“อสมท” ครึ่งปีแรกขาดทุน 1,062 ล้าน “เขมทัตต์” หมดวาระกรรมการผู้อำนวยการใหญ่

อสมท เปิดผลประกอบการรายได้ 6 เดือนแรก 684 ล้านบาท แต่ยังคงขาดทุน 1,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะ COVID-19  ด้าน “เขมทัตต์ พลเดช” หมดวาระ แต่งตั้ง “สิโรตม์ รัตนามหัทธนะ” ขึ้นรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่

บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2563 มีรายได้ 319 ล้านบาท วางเป้าไตรมาส 3 มุ่งขับเคลื่อนองค์กรสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

เขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า

อสมท รายงานงบการเงินในไตรมาส 2 ปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 บริษัทมีผลขาดทุนสำหรับงวด ในไตรมาสที่ 2 จำนวน 184 ล้านบาท ซึ่งยังขาดทุนลดลง โดยคิดเป็นการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นถึง 79% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้

ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 ขาดทุนจำนวน 1,062 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ภาคธุรกิจต้องควบคุมค่าใช้จ่ายการใช้งบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ และในจำนวนดังกล่าวเป็นขาดทุนจากการด้อยค่าจำนวน 765 ล้านบาท (บมจ.อสมท ได้บันทึกค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์จำนวน 765 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 1 ปี 2563)

รวมรายได้งวด 6 เดือนแรกของ ปี 2563 อสมท มีรายได้จำนวน 684 ล้านบาท ลดลง 28% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นรายได้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2563 จำนวน 319 ล้านบาท

ทั้งนี้ เขมทัตต์จะครบวาระการดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เนื่องจากอายุครบ 60 ปี ในวันที่ 28 สิงหาคม 2563 ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ.อสมท ในการประชุมครั้งที่ 11/2563 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563

สิโรตม์ รัตนามหัทธนะ กรรมการบริษัท รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท

มีมติแต่งตั้ง สิโรตม์ รัตนามหัทธนะ กรรมการบริษัท รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท เป็นการชั่วคราว แทนนายเขมทัตต์ พลเดช โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2563 เพื่อให้การบริหารงานมีความต่อเนื่อง

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2563 ธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล (BNO) และการให้บริการเช่าช่องสัญญาณโทรทัศน์ดาวเทียม (MCOT Satellite Network) สร้างรายได้ 33% ธุรกิจวิทยุ 31% ธุรกิจโทรทัศน์ 28% ธุรกิจดิจิทัล 1% รายได้อื่นๆ 7% ธุรกิจโทรทัศน์และธุรกิจวิทยุยังคงเป็นธุรกิจหลักของบริษัท

  • ธุรกิจโทรทัศน์ มีรายได้ในช่วง 6 เดือนแรกจำนวน 201 ล้านบาท ลดลง 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยเป็นรายได้ในไตรมาสที่ 2 จำนวน 90 ล้านบาท
  • ธุรกิจวิทยุ มีรายได้ในช่วง 6 เดือนแรกจำนวน 233 ล้านบาท ลดลง 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยเป็นรายได้ในไตรมาสที่ 2 จำนวน 98 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 คลื่นวิทยุทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ต่างได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ COVID-19 ทุกคลื่นวิทยุมีรายได้ลดลง จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม คลื่นลูกทุ่งมหานคร FM 95 MHz ทำรายได้สูงที่สุดในคลื่นวิทยุของ บมจ.อสมท และมีรายได้ลดลงน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนคลื่นวิทยุอื่นๆ เช่น คลื่นความคิด FM 96.5 MHz, Mellow FM 97.5 MHz, Active Radio FM 99 MHz คลื่นข่าว FM 100.5 MHz และคลื่น MET 107 MHz ใช้กลยุทธ์ในการรักษาฐานผู้ฟังและกลุ่มลูกค้าด้วยกิจกรรมการตลาดใหม่ๆ เช่น การใช้เทคโนโลยีสื่อสารผ่านโปรแกรม Zoom การจัดกิจกรรมร่วมกับลูกค้าผู้สนับสนุนรายการและผู้ฟัง
  • ธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (BNO) และให้เช่าช่องรายการบนดาวเทียมในระบบ C-Band มีรายได้ใน 6 เดือนแรกปี 2563 จำนวน 196 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.รายได้ธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัล ตามที่ กสทช.มีมติเห็นชอบให้ทดลอง ส่งสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ในระบบดิจิทัลเพื่อการศึกษาในการส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ของเยาวชนและครอบครัว ซึ่งทำให้ บมจ.อสมท รับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และ 2.รายได้จากธุรกิจการให้เช่าช่องสัญญาณดาวเทียม โดยเป็นรายได้ในไตรมาสที่สองปี 2563 จำนวน 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

สำหรับการพัฒนาที่ดินย่านรัชดา-พระราม 9 (ที่ดิน 50+20 ไร่) อยู่ระหว่างการจัดทำข้อกำหนด การคัดเลือกผู้ลงทุนและเสนอผลประโยชน์ตอบแทนในการลงทุนให้แก่ บมจ.อสมท ที่คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในปี 2563 ทั้งนี้ราคาที่ดินประเมินในพื้นที่ดังกล่าว มีมูลค่า 5,000 ล้านบาท หากมีการพัฒนาที่น่าสนใจ ก็จะสร้างมูลค่าได้มากขึ้น”