เริ่มแล้ว! Tiffany ระบุแหล่งที่มาเพชรทุกเม็ด หลีกเลี่ยงมีส่วนในอาชญากรรม “เพชรสีเลือด”

Tiffany & Co. ประกาศเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า บริษัทได้เริ่มกระบวนการให้ใบรับรองเพชรทุกชิ้นของบริษัทว่ามีแหล่งกำเนิดและแหล่งเจียระไนเพชรที่ใดบ้าง เพื่อแสดงความโปร่งใส่ว่าบริษัทใส่ใจต่อการรับผิดชอบสังคม ไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในวังวนอาชญากรรม “เพชรสีเลือด” สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคที่ใส่ใจประเด็นดังกล่าว

บริษัท Tiffany & Co. ร้านเพชรที่ก่อตั้งมายาวนาน 183 ปี ประกาศว่า บริษัทจะเริ่มให้ใบรับรองเพชรกับเครื่องประดับที่มีเพชรขนาด 0.18 กะรัตขึ้นไปเป็นส่วนประกอบ โดยจะรับรองว่าเป็นเพชรที่ขุดได้จากเหมืองแห่งใด ประเทศไหน รวมไปถึงเจียระไนที่ใด สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้

บริษัทจะเริ่มต้นให้ใบรับรองเดือนตุลาคมนี้ และประกาศว่าตนเป็นบริษัทแรกที่สามารถระบุที่มาของเพชรทุกเม็ดได้สำเร็จ

นโยบายของ Tiffany นั้นเริ่มพัฒนามาตั้งแต่ 20 ปีก่อน เมื่อกลุ่ม Kimberly Process ก่อตั้งขึ้น กลุ่มนี้เป็นกลุ่มรณรงค์ต่อต้านและหยุดยั้งการค้า “เพชรสีเลือด” หรือเพชรแห่งความขัดแย้ง ซึ่งหมายถึงเพชรที่ตกไปอยู่ในมือพ่อค้าสงคราม ใช้แทนเงินในการซื้อขายแลกเปลี่ยนอาวุธ โดยเฉพาะอาวุธที่ใช้ในสงครามกลางเมืองแถบทวีปแอฟริกา เช่น ไอวอรีโคสต์, คองโก, เซียร์รา ลีโอน ฯลฯ นำไปสู่การบาดเจ็บล้มตายของประชาชน

เมื่อผู้บริโภครับทราบความโหดร้ายที่พ่วงมากับอุตสาหกรรมเพชร ทำให้มีการเรียกร้องให้บริษัทที่เกี่ยวข้องกับเพชรช่วยกันรับผิดชอบ ไม่ซื้อเพชรสีเลือดเหล่านี้มาใช้ผลิตสินค้า

ผู้บริโภคบางกลุ่มหันไปใช้ “เพชรเลี้ยง” ที่สร้างขึ้นในห้องวิจัยแทนที่เพชรขุุดจากธรรมชาติ เพื่อความมั่นใจว่าตนเองไม่ได้ส่งเสริมความโหดร้ายของสงครามอยู่ (แถมยังราคาถูกกว่าเพชรขุดประมาณ 50%) โดยมีผลวิจัยจาก MVI Industries เมื่อปี 2561 พบว่า คนเจนเนอเรชันวาย 70% มีแนวโน้มพิจารณาเลือกใช้แหวนเพชรเลี้ยงแทนเพชรขุด เมื่อจะซื้อแหวนหมั้นให้กับเจ้าสาว

สำหรับยอดขายแหวนหมั้นประดับเพชรของ Tiffany & Co. ช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ ตกลงถึง -97% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยลดจาก 280.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เหลือเพียง 142.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนยอดขายรวมทั้งบริษัทลดลง -45% จากปีก่อนทำได้กว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เหลือเพียง 555.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

เป็นผลจากการล็อกดาวน์ช่วง COVID-19 ทำให้หลายคนเลื่อนการขอหมั้นและแต่งงานออกไปก่อน

Source