สิงห์ เอสเตท ไถ่ถอนหุ้นกู้แปลงสภาพ สร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน รองรับการเติบโตยั่งยืน พร้อมแรงหนุนจากกลุ่มบุญรอดและธนาคารชั้นนำ

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ประกาศความพร้อมให้ผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทฯ ที่ประสงค์จะขอไถ่ถอนหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 180,000,000 เหรียญสหรัฐ ทั้งหมด ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2563

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “S” กล่าวว่า บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำด้วยต้นทุนทางการเงินในระดับใกล้กับต้นทุนทางการเงินจากหุ้นกู้แปลงสภาพ จึงสามารถทำการไถ่ถอนหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวนดังกล่าวโดยไม่มีผลกระทบใดๆต่อสถานะการเงินของบริษัทฯ รวมถึงรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน ที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.86 เท่าได้อีกด้วย

“ด้วยการบริหารจัดการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพและอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนที่ต่ำมาก ทำให้ธนาคารมั่นใจที่จะให้การสนับสนุนทางการเงินกับเราเพื่อขยายธุรกิจต่อไป นอกจากนี้กลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่ผู้ถือหุ้นใหญ่ของเรายังคงมั่นใจ และคงสัดส่วนการถือครองหุ้นในสิงห์เอสเตทไว้ใกล้เคียงเดิมเช่นกัน” นายนริศกล่าว

ทั้งนี้บริษัทฯได้รับแจ้งจาก Singha Property Management (Singapore) Pte. Ltd. (“SPM SG”) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯว่าในวันที่ 24 กรกฎาคม 2563Credit Suisse AG สาขาฮ่องกง (“CS”) ได้คืนหุ้นของบริษัทฯจำนวน 626,301,966 หุ้นให้แก่ SPM SG ตามที่ได้มีการเลิกสัญญายืมและให้ยืมหุ้น (“SBL Transaction”) ที่ทำขึ้นระหว่าง SPM SG และ CS ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 ซึ่งจะทำให้การถือครองหุ้นของบริษัทฯโดย SPM SG เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.41 เป็นร้อยละ 12.55 ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ และการถือครองโดยกลุ่มบริษัทสิงห์ พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (“SPM”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มีจำนวนรวมกันเท่ากับร้อยละ 47.88 ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯซึ่งใกล้เคียงกับระดับก่อนที่จะมีการเข้าทำสัญญายืมและให้ยืมหุ้น แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯในมุมมองของบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด