STARK อวดกำไร 440 ล้านบ. มั่นใจครึ่งปีหลังโตแรงต่อเนื่อง

“สตาร์ค”  โชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 ทำกำไร 440.49 ล้านบาท โตกระฉูด 432.40 ล้านบาท หรือ 5,345 % เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ครึ่งปีกำไร 701 ล้านบาท ขณะที่รายได้ 4,657  ล้านบาท เติบโต  5,262 %  หลังรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ และธุรกิจสายไฟฟ้าในเวียดนาม-บริษัทย่อยในไทย กดพี/อี ลดฮวบเหลือ 75 เท่า “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” บิ๊ก STARK เชื่อพี/อี ลดต่อเนื่อง

บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2563 มีกำไรสุทธิ 440.49 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.018 บาท เทียบช่วงเดียวกัน เติบโต 432.40 ล้านบาท หรือ 5,345 % เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนกำไร 8.09 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือน กำไรสุทธิ 701.42 ล้านบาท ดีขึ้น 568.75 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน กำไร 132.67 ล้านบาท

นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) เปิดเผยว่า ไตรมาส 2/2563 บริษัท ฯ มีรายได้ 4,657 ล้านบาท เติบโตขึ้นเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน 1,624 ล้านบาท หากเทียบธุรกิจเดิมเติบโต 5,262% และกำไรสุทธิ 440.49 ล้านบาท เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเปรียบเทียบไตรมาส 1/2563 รายได้เติบโต 54.7 % กำไรเติบโต 68.8 %

สำหรับผลประกอบการที่ดีขึ้น ทั้งรายได้และกำไร ในไตรมาส 1 ต่อเนื่องไตรมาส 2 มีสาเหตุจากกรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยในประเทศไทย และการ consolidate บริษัทสายไฟ thipha และ dovina เข้ามาในไตรมาส 2 ปี 2563

นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า ผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ อัตราส่วน ราคาต่อกำไรต่อหุ้น หรือพี/อี (P/E ratio) ของบริษัทลดลงจาก 96 เท่า (ณ 3 ก.ค.63) เหลือ 75 เท่า หากพิจารณาจาก งบการเงิน 4 ไตรมาส ย้อนหลัง อย่างไรก็ดี หากพิจารณาสมมติฐานที่ว่า  กำไรสุทธิของบริษัทในครึ่งหลังของปี 2563 ไม่แตกต่างจากครึ่งแรกของปี 2563 อัตราส่วน P/E จะเท่ากับ 34 เท่า

สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2563 บริษัท ฯ ยังได้รับผลเชิงบวกจากการรับรู้รายได้เพิ่มเติมของ backlog จากหน่วยงานภาครัฐที่โดยมากจะสูงในไตรมาสสุดท้ายของปี รวมถึงกำไรที่จะเพิ่มมากขึ้นอีกจาก Synergies ต่าง ๆ ที่ทยอยเห็นผลจากการควบรวมกิจการสายไฟฟ้าในเวียดนาม