สรรพากรชู 9 ระบบ Easy Tax ช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุน กระตุ้นการหมุนเวียนเศรษฐกิจ สร้างวิถีภาษีใหม่ ให้ยิ่งง่ายและเป็นธรรม

กรมสรรพากรชูบริการเทคโนโลยีด้านภาษีที่ทันสมัย ภายใต้ 9 ระบบดิจิทัล เพื่อช่วยผู้ประกอบการและผู้เสียภาษีจัดการเรื่องภาษีได้ง่าย สะดวกสบายยิ่งขึ้น ช่วยลดต้นทุนและลดความยุ่งยาก ในการจัดเก็บเอกสาร รวมทั้งจัด RD Tax Advisor ให้คำปรึกษาเรื่องภาษีกับผู้ประกอบการ ผู้เสียภาษีและประชาชนที่สนใจ ในงานเสวนา “วิถีใหม่…ให้ภาษีเป็นเรื่องง่าย” (Easy Tax Transforms Your Life) ในวันที่ 24 สิงหาคม 2563 ณ ห้องแกรนด์  ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็คฟอรั่ม อิมแพค เมืองทองธานี

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวในพิธีเปิดงานสัมมนา “วิถีใหม่…ให้ภาษีเป็นเรื่องง่าย” (Easy Tax Transforms Your Life) ว่า “ด้วยนโยบายของกรมสรรพากรที่ต้องการจัดเก็บภาษีตรงเป้านโยบายตรงกลุ่ม และบริการตรงใจ ที่มีการขับเคลื่อนภายใต้กลยุทธ์ D2RIVE ซึ่ง Digital Transformation เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การดำเนินการตามนโยบายของกรมสรรพากรเป็นไปตามวัตถุประสงค์ เรื่องการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงกระบวนงานต่าง ๆ และการสร้างนวัตกรรมที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติการและชำระภาษีที่มีความทันสมัยมากขึ้น ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถทำธุรกรรมภาษีได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว เป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้ดียิ่งขึ้น และตอกย้ำความเป็นองค์กรดิจิทัลอย่างแท้จริง

การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติการและชำระภาษีของกรมสรรพากรเกิดขึ้นภายใต้ 9 ระบบดิจิทัล (9 Digital Transformation) แบ่งออกเป็นด้านอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ ดังนี้

  1. Tax from Homeมาตรการที่กรมสรรพากรตั้งใจช่วยให้ภาคธุรกิจและประชาชนเข้าถึงการทำธุรกรรมภาษีในทุกมิติได้ง่ายที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือที่ใด ๆ ก็ตาม ประกอบด้วย

1.1 e-Registration การลงทะเบียนขอยื่นแบบทางอินเทอร์เน็ต และนำส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องผ่านทาง e–mail ได้ทันที โดยไม่ต้องเดินทางไปยื่นด้วยตนเองที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาอีกต่อไป

1.2 e-Filing การยื่นแบบแสดงรายการภาษีทางอินเทอร์เน็ต ได้สิทธิขยายเวลาการยื่นแบบและชำระภาษีออกไปอีก ช่วยให้ภาคเอกชนมีเวลาในการบริหารกระแสเงินสดได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

1.3 e-Payment การชำระภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ (ธนาคารเกือบทั้งหมดยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้บริการสำหรับการยื่นแบบและชำระภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์จากนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2563)

1.4  e-Refund การคืนเงินภาษี สำหรับผู้เสียภาษีที่ชำระภาษีไว้เกิน กรมสรรพากรจะดำเนินการคืนภาษีผ่านระบบพร้อมเพย์ที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล

