รู้จัก “Machi Machi” เทพเเห่งชาชีสจากไต้หวัน ผู้สร้างเทรนด์ “ชานมขวด” ลุยเปิดสาขาในไทย


เรียกได้ว่าตอนนี้ “ชาชีส” ยังคงเป็นเครื่องดื่มมาเเรงที่ครองใจใครหลายคน เเม้กระเเสจะผ่านมาสักพักหนึ่งเเล้ว เเต่ความนิยมก็ยังพุ่งต่อเนื่อง

ช่วงที่ผ่านมา เเบรนด์ชานมชื่อดังต่างๆ พาเหรดเข้ามาตีตลาดบ้านเรากันมากขึ้น ครั้งนี้ไม่ธรรมดาเพราะถึงคิวของ “Machi Machi” เจ้าใหญ่แบรนด์แฟรนไชน์จากไต้หวัน ผู้ได้รับฉายาการันตีคุณภาพอย่าง “The Cheese Tea God” ออริจินัลชานมในขวดในตำนาน…ที่ต้องไปลองชิมกันให้จงได้

Machi Machi ประกาศ “บุกไทย” ด้วยการเปิดสาขาเเรก ใจกลางเมืองที่สยามสเเควร์ ซอย 8 เเหล่งวัยรุ่น-คนทำงาน พร้อมเสิร์ฟเมนูชานมที่เป็นมากกว่าไข่มุก บวกกับการตกเเต่งร้านที่โดดเด่นเเละมีสไตล์ให้ได้เช็ก-อินกันเก๋ๆ ด้วย

วันนี้เรามารู้จัก “Machi Machi” เเบรนด์ชาชีสสุดฮิตกันให้มากขึ้นกัน…

Machi Machi (มาชิ มาชิ) ชานมไต้หวัน…สู่ตลาดโลก

อย่างที่ทราบกันดีว่า “ธุรกิจชานม” ในไต้หวันทำรายได้สูงมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนถึงขั้นว่าถ้าคนคิดถึงไต้หวัน ก็ต้องคิดถึงชานมไปเเล้ว

รัฐบาลไต้หวันจึงคว้าโอกาสนี้ ด้วยการผลักดันให้เเบรนด์ชานมไป “รุกตลาดต่างประเทศ” เพื่อหวังทำรายได้มากกว่าสินค้าส่งออกดั้งเดิม โดยในปี 2019 ธุรกิจชานมในไต้หวันสร้างมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

“Machi Machi” เป็นอีกหนึ่งแบรนด์แฟรนไชน์จากไต้หวัน ที่ก่อตั้งในปี 2018 เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเน้นให้ความสำคัญกับการดื่มชาที่เป็นเสมือนวิถีชีวิตของผู้คน มากกว่าจะเป็นเเค่ความนิยมตามเเฟชั่น เจาะลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่เเละวัยทำงาน อายุระหว่าง 15-35 ปี พร้อมให้บริการที่เน้นความสะดวกเเละรวดเร็ว พกพาง่าย มีการพัฒนาเมนูอยู่ตลอดเวลา

ล่าสุด Machi Machi ประสบความสำเร็จในการขยายสาขาไปกว่า 11 ประเทศ 40 สาขาทั่วโลก กระจายอยู่ทุกภูมิภาค ทั้งเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือเเละโอเชียเนีย

ที่มาของโลโก้ “Machi Machi” มีความน่าสนใจไม่น้อย โดยเป็นการออกเเบบจากปรัชญาที่เเบรนด์ยึดถือตั้งเเต่เริ่มก่อตั้งที่ว่าจะเป็น “เพื่อนที่ดีที่สุดของลูกค้า” โดยในระหว่างขั้นตอนการพัฒนาเเละหาเเรงบันดาลใจดีไซน์โลโก้นั้น สมาชิกในทีมคนหนึ่งได้นำสุนัขตัวโปรดของเขาเข้ามาเเละเริ่มเล่นกับมันอย่างสนุกสนาน นับเป็นภาพบรรยากาศที่บ่งบอกถึงการเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ซึ่งนำมาสู่การเลือกใช้โลโก้เป็น “น้องหมา” เพราะต้องการสื่อความหมายถึง “เพื่อนที่ซื่อสัตย์” นั่นเอง

ปรากฎการณ์ “ต่อเเถวยาว-ขายอัพราคาชานม”

ด้านความฮอตของ Machi Machi นั้นไม่ธรรมดา เพราะเคยสร้างปรากฏการณ์การต่อคิวที่ยาวเหยียดจนเป็นกระเเสข่าวมาเเล้ว ด้วยความต้องการในตลาดที่สูงมาก ทำให้มีการ “ซื้อไปขายบวกราคา” จากขวดละประมาณ 4 ดอลลาร์สหรัฐเป็น 40 ดอลลาร์สหรัฐ มีการต่อคิวเพื่อซื้อเฉลี่ย 3-4 ชั่วโมงในจีน และในต่างประเทศอย่างกรุงลอนดอน กรุงปารีสเเละเกาหลีใต้จะอยู่ที่เฉลี่ย 20-30 นาที

Machi Machi ได้รับฉายาว่าเป็น “The Cheese Tea God” ของเหล่าผู้ชื่นชอบของหวาน และเป็นเจ้าแรกที่ออกแบบบรรจุภัณฑ์ “ชานมขวด” จากนั้นได้กลายเป็นเเรงบันดาลใจให้ร้านชานมเจ้าอื่นทำตาม โดยเฉพาะเมื่อต้องเอาตัวรอดในช่วงการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ตอนนั้นไม่สามารถเปิดให้บริการร้านได้ตามปกติ เเละ Machi Machi ยังเป็นเจ้าเเรกที่ทำชานมกับ “พานาคอตต้า” ซึ่งกลายมาเป็นเมนูยอดฮิตที่ “ต้องสั่ง”

