“แอสเซทไวส์” เก็บที่ดินเล็กย่านขอบเมืองจุดกระแส “บูทีคทาวน์เฮาส์” เรือธงตลาดแนวราบ

  • แอสเซทไวส์ร่วมทุนกลุ่มสถาปนิก เปิดตัวโครงการล่าสุด “บ้านภูริปุรี คอร์ทยาร์ด – พัฒนาการ” ทาวน์เฮาส์สไตล์บูทีค ออกแบบด้วยแนวคิดใหม่ เก็บสวนไว้กลางบ้าน ราคาเริ่มต้น 14.2 ล้านบาท สะท้อนคอนเซ็ปต์ศิลปะการออกแบบอสังหาฯ ที่ขายได้จริง
  • ปี 2564 เปิดบ้านภูริปุรีต่อเนื่องย่านซอยภาวนา พร้อมมองหาที่ดินเพิ่มตามย่านขอบเมือง เชื่อมีดีมานด์สูง แต่ติดปัญหาหาซัพพลายที่ดินที่เหมาะสมได้ยาก
  • แผนแนวราบแอสเซทไวส์ปีหน้า หลังระดมทุนจากการเปิด IPO จะเริ่มลุยตลาดแนวราบในระดับแมส เล็งเปิดโครงการบ้านเดี่ยวราคา 6-12 ล้าน หรือทาวน์เฮาส์ราคา 4-6 ล้านบาท

ท่ามกลางเศรษฐกิจฝืด ยังมีบางเซ็กเมนต์ที่ขายได้ “กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวโครงการใหม่ซึ่งร่วมทุนกับบ้านภูริปุรี คือโครงการ “บ้านภูริปุรี คอร์ทยาร์ด – พัฒนาการ” บนที่ดินขนาด 5 ไร่ ทำเล ซ.พัฒนาการ 32 ออกแบบเป็นทาวน์เฮาส์จำนวน 37 ยูนิต มูลค่าโครงการ 530 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 14.2 ล้านบาท

โดยลักษณะเด่นของโครงการของภูริปุรีคือเป็นทาวน์เฮาส์แบบ “บูทีค” จำนวนยูนิตในโครงการน้อย แต่ออกแบบพิเศษให้มีเอกลักษณ์ ตัวอย่างโครงการที่พัฒนาการ เป็นทาวน์เฮาส์ที่ออกแบบให้มี “คอร์ทยาร์ด” คือสวนเล่นระดับตรงกลางบ้าน เปลี่ยนจากการมีสวนหลังบ้านตามปกติของทาวน์เฮาส์ทั่วไป ซึ่งทำให้ผู้อาศัยมองเห็นพื้นที่สีเขียวเต็มตาได้จากทุกห้องในบ้าน

บ้านภูริปุรี คอร์ทยาร์ด – พัฒนาการ

กรมเชษฐ์เล่าความเป็นมาของการร่วมทุนนี้ว่า เดิมผู้พัฒนาบ้านภูริปุรีคือกลุ่มสถาปนิกที่ทำงานร่วมกับแอสเซทไวส์อยู่แล้ว แต่กลุ่มสถาปนิกเหล่านี้พัฒนาโครงการส่วนตัวในนาม “บ้านภูริปุรี” เริ่มโครงการแรกย่านโชคชัย 4 เมื่อปี 2558 หลังจากนั้น แอสเซทไวส์ได้ตกลงเข้าร่วมทุนตั้งแต่โครงการที่ 3-5 โดยลงทุนสัดส่วน 51% กลุ่มสถาปนิกลงทุน 49% ทำให้โครงการมีขนาดใหญ่ขึ้น และช่วยให้คำปรึกษาด้านการตลาดและบริการหลังขาย

“บ้านภูริปุรีเกิดจากการรวมกลุ่มของสถาปนิก ซึ่งเราเห็นโจทย์ร่วมกันว่า ‘ทาวน์เฮาส์’ เป็นที่อยู่อาศัยที่พัฒนาให้ดีกว่านี้ได้ เพราะเมื่อก่อนทาวน์เฮาส์จะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมน่าเบื่อ ไม่เหมาะกับการพักผ่อน เราจึงต้องการพัฒนาให้ทาวน์เฮาส์เหมาะกับชีวิตความเป็นอยู่มากขึ้น” ขจร จรูญวาณิชย์ กรรมการ บริษัท ภูริปุรี จำกัด กล่าว

 

ดีมานด์สูงแต่ที่ดินหายาก

ซีอีโอแอสเซทไวส์เสริมว่า เขามองว่าโครงการบ้านภูริปุรีเป็น “Commercial Art” งานศิลปะออกแบบที่ฟังก์ชันใช้งานได้จริง ขายได้จริงในราคาเหมาะสม

ยกตัวอย่างโครงการที่พัฒนาการนี้ตั้งอยู่บนที่ดินเริ่มต้น 32 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 241 ตร.ม. ราคาขาย 14.2 ล้านบาท เทียบกับคู่แข่งในทำเลเดียวกันจะใหญ่กว่าทาวน์เฮาส์ปกติซึ่งมีเนื้อที่ดิน 20 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท แต่เล็กกว่าบ้านเดี่ยวในทำเลซึ่งมีเนื้อที่ดิน 60 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 29 ล้านบาท ดังนั้นจึงเป็นโปรดักต์ระหว่างกลางที่เหมาะกับคนที่มีงบ 10-20 ล้านบาท ต้องการอยู่ใกล้เมือง โดยมีพื้นที่ใช้สอยในที่อยู่อาศัยใหญ่เพียงพอ

คอร์ทยาร์ดกลางบ้าน เมื่อมองจากห้องนั่งเล่น โครงการบ้านภูริปุรี คอร์ทยาร์ด – พัฒนาการ

ดีมานด์ในตลาดมีสูงพอสมควร โดย 4 โครงการแรกที่บ้านภูริปุรีเปิดขาย ขณะนี้เหลือขายยูนิตเดียวที่ลาดพร้าว 41 ส่วนโครงการนี้เปิดขายรอบ VVIP ขายไปแล้ว 14 ยูนิต เชื่อว่าจะปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในกลางปี 2564

อย่างไรก็ตาม กรมเชษฐ์กล่าวว่า โจทย์ยากของการทำโครงการลักษณะนี้ไม่ใช่ดีมานด์แต่เป็นซัพพลายที่ดิน เนื่องจากต้องหาที่ดินย่านใกล้เมือง เช่น พระราม 9, พัฒนาการ, ฝั่งธนบุรี ที่ดินผืนใหญ่ราว 3 ไร่ ในราคาไม่เกิน 1 แสนบาทต่อตร.ว. จึงจะสามารถพัฒนาสินค้าออกมาในช่วงราคาไม่เกิน 20 ล้านบาทได้ บริษัทยังคงมองหาที่ดินอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะฝั่งธนบุรีซึ่งมีลูกค้ารออยู่จำนวนมาก

สำหรับปี 2564 มีที่ดินขึ้นโครงการต่อไปแล้วย่าน ซอยภาวนา แต่ครั้งนี้คอนเซ็ปต์จะเป็นโฮมออฟฟิศ เหมาะเป็นสำนักงