อังกฤษออกแคมเปญ ‘Eat out to help out’ ให้ส่วนลดค่าอาหาร 50% ตลอดเดือนส.ค. หวังกระตุ้นทานอาหารนอกบ้าน

เป็นที่รู้กันว่าร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 เพราะประชาชนไม่สามารถออกไปนั่งทานอาหารที่ร้านได้เหมือนปกติ ต้องสั่งทานที่บ้านเท่านั้น และแม้ว่าหลายประเทศจะเริ่มคลายล็อกดาวน์แล้ว แต่ร้านอาหารยังคงต้องจำกัดพื้นที่การให้บริการ ขณะที่ผู้บริโภคเองอาจยังไม่มั่นใจ ดังนั้น ประเทศอังกฤษจึงออกแคมเปญ ‘Eat out to help out’ เพื่อช่วยเหลือเหล่าร้านอาหารที่ได้ผลกระทบนี้

สำหรับแคมเปญ Eat out to help out’ หรือ ‘ชิม ช่วย ชาติ’ โดยรัฐบาลอังกฤษจะมอบส่วนลด 50% ให้กับเหล่านักชิมในทุกวันจันทร์ถึงพุธตลอดเดือนสิงหาคม โดยสามารถใช้ได้ไม่จำกัดมื้อผ่านร้านอาหารกว่า 72,000 แห่ง โดยไม่มีขั้นต่ำ แต่มีข้อแม้ว่าส่วนลดจะจำกัดที่ไม่เกิน 10 ปอนด์ต่อคน หรือราว 410 บาท ไม่สามารถใช้ได้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่สามารถใช้สำหรับซื้อกลับบ้านได้ โดยนักชิมสามารถใช้ส่วนลดได้บ่อยเท่าที่ต้องการในวันที่มีสิทธิ์และสามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้คูปองหรือโค้ดใด ๆ เพราะร้านจะหัก 50% จากบิลและเรียกเก็บส่วนลดจากรัฐบาลเอง

ที่ผ่านมา ธุรกิจอาหารของอังกฤษถือว่าได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก Covid-19 โดยร้านอาหารและธุรกิจบริการกว่า 80% ต้องปิดตัวลง ส่งผลให้ในเดือนเมษายนมีคนกว่า 1.4 ล้านคนต้องตกงาน ส่งผลให้รัฐบาลได้ออกแบบแคมเปญดังกล่าวเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนไปเยี่ยมชมร้านอาหาร, ร้านกาแฟและผับ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการถูกล็อกดาวน์ ซึ่งผลตอบรับในสัปดาห์แรกถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะผู้เข้าชมเว็บไซต์ถึง 3.3 ล้านครั้ง

“เป้าหมายของเราคือ การส่งเสริมให้ประชาชนออกไปทานอาหารนอกบ้าน เพื่อช่วยปกป้องงานกว่า 1.8 ล้านตำแหน่ง และธุรกิจร้านอาหารถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของเรา ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก Covid-19 ดังนั้นเพลิดเพลินกับฤดูร้อนอย่างปลอดภัยด้วยการไปสถานที่โปรดที่คุณให้การสนับสนุน และเราจะช่วยจ่ายครึ่งหนึ่ง” ริชี ซูนัก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าว

ริชี ซูนัก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

อย่างไรก็ตาม มีร้านเชนฟาสต์ฟู้ดหลายรายที่เข้าร่วมในโครงการนี้ อาทิ พิซซ่าเอ็กซ์เพรส, คอสต้าคอฟฟี่, และแมคโดนัลด์ ส่งผลให้นักวิจารณ์มองว่าร้านอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพควรถูกกีดกันออกจากโครงการ เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดโรคอ้วนได้ เนื่องจากว่าการเริ่มต้นของโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์ใหม่ของรัฐบาลในการรับมือกับโรคอ้วน

“รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชนเป็นอันดับแรกและแยกออกจากมื้ออาหารและเครื่องดื่มที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีส่วนทำให้เกิดโรคอ้วนเราไม่สามารถที่จะเสี่ยงชีวิตในขณะที่เราเปิดเศรษฐกิจใหม่”

Source