‘LEGO’ ก็รักษ์โลก ประกาศทุ่ม ‘400 ล้านเหรียญ’ เลิกใช้บรรจุภัณฑ์แบบครั้งเดียวทิ้ง

หากพูดถึงชื่อ ‘เลโก้’ (LEGO) แบรนด์ของเล่นที่ได้รับความนิยมมานานหลายสิบปีที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ก็ขอเดินหน้ารักษ์โลกเหมือนอีกหลาย ๆ แบรนด์ที่หันมาทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง อาทิ ‘เนสท์เล่’ ที่ใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก 1.5 ล้านเมตริกตัน ก็มีแผนจะจ่ายเงินให้กับวัสดุรีไซเคิลมากขึ้น โดยเลโก้ก็เตรียมจะเลิกใช้ ‘บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง’ เหมือนกัน โดยจะได้เห็นในปีหน้า

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 พิษ COVID-19 ไม่สามารถทำอะไรเลโก้ได้ เพราะคนว่างจนต้องซื้อเลโก้มาต่อเล่น ส่งผลให้บริษัทสามารถทำรายได้ถึง ‘1.57 หมื่นล้านโครนเดนมาร์ก’ (ราว 7.8 หมื่นล้านบาท) เติบโตถึง 14% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนกำไรเติบโต 11% และในปีนี้ เลโก้ได้ประกาศแผนการบรรจุผลิตภัณฑ์เป็นกระดาษรีไซเคิลแทนที่พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

บรรจุภัณฑ์โฉมใหม่นี้เลโก้ได้ใช้เวลากว่า 2 ปีที่ในการพัฒนา และจะเริ่มใช้ในปี 2564 นี้ ทั้งนี้ โปรเจกต์ดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุน 400 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.24 หมื่นล้านบาท) ในโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนในช่วงสามปีจากนี้

“เราได้รับจดหมายมากมายจากเด็ก ๆ ที่ถามว่าทำไมเรายังใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในกล่องของเรา ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เราเริ่มทำการเปลี่ยนแปลงนี้ และนี่เป็นส่วนหนึ่งของความทะเยอทะยานของเราที่จะทำให้บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดของเรามีความยั่งยืนภายในสิ้นปี 2568” Tim Brooks รองประธานฝ่ายความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของ LEGO กล่าว

แต่การที่เลโก้จะก้าวไปสู่ความยั่งยืนที่แท้จริงต้องไม่หยุดแค่บรรจุภัณฑ์ เพราะธุรกิจทั้งหมดของเลโก้นั้นใช้พลาสติก อย่างชิ้นส่วนของเลโก้นั้นต้องใช้พลาสติก 90,000 เมตริกตันต่อปี ขณะที่บรรจุภัณฑ์คิดเป็นเพียง 10% เท่านั้น ส่งผลให้เลโก้ต้องพยายามเพื่อพัฒนาทางเลือกอื่น ๆ แทนพลาสติกจากปิโตรเลียม แม้จะมีความคืบหน้าไปบ้างในทำงานร่วมกับสถาบันวิจัยและธุรกิจอื่น ๆ เพื่อค้นหาวัสดุที่ทนทานและมีคุณภาพสูงเช่นเดียวกับพลาสติก เช่น การใช้ ‘วัสดุชีวภาพ’ อย่างวัสดุที่ทำจากวัสดุจากอ้อย แต่ปัจจุบันยังคิดเป็นสัดส่วนเพียง 2% ของการผลิตเท่านนั้น

อย่างไรก็ตาม จากผลของความพยายามและงบประมาณที่ทุ่มไปนั้น เลโก้ตั้งเป้าหมายที่จะผลิตผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจากวัสดุที่ยั่งยืนภายในปี 2573

“ชิ้นส่วนของเลโก้ที่ผลิตอย่างยั่งยืนนั้นจะต้องมีความปลอดภัย ทนทาน สามารถต่อได้พอดีกันและง่ายพอที่เด็กจะแยกชิ้นส่วนได้ รวมถึงเรื่องของสีที่ต้องเหมือนกับชิ้นส่วนเลโก้รุ่นเก่าที่ไม่ได้มีความหลากหลายของพลาสติกเหมือนในปัจจุบัน”

ทั้งนี้ พลาสติกซึ่งเป็นมลพิษที่สำคัญของมหาสมุทรและแหล่งน้ำมีความสำคัญต่อการรับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศของโลก เนื่องจากจะช่วยจัดการกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตสินค้า ดังนั้น การค้นหาทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งมีผลวิจัยที่เผยแพร่ในเดือนกรกฎาคมมีว่า โลกจะลดมลพิษจากพลาสติกลง 80% ภายในปี 2583 แต่ก็ยังมีขยะพลาสติกประมาณ 710 ล้านเมตริกตันที่ปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม

Source