“ซอสแม็กกี้” ขายข้าวกล่อง! เปิด Maggi Kitchen เจาะฟู้ดเดลิเวอรี่ แก้โจทย์ลูกค้าไม่ทำอาหาร

ซอสแม็กกี้ เปิดธุรกิจใหม่ Maggi Kitchen ครัวกลางจำหน่ายอาหารกล่องสำหรับซื้อกลับบ้านหรือฟู้ดเดลิเวอรี่เท่านั้น คว้าทั้งโอกาสฟู้ดเดลิเวอรี่โตเร็ว และกลยุทธ์การตลาดสร้างแรงบันดาลใจให้มนุษย์ออฟฟิศที่ต้องการหัดทำกับข้าว ราคาเริ่มต้นกล่องละ 89 บาท ช่วงแรกคาดหวังยอดขาย 300-400 กล่องต่อวัน

“เครือวัลย์ วรุณไพจิตร” ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร และ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ประจำภูมิภาคอินโดไชน่า เปิดตัวธุรกิจใหม่ของซอสปรุงรสแม็กกี้คือ Maggi Kitchen โดยเป็นครั้งแรกของแม็กกี้ทั่วโลกที่มีการเปิดธุรกิจครัวทำอาหารเองรูปแบบนี้

ลักษณะธุรกิจของ Maggi Kitchen จะเป็นครัวกลางจำหน่าย “ข้าวกล่อง” สำหรับส่งฟู้ดเดลิเวอรี่หรือรับกลับบ้านเท่านั้น ไม่มีที่นั่งหน้าร้าน โดยเปิดสาขาแรกที่ห้างฯ The Market ราชประสงค์ เปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00น.

เมนูข้าวหมูอบไข่ยางมะตูมจาก Maggi Kitchen

อาหารที่จำหน่ายมีทั้งเมนูที่คนไทยคุ้นเคยและเมนูแปลกใหม่รวม 16 เมนู แบ่งเป็นเมนูที่ทีมเชฟของแม็กกี้คิดค้น 6 เมนู เช่น ข้าวไก่ย่างจิ้มแจ่วแม็กกี้ ข้าวไก่อบแม็กกี้ ข้าวหมูคาราเมลแม็กกี้ และเมนูที่แบรนด์ร่วมมือกับ “เชฟกิ๊ก-กมล ชอบดีงาม” ผู้ชนะรายการเชฟกระทะเหล็ก อีก 10 เมนู เช่น ผัดเส้นจันทน์อนุสาวรีย์ ข้าวผัดน้ำพริกกะปิป้าต้อย ข้าวหน้าสตูลิ้นวัว ราคาตั้งแต่ 89 บาท จนถึง 259 บาท

 

เจาะลูกค้าให้ครบทุกมื้อ-แรงบันดาลใจการทำอาหาร

สถานการณ์ตลาดซอสปรุงรสสำหรับทำอาหารเริ่มติดลบหรือโตไม่มากมาตั้งแต่ปี 2558 จากวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่หรือคนเมืองมีความเร่งรีบ เน้นการทานอาหารนอกบ้านหรือซื้อมารับประทานมากกว่าเพื่อประหยัดเวลา ทำให้วัตถุดิบปรุงอาหารในไทยทำยอดขายได้ยากขึ้นด้วย

ยิ่งมี “ฟู้ดเดลิเวอรี่” เข้ามา ยิ่งทำให้การซื้ออาหารรับประทานยิ่งโต โดยเครือวัลย์ระบุว่าปัจจุบันฟู้ดเดลิเวอรี่มีมูลค่าตลาดราว 35,000 ล้านบาท มีผู้บริโภคสั่งอาหารเดลิเวอรี่ 140,000 ครั้งต่อวัน และตลาดนี้มีแนวโน้มโตแตะ 50,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี

