จีนจ่อขึ้นแท่น “ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า” ใหญ่สุดในโลกช่วงสิ้นปี 63 ทะลุ 1.2 ล้านคัน

(Photo by Zhang Peng/LightRocket via Getty Images)
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศูนย์วิจัยยานยนต์เยอรมนีระบุประเทศจีนจะเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ขนาดใหญ่ที่สุดของโลกภายในสิ้นปี 2563 ด้วยอานิสงส์จากการสนับสนุนการลงทุนของโรงงานเทสลาที่เซี่ยงไฮ้ ทั้งนี้ปี 2562 จีนมียอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 1.2 ล้านคัน

ศูนย์วิจัยยานยนต์ (CAR) ของเยอรมนี เผยแพร่รายงานการประเมินตลาด โดยระบุว่าจีนกำลังจะกลายเป็นตลาดรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) ขนาดใหญ่ที่สุดของโลกภายในสิ้นปี 2563 ขณะที่ศูนย์วิจัยยานยนต์ของเยอรมนี คาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปก็จะสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี 2563

ปัจจัยเกื้อหนุนของตลาดรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าของจีน เกิดจากรถยนต์เทสลาของอีลอน มัสก์ ได้รับการสนับสนุนในประเทศจีน โดยเทสลาตั้งเป้าว่าจะเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าตลอดระยะเวลา 50 ปีข้างหน้า

Photo : Xinhua

ศูนย์วิจัยยานยนต์ เปิดเผยด้วยว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบและรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริด (PHEV) หรือรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนร่วมกัน สามารถทำยอดจำหน่ายในยุโรปเกือบ 400,000 คัน ส่วนยอดจำหน่ายในจีนน้อยกว่ายุโรปเพียง 7,200 คัน เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกัน

ขณะเดียวกันยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบของเทสลา (Tesla) ในจีนเติบโตขึ้นแบบ “ก้าวกระโดด” โดยโรงงานกิกะแฟคทอรี เทสลา เซี่ยงไฮ้ (Tesla Shanghai gigafactory) มีส่วนส่งเสริมยอดจำหน่ายเกือบ 50,000 คัน ในช่วงครึ่งแรกของปี และเนื่องจากยอดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในหลายประเทศของยุโรปอยู่ในระดับสูง ทำให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ และรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริดในยุโรป “เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”

โรงงาน Giga Factory 1

“จีนและยุโรปมีความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวในการพัฒนายานยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้ก้าวหน้าระดับโลก” แถลงการณ์จากเฟอร์ดิแนนต์ ดูเดนโฮเฟอร์ ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ระบุ พร้อมเสริมว่าทั้งสองภูมิภาค “ยังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการปล่อยก๊าซไอเสียจากรถยนต์ให้เป็นศูนย์ด้วย”

ดูเดนโฮเฟอร์กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า ปี 2562 จีนจำหน่ายรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้สูงถึง 1.2 ล้านคัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในโลก โดยช่วงครึ่งแรกของปี จีนเป็นผู้นำตลาดด้านยอดจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ขณะที่ยุโรปสามารถจำหน่ายรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริดได้มากกว่าจีน

เทสลาเซี่ยงไฮ้ผลิต “โมเดล 3” ได้ 4,000 คันต่อสัปดาห์

ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม 2563 เทสลา (Tesla) ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกัน เปิดเผยว่าอัตราการผลิตรถยนต์โมเดล 3 (Model 3) ณ โรงงานกิกะแฟคทอรีในนครเซี่ยงไฮ้ของจีน จะแตะหลัก 4,000 คันต่อสัปดาห์ในช่วงกลางปี 2563 โดย ณ สิ้นปี 2562 โรงงานกิกะแฟคทอรี เซี่ยงไฮ้ มีกำลังการผลิตรถยนต์ 280 คันต่อวัน

สายการผลิตของเทสลาในเซี่ยงไฮ้ผลิตรถยนต์โมเดล 3 เฉพาะรุ่นสแตนดาร์ด เรนจ์ พลัส (Standard Range Plus) ในไตรมาสแรก แต่เทสลาได้เปิดให้สั่งผลิตรุ่นลอง เรนจ์ (Long Range) และรุ่นเพอร์ฟอร์แมนซ์ (Performance) ทางออนไลน์ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563

เทสลาเผยว่าได้เพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์โมเดล 3 ในเซี่ยงไฮ้ในไตรมาสสอง (เม.ย.-มิ.ย.) พร้อมกับสายการประกอบรถยนต์อเนกประสงค์โมเดล วาย (Model Y) ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะเริ่มส่งมอบแก่ลูกค้าภายในปี 2564

ทั้งนี้ เทสลาปรับลดราคารถยนต์โมเดล 3 รุ่นสแตนดาร์ดฯ ที่ผลิตในจีนลงจาก 303,550 หยวน (ราว 1.36 ล้านบาท) เหลือ 271,550 หยวน (ราว 1.22 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ตามข้อกำหนดสิทธิรับเงินอุดหนุนของรัฐบาลท้องถิ่น