นอกจากเมนูเครื่องดื่มที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเเล้ว การตกแต่งร้านจะมีการผสมทั้งความน่ารัก มินิมอลเเละศิลปะไว้ด้วยกัน ออกแบบมาเพื่อให้เป็นมุมถ่ายรูป เอาใจสายโซเชียลได้เป็นอย่างดี

เมนูหลายสไตล์…มาจากธรรมชาติ

Machi Machi สร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มต่างๆ ที่มีส่วนผสมของชาเป็นหลัก และได้เพิ่มความเฟรช ด้วยส่วนผสมอื่นๆ อย่างผลไม้สด พานาคอตต้า แครมบรูว์เล ช็อกโกแลต ฯลฯ เน้นความลงตัวของรสชาติเเละรู้สึก “ดื่มเเล้วผ่อนคลายไปพร้อมๆ กัน” 

โดยเมนูซิกเนเจอร์ของ Machi Machi ต้องบอกว่ามีหลากหลายจนเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว…สามารถเลือกระดับความหวานเเละปริมาณน้ำเเข็งได้ ตามความชอบของลูกค้า

Bottle Series : ชานมขวดในตำนาน ราคาอยู่ที่ 125-160 บาท มีเมนูเเนะนำให้สั่งเลยอย่าง

  • Strawberry milk with Panna Cotta
  • Plum green tea with Plum Jelly
  • Black milk tea with Panna Cotta

ตามมาด้วย The cheese foam series : ชานมชีสสุดฮิต จุดเด่นของ “เครมบรูเร่” ที่ทำให้  Machi Machi เเตกต่าง คือการนำขนมเครมบลูเร่มาดัดแปลงสูตรให้เหมาะแก่การเป็นท็อปปิ้ง มีรสสัมผัสที่นุ่มเเละหอม ราคาอยู่ที่ 110-120 บาท มีเมนูเเนะนำให้สั่งเลยอย่าง

  • Cream Cheese Foam Black Tea
  • Cream Cheese Foam Jasmine Green Tea
  • Cream Cheese Foam Oolong Tea
  • Cream Cheese Foam Black Milk Tea

ใครที่ต้องการเติมความสดชื่น ถึงใจต้องลองนี่เลย The fruit tea series : ชานมผลไม้ ราคาอยู่ที่ 130-135 บาท มีเมนูเเนะนำให้สั่งเลยอย่าง

  • Fresh Fruits Jasmine Green Tea
  • Fresh Orange Jasmine Tea
  • Strawberry Slush with Cream Cheese Foam
  • Blueberry & Strawberry Slush with Cream Cheese Foam

ส่วน “ท็อปปิ้ง” ก็มาเเบบราคาย่อมเยาว์ เพียง 10-25 บาท มีให้เลือก 2 อย่าง ได้เเก่มินิทาโร่บอล เเละ ไข่มุกดำไข่มุกสุดอร่อยนั่นเอง

โดยอีกหนึ่งความพิเศษของ Machi Machi คือการใช้ชาพรีเมียมเเละส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ สร้างสรรค์เป็นเมนูที่ผ่านการออกเเบบมาอย่างดี โดยเน้นให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีมากกว่าการเป็นเเค่ Grab & Go

ไม่ใช่เเค่อร่อย…เเต่ต้องรู้สึกดี 

ด้วยความที่ต้องการส่งต่อความรู้สึกดีๆ ต่อลูกค้านี้ นำมาสู่คอนเซ็ปต์การ “ตกเเต่งร้าน” ของ Machi Machi ที่เน้นสร้างความอบอุ่น รู้สึกสบายเเละเข้าถึงง่าย

ผสมผสานกับการออกเเบบร้านให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ของเหล่าศิลปิน นำเสนอจินตนาการผ่านศิลปะเเละสื่อสารกับผู้คนผ่านลวดลายกราฟฟิตี้ เป็น Interaction art ที่น่าสนใจ

โดยการดีไซน์ของร้าน Machi Machi สาขาในไทยนั้น มาด้วยสไตล์ “Minimal But Elegant” เรียบง่ายเเต่หรูหรา วางเฟอร์นิเจอร์เป็นโทนสีพาสเทลและไม้ให้ดูซอฟท์

ตัดกับผนังที่ดูทันสมัยเเละสบายตา มีคำเก๋ๆ อย่าง “ I Love You So Machi” ที่เล่นคำจากประโยค “I Love You So Much” เหมาะเป็นจุดถ่ายภาพสวยๆ เเชร์ลงโซเชียลมีเดีย อย่าง Instagram เเละ Tiktok

ถือว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ไปพร้อมๆกับการเชื่อมความสัมพันธ์เเละความใกล้ชิดกับเเบรนด์ได้เป็นอย่างดีทีเดียว ใครที่เเวะมาเยี่ยม Machi Machi สาขาสยามสเเควร์ ซอย 8 หลังได้ทานชานมอร่อยๆ กันเเล้วต้องห้ามพลาดเช็ก-อินกันล่ะ

สำหรับใครที่อยากติดตามความเคลื่อนไหวของ Machi Machi ว่ามีเมนูเด็ดๆ โปรโมชั่นโดนๆ อะไรบ้าง ก็ตามไปดูกันได้ที่ Facebook  :  @machimachithailand เเละ Instagram  : @machimachi_thailand  รับรองว่าได้เติมพลังความหวานกันอย่างเต็มที่เเน่ๆ