นวัตกรรมยาใหม่เพื่อการรักษามะเร็งตับ

“โรคมะเร็งตับ” ถือเป็นวิกฤตทางสุขภาพอันดับต้นๆ ในประเทศไทยและทั่วโลก[1]จากสถิติเผยว่ามะเร็งตับ เป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตของประชากรไทยเป็นอันดับหนึ่ง มีคนไทยเสียชีวิตจากมะเร็งตับมากกว่า 23,000 คนต่อปี2 นั่นคือในทุกๆชั่วโมงจะมีคนไทยเสียชีวิตจากมะเร็งตับสูงถึง2.6 คน ซึ่งตัวเลขนี้ยังคงมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆปี โดยส่วนใหญ่พบในเพศชายสูงกว่าเพศหญิงถึง 2.3 เท่า3 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งตับในคนไทยคือ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบทั้งชนิด บี และ ซี2 และอาจเกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ เช่น การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงจนเกิดภาวะไขมันพอกตับการดื่มแอลกอฮอล์เกินปริมาณที่เหมาะสมและการบริโภคอาหารที่ไม่ปรุงสุก เป็นต้นอย่างไรก็ตามถึงแม้โรคนี้จะทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิต แต่ในปัจจุบันมีความก้าวหน้าของนวัตกรรมของยา และการรักษาโรคมะเร็งตับ ซึ่งจะสามารถช่วยชะลอการลุกลามของโรคและเพิ่มอัตราการรอดชีวิตโดยเฉลี่ยของผู้ป่วยได้มากขึ้น

ผศ.นพ.สืบพงศ์ ธนสารวิมล อาจารย์ประจำสาขาวิชาโรคมะเร็ง ภาควิชามะเร็งวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “มะเร็งตับชนิดที่พบได้บ่อย คือมะเร็งที่เซลล์ตับ (Hepatocellular carcinoma) ในปัจจุบันวิธีการรักษามะเร็งชนิดนี้ในคนไข้ที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ที่นิยมกัน ได้แก่ การให้ยาเคมีบำบัดทั้งทางหลอดเลือดและการให้ยาเคมีบำบัดที่ก้อนมะเร็งโดยตรงการฉายแสงรวมถึงการใช้ยามุ่งเป้าเพื่อเพิ่มความเฉพาะเจาะจงในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับที่เป็นยายับยั้งไทโรซีนไคเนส (Tyrosine kinase inhibitor) ในรูปแบบยาเม็ดสำหรับรับประทานในปัจจุบันทางการแพทย์ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาวิธีการรักษาที่ดีขึ้น เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต และยืดอายุของคนไข้”

แม้โรคมะเร็งตับจะมีอัตราการเสียชีวิตสูง แต่หากได้รับการวินิจฉัยอย่างทันท่วงที ก็สามารถช่วยยับยั้งการลุกลามของโรคและยืดอายุคนไข้ให้นานยิ่งขึ้นได้สำหรับคนไข้ที่เป็นมะเร็งที่เซลล์ตับ (Hepatocellular carcinoma) และไม่สามารถผ่าตัดได้ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย ได้อนุมัตินวัตกรรมยารักษามะเร็งตับแบบใหม่ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยนวัตกรรมยาใหม่นี้นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ ที่ทางการแพทย์พิสูจน์แล้วว่าช่วยเพิ่มอัตราการรอดของผู้ป่วยได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับยายับยั้งไทโรซีนไคเนส (Tyrosine kinase inhibitor) ในรูปแบบยาเม็ดสำหรับรับประทานที่มีอยู่เดิม5

นวัตกรรมยาที่ใช้รักษาแบบใหม่ที่กล่าวถึงนี้คือการใช้ยากลุ่มภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ร่วมกับยาต้านการสร้างหลอดเลือดที่คอยให้อาหารแก่ก้อนมะเร็ง (Anti-angiogenesis) ซึ่งยาทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ โดยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่าการใช้ยาทั้ง 2 ชนิดมีผลในการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายในการต่อสู้กับมะเร็ง โดยยากลุ่มภูมิคุ้มกันบำบัดจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดียิ่งขึ้นและยาต้านการสร้างหลอดเลือดจะลดปริมาณหลอดเลือดซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงอาหารไปยังเซลล์มะเร็งมีผลทำให้เซลล์มะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้  โดยสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตโดยเฉลี่ยและช่วยควบคุมโรคไม่ให้ลุกลามได้สูงขึ้นถึง 42% และ 41%ตามลำดับเมื่อเทียบกับยายับยั้งไทโรซีนไคเนส (Tyrosine kinase inhibitor)6 ซึ่งการใช้ยาดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษารวมถึงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อความเหมาะสมและปลอดภัยกับผู้ป่วยมากที่สุด

รศ.นพ. เอกภพ สิระชัยนันท์ นายกมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย (Thai Society of Clinical Oncology: TSCO) กล่าวว่า  “จากข้อมูลประสิทธิภาพของการใช้ยากลุ่มภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ร่วมกับยาต้านการสร้างหลอดเลือด(Anti-angiogenesis)เพื่อการรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับที่ออกมานั้นถือเป็นข่าวดีที่จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งตับให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและการทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้ต่อไปนั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยในอนาคต”

“ปัจจุบันทางมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย (TSCO)ได้ทำการศึกษาเพื่อเก็บข้อมูลประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ตลอดจนผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต รวมถึงค่าใช้จ่ายในมุมของผู้ป่วยโดยได้รับความร่วมมือจากทางโรช ไทยแลนด์ จำกัด ที่ได้สนับสนุนการเข้าถึงการรักษาดังกล่าว จึงช่วยให้สามารถเก็บข้อมูลสำคัญเหล่านี้ได้ระหว่างการขึ้นทะเบียนตำรับยา ซึ่งข้อมูลที่ได้ดังกล่าวอาจจะเป็นข้อมูลสำคัญประกอบการพิจารณาการเบิกจ่ายของการรักษาใหม่นี้ในอนาคต เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างเหมาะสมต่อไป” ผศ.นพ.สืบพงศ์ ธนสารวิมล อาจารย์ประจำสาขาวิชาโรคมะเร็ง ภาควิชามะเร็งวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าว

การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด ร่วมกับยาต้านการสร้างหลอดเลือด ถือเป็นความก้าวหน้าของวิทยาการการแพทย์เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานการรักษามะเร็งตับในประเทศไทยทำให้คุณภาพชีวิตและอัตราการรอดชีวิตเฉลี่ยของผู้ป่วยสูงขึ้นได้ในระยะยาว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ผ่านทางแพทย์ผู้รักษา

 

[1] “Cancer.” World Health Organization, World Health Organization, 12 Sept. 2018, www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/cancer.

2  “Danger of Liver Cancer.” Danger of Liver Cancer | Bumrungrad Hospital Bangkok, Bumrungrad Hospital Bangkok, www.bumrungrad.com/en/health-blog/october-2014/the-dangers-liver-cancer-symptoms-prevention.

3 GLOBOCAN. WHO: Liver 2018

4 Cancer, Cleveland Clinic. “Sorafenib.” Sorafenib (Nexavar) Chemotherapy Drug Information, chemocare.com/chemotherapy/drug-info/Sorafenib.aspx.