หน้าร้าน Maggi Kitchen ใน The Market ลงทุนมูลค่า 10 ล้านบาท

ดังนั้น แม็กกี้จึงต้องการเข้าไปมีส่วนในตลาดนี้ด้วยการลงทุน 10 ล้านบาทเปิด Maggi Kitchen โมเดลธุรกิจใหม่ดังกล่าว จะทำให้แม็กกี้ไม่ใช่แบรนด์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคภายในบ้านเท่านั้นแต่ตอบโจทย์การสั่งอาหารจากนอกบ้านด้วย หรือถ้ามองเป็นมื้ออาหาร ปกติลูกค้าอาจจะใช้ซอสแม็กกี้ในบ้านเฉพาะมื้อเช้า-มื้อเย็น เมื่อมีอาหารเดลิเวอรี่ก็จะเข้าถึงมื้อกลางวันเพิ่ม

เหตุผลอีกส่วนหนึ่งคือเป็นกลยุทธ์การตลาดให้กับสินค้าซอสแม็กกี้ เพราะเป็นการ engage กับลูกค้าอีกรูปแบบหนึ่งทำให้ลูกค้าได้สัมผัสอาหารจากแม็กกี้โดยตรง เป็นแรงบันดาลใจในการทำอาหารทานเอง

“สินค้าซอสปรุงรสจะยังเป็นสินค้าหลักของเราต่อไป แต่ Maggi Kitchen จะมาช่วยเสริมตามพฤติกรรมบริโภคที่เปลี่ยนไปของลูกค้า” เครือวัลย์กล่าว

 

มุ่งเป้ามนุษย์ออฟฟิศที่กำลังจะหัดทำอาหาร

ส่วนการเลือกเปิดสาขาแรกที่ The Market ราชประสงค์ เครือวัลย์ตอบว่าเพราะเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางย่านออฟฟิศ
ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการคือ คนหนุ่มสาวพนักงานออฟฟิศ ปกติคนกลุ่มนี้คือกลุ่มที่ทำอาหารทานเองน้อยลงถ้าเทียบกับคนสมัยก่อน หลายคนอาจจะไม่เคยทำอาหารเองเลย

ข้าวกล่องแม็กกี้ราคาเริ่มต้น 89 บาท เน้นรสชาติดี ปริมาณอาหารและหน้าตาอาหาร “ตรงปก”

“แต่หัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตเขาคือเมื่อเริ่มมีลูก หลายคนมักจะเริ่มหัดทำอาหารเองเพื่อลูก เพราะไม่อยากให้ลูกต้องทานอาหารที่ซื้อเข้ามาทุกมื้อ ซึ่งคิดว่า Maggi Kitchen จะช่วย engage กับกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ได้ดี” เครือวัลย์กล่าว พร้อมอธิบายว่า แม็กกี้มีเครื่องมือการตลาดอื่นๆ อีกที่ช่วยให้ลูกค้าสนุกกับการทำอาหาร เช่น เพจเฟซบุ๊ก “เข้าครัวกับแม็กกี้” เป็นเหมือนชุมชนคนทำอาหารที่มาแบ่งปันสูตรอาหารกัน เหมาะกับคนที่หัดทำอาหารจากสูตรบนโลกออนไลน์

ด้านเป้าหมายยอดขายสาขาแรก เบื้องต้นตั้งเป้าขาย 300-400 กล่องต่อวัน และกำลังมองทำเลขยายสาขาต่อไป อาจจะเป็นได้ทั้งใจกลางเมืองย่านออฟฟิศ หรือไปในย่านหมู่บ้านที่อยู่อาศัย ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาพฤติกรรมลูกค้าเดลิเวอรี่ คาดว่าจะตัดสินใจได้ในช่วงปลายปีนี้

เครือวัลย์ขอไม่เปิดเผยรายได้ปีนี้ของแม็กกี้ แต่กล่าวว่าตลาดซอสปรุงรสสำหรับทำอาหารของไทยปีนี้เติบโต 1.7% ส่วนแม็กกี้เติบโตได้ 3-4% เหนือกว่าตลาด ทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น