  1. My Tax Accountบัญชีรายการค่าลดหย่อนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดาที่กรมสรรพากรพัฒนาขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เสียภาษี เข้ามาตรวจสอบสิทธิค่าลดหย่อนภาษีต่าง ๆ เช่น ข้อมูลเบี้ยประกันสุขภาพ ข้อมูลการบริจาคผ่านระบบ e–Donation ข้อมูลเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ข้อมูลเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ซึ่งจะช่วยลดภาระในการเก็บเอกสาร ช่วยให้การ   ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการคืนภาษีสะดวกรวดเร็วขึ้น
  2. e-Donation ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับข้อมูลการรับบริจาคของหน่วยรับบริจาค ทั้งยังอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริจาค สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้โดยไม่ต้องเก็บหลักฐาน โดยเข้าตรวจสอบข้อมูลการบริจาคด้วยตนเองได้ที่ ระบบ My Tax Account ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร
  3. Open API การเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพเข้ามามีส่วนร่วม โดยเชื่อมโยงระบบกับกรมสรรพากร ซึ่งจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการยื่นแบบและชำระภาษีผ่านระบบออนไลน์ของประชาชนผู้เสียภาษีมากขึ้น     ช่วยให้การยื่นแบบและเสียภาษีเป็นเรื่องง่ายแม้ไม่รู้เรื่องภาษีเลย โดยขณะนี้เปิดให้บริการแล้วผ่านแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า   iTAX และ noon
  4. RD Smart Tax Application นวัตกรรมใหม่ในการจัดการด้านภาษีช่วยให้ภาษีเป็นเรื่องง่ายช่วยให้ชีวิตดีขึ้น มิติใหม่ของการให้บริการธุรกรรมของภาครัฐผ่าน Application ทั้งข่าวสารสรรพากร สาระความรู้ภาษี ยื่นแบบ ภ.ง.ด.91 ออนไลน์ และแผนที่หน่วยงานสรรพากรทั่วประเทศ สามารถ Download ใช้งานได้ทั้ง     App Store และ Google play
  5. VRT on Blockchain ระบบการคืนเงินภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติผ่านโมบายล์
    แอปพลิเคชันที่ใช้ระบบเทคโนโลยีบล็อกเชนในการเชื่อมต่อข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเป็นที่แรกของโลก เพื่อให้บริการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยวไวขึ้น ง่ายขึ้น และไม่ต้องรอคิวอีกต่อไป
  6. e-Tax Invoice & e-Receiptใบกำกับภาษี รวมถึงใบเพิ่มหนี้  ใบลดหนี้ และใบรับ ที่จัดทำเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) ช่วยลดต้นทุนด้านค่าใช้จ่ายและเวลาให้กับผู้ประกอบการในการจัดทำและนำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีในรูปแบบใหม่
  7. e-Withholding Taxระบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อมีการจ่ายเงินได้ให้แก่ผู้รับเงินทั้งในและต่างประเทศ โดยนำส่งข้อมูลและภาษีพร้อมการชำระเงินผ่านธนาคารที่เป็นผู้ให้บริการระบบ        e-Withholding Tax แทนการยื่นด้วยแบบกระดาษ ช่วยลดขั้นตอน ลดต้นทุน ลดภาษี ทั้งยังสามารถตรวจสอบหลักฐานได้ตลอดเวลาที่เว็บไซต์กรมสรรพากร
  8. e-Stamp Dutyการชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สำหรับ  ตราสารอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยเพิ่มความสะดวกและเป็นการสนับสนุนนโยบาย National e-Payment ของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการเสียภาษี เป็นการส่งเสริมธุรกิจในรูปแบบ e-Business ให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวสรุปว่า “บริการทั้ง 9 ด้านนี้ จะถูกผลักดัน และสนับสนุนในทุก ๆ ด้าน รวมถึงการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยทำให้เกิดการบริการที่ดีขึ้น ภายใต้กรอบความคิดที่มองผู้เสียภาษีเป็นศูนย์กลางที่ต้องได้รับบริการที่สะดวกบนความพึงพอใจสูงสุด และกรมสรรพากรมุ่งหวังที่จะผลักดันให้เกิดการสร้างบริการต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงมายังระบบภาษี (Tax Ecosystem)    ผ่าน Platform ต่าง ๆ และตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้ใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรเป็นจำนวนร้อยละ 100 ในทุกด้านภายใน 3 ปี

ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคม 2563 ใกล้ถึงกำหนดยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สำหรับรอบปีภาษี 2562 จึงขอเชิญชวนผู้มีเงินได้ยื่นแบบแสดงรายการฯ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th  และหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) 1161 หรือที่สานักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ”