มอบ ‘สิ่งที่ดียิ่งกว่า’ ในแบบ ‘MG’ ที่ไม่ใช่แค่ลูกค้า แต่สังคมและสิ่งแวดล้อมต้องได้ด้วย


ในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ เราจะเริ่มเห็นว่า ‘ความยั่งยืน’ เป็นสิ่งสำคัญที่แบรนด์ต่างก็ให้ความสำคัญ เพราะไม่ใช่แค่ได้ใจลูกค้า และสามารถใช้เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง แต่ยังเป็นผลดีต่อโลกของเราจริง ๆ ด้วย และจากที่เคยเป็นเทรนด์แต่ในปัจจุบันเรื่องความยั่งยืนได้กลายมาเป็น ‘เรื่องพื้นฐาน’ ที่ทุกแบรนด์ต้องให้ความใส่ใจ เช่นเดียวกับ ‘MG’ หนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นองค์กรที่ผลักดันด้านความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘สิ่งที่ดียิ่งกว่า’ (Passion to be better)

MG เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2013 แม้จะเป็นน้องใหม่ในตลาดรถยนต์ แต่ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินการในประเทศไทย MG ได้มีการพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก อีกทั้งยังต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เริ่มตั้งแต่ กระบวนการผลิต ที่ MG ได้นำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ตั้งแต่เริ่ม อาทิ การใช้พลังงานไฟฟ้าในโรงงานด้วยการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์

ขณะที่ตัว ผลิตภัณฑ์ เอง MG ก็ได้ใส่นวัตรรมใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Intelligence Connectivity) เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electrification) มีการแบ่งปันรถยนต์ในการใช้งานร่วมกัน (Car Sharing) และความเป็นสากล (Globalization) โดยที่ผ่านมา MG ได้ติดตั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ในรถยนต์ MG และยังมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่าง NEW MG ZS EV ที่มีส่วนช่วยลดปัญหามลพิษในระยะยาว ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดขายกว่า 1,300 คัน

และในส่วนของภาคบริการ MG เดินหน้าขยายโชว์รูมและศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมงานบริการหลังการขายที่สะดวกและรวดเร็วภายใต้ ‘Passion Service’ ณ ศูนย์บริการมาตรฐานทั่วประเทศและการบริการเช็คระยะและตรวจสภาพรถนอกสถานที่ผ่านบริการ MG Mobile Service ซึ่งปัจจุบันมีรถให้บริการอยู่ทั่วประเทศสูงถึง 91 คัน ทำให้สามารถเพิ่มความถี่ในการให้บริการ และทำให้สามารถเข้าถึงทุกสภาพพื้นที่ได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

“เราตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะทำอย่างไรให้สามารถมอบบริการที่เหนือกว่าสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังไว้ ดังนั้นจึงเกิดเป็นที่มาของการขยายศูนย์บริการ รวมถึงการให้บริการผ่าน Mobile Service” นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

นอกเหนือจากการพัฒนาสินค้าและบริการแล้ว อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ MG มองว่าต้องช่วยกันดูแลก็คือ การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้คนในสังคม จึงเป็นที่มาของการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความห่วงใย และให้ความช่วยเหลือสังคมอย่างเต็มกำลัง ด้วยการร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ผ่านโครงการ “Together For Better Thailand ส่งต่อความห่วงใยจากใจสู่คนไทยทุกคน เพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนรวมทั้งยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมให้ดียิ่งขึ้น

“เราได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนเพื่อให้การดำเนินงานตามแนวทางดังกล่าวประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็น บุคลากรขององค์กร ผู้แทนจำหน่าย พันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนภาครัฐที่ให้การสนับสนุนด้านนโยบาย และสำคัญที่สุด คือ ลูกค้า ที่มอบความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับเราในการ ที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาการดำเนินงานของเราให้ดียิ่งขึ้นในทุกด้านและทุกวัน เพื่อสร้างสิ่งที่ดียิ่งกว่า (Passion to be Better) อย่างต่อเนื่องต่อไป” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย