไปพร้อมๆกันด้วย