“เทสโก้ โลตัส” เขย่าราคาสินค้าครั้งใหญ่ จัด “ราคามหาชน” ช่วยลูกค้าลดค่าครองชีพจาก COVID-19


“เทสโก้ โลตัส” เปิดแคมเปญสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ทุ่มงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท จัดแคมเปญ “ราคามหาชน” ตัด และตรึงราคาสินค้ามหาชน สูงสุด 50% ยาว 3 เดือน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนที่ได้รบผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

เพิ่มความสุข ให้คนไทยอิ่มท้อง

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ประเทศไทย และทั่วโลกต่างเผชิญภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้หลายธุรกิจต้องหยุดชะงัก หลายคนต้องตกงานกระทันหัน ซึ่งแน่นอนว่าต้องส่งผลต่อการดำรงชีวิต และค่าครองชีพอย่างมาก

ถึงแม้ว่าในตอนนี้สถานการณ์ในประเทศไทยจะเริ่มมีการคลายล็อกให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ตามปกติ แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซามาตั้งแต่ต้นปี ประกอบกับวิกฤตนี้ ยิ่งทำให้ประชาชนยังคงกังวลกับเศรษฐกิจ รวมถึงความมั่นคงของอาชีพ รายได้ และค่าครองชีพต่างๆ

จากผลสำรวจของ “เทสโก้ โลตัส” พบว่า ประชาชน 72% มีความกังวลเรื่องค่าครองชีพอย่างมาก มีความเชื่อว่าสินค้าต่างๆ จะมีการปรับราคาสูงขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้านี้

จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เทสโก้ โลตัสจัดแคมเปญ “ราคามหาชน” ขนทัพสินค้ายอดนิยมมาดัมพ์ราคา และตรึงราคาสูงสุดถึง 50% และไม่ใช่แคมเปญระยะสั้น แต่จัดไปยาวๆ ถึง 3 เดือนเต็มๆ นอกจากจะเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ด้วย เพื่อความสุข เพื่อความอิ่มท้อง ของมหาชนชาวไทย

วรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ประธานกรรมการฝ่ายการตลาด เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า

“สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ จากการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าล่าสุด พบว่าลูกค้ายังคงมีความกังวลอย่างสูงในด้านรายจ่าย ค่าครองชีพ และความมั่นคงของหน้าที่การงาน นอกจากนั้นมาตรการเยียวยา และความช่วยเหลือจากทางภาครัฐต่างๆ ส่วนมากก็สิ้นสุดลงตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา 

จึงเป็นที่มาของการจัดแคมเปญครั้งใหญ่สุดของปี “ราคามหาชน” ของเทสโก้ โลตัส โดยตัดราคาสินค้าที่จำเป็นทุกหมวดหมู่ และตรึงราคายาวนานกว่า 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม ถึง 25 พฤศจิกายน 2563 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้า และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19″

แคมเปญนี้ถือว่าเป็นแคมเปญที่ใหญ่ที่สุดแห่งปีเทสโก้ โลตัส ได้ใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นสูงสุด 50% รวมถึงตัดราคาอาหารพร้อมทาน และเมนูในศูนย์อาหารให้มีราคาเพียง 25 บาท ตลอดทั้งกว่า 3 เดือน

ซึ่งแคมเปญนี้ไม่ได้มีเงื่อนไขแค่บางสาขาเท่านั้น แต่ครอบคลุมเทสโก้ โลตัสในทุกช่องทาง ทั้งหน้าร้าน 2,000 กว่าสาขาทั่วประเทศ และทางเทสโก้ โลตัส ช้อปออนไลน์ ก็สามารถช้อปสินค้าราคามหาชนได้อย่างเต็มที่

ราคามหาชน จากมติมหาชน

ต้องบอกว่าในยุคนี้เป็นยุคของดิจิทัล และ Big Data การเปิดตัว หรือคิดค้น 1 แคมเปญ จำเป็นต้องนำข้อมูลในหลายๆ ส่วนมาประกอบ เพื่อดีไซน์แคมเปญให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด

แคมเปญ “ราคามหาชน” ในครั้งนี้ จึงมีความพิเศษที่แตกต่างจากแคมเปญ “โรลแบ๊ค” ที่เป็นแคมเปญลดราคาคู่บุญของเทสโก้ โลตัสมาอย่างยาวนาน เพราะมีการสำรวจความคิดเห็นจากลูกค้าและประชาชน ร่วมกับการใช้ Big Data เข้ามามีส่วนร่วม ถือเป็นการตัดสินใจจาก “มติมหาชน” นั่นเอง

การทำมติมหาชน มาจากการทำผลสำรวจกับลูกค้าของเทสโก้ โลตัสที่มีช้อปปิ้งในสโตร์ ประมวลข้อมูลลูกค้าจาก “คลับการ์ด” ที่มีฐานลูกค้ากว่า 15 ล้านคน รวมถึงการสอบถามผู้บริโภคในช่องทางออนไลน์กว่า 4 ล้านคน ถือเป็นครั้งแรกของเทสโก้ โลตัสที่ทำผลสำรวจออนไลน์

จาก Big Data ที่ได้มานั้น จะมาทำการวิเคราะห์ “ตะกร้าสินค้า” ของลูกค้าว่ามีสินค้าชิ้นไหนเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต สินค้าชิ้นนั้นส่วนใหญ่ลูกค้า 75% จะต้องซื้อทุกครั้งที่มาช้อปปิ้ง ซึ่งนำมาสู่สินค้ามหาชน ในราคามหาชน ในทุกหมวดหมู่สินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารพร้อมทาน อาหารปรุงสำเร็จ และเมนูในศูนย์อาหาร เหลือเพียงเมนูละ 25 บาท

ตัวอย่างสินค้ามหาชน ได้แก่
รายการสินค้า ราคาปกติ ราคามหาชน
เคลียร์ แชมพู 435,450,480 มล. ทุกสูตร 179 109
พนมรุ้ง ข้าวขาวหอมมะลิ 100% 5 กิโลกรัม 175 147
โอโม ผงซักฟอก สูตรมาตรฐาน 2,700 กรัม 139 105
อิชิตัน ชาเขียว ทุกรส 410,420 มล., เย็นเย็นโกลด์ 555 มล. 20 14
อาหารพร้อมทานและเมนูในศูนย์อาหาร 50 25

วรวรรณเสริมอีกว่า ในช่วง 3 เดือนของแคมเปญนี้ จะมีการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีสินค้าตัวไหนที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ก็จะมีการเพิ่มสินค้าเข้ามาเสริมทัพเรื่อยๆ

โดยแคมเปญราคามหาชน เข้ามาเสริมโปรโมชั่นราคาอื่นๆ ที่มีอยู่ตลอดเวลาตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น การรับส่วนลดทันทีที่แคชเชียร์เมื่อซื้อสินค้า, ซื้อ 1 แถม 1, ซื้อหลายชิ้นประหยัดกว่าเดิม และราคาอาหารสดสุดคุ้ม เพื่อยกระดับความคุ้มค่าและรับประกันความสุขให้กับประชาชนคนไทย ผ่านวิกฤต COVID-19 ไปด้วยกัน

ทั้งนี้ วรวรรณได้ปิดท้ายว่า “การช่วยลูกค้าและประชาชนประหยัดค่าครองชีพ โดยมีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการ จำหน่ายในราคายุติธรรม เป็นหนึ่งใน 3 พันธกิจที่สำคัญของเทสโก้ โลตัส ตลอดระยะเวลาของสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ถึงแม้ว่าปัจจุบัน สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยอยู่ภายใต้การควบคุม แต่ผลกระทบในด้านเศรษฐกิจยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีระยะเวลายาวนาน เนื่องจากการระบาดของไวรัสในต่างประเทศยังคงรุนแรง ทำให้เทสโก้ โลตัส ได้ปรับกลยุทธ์และแผนธุรกิจของเราให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และความต้องการของลูกค้า เพื่อประคับประคองให้ทุกภาคส่วนสามารถก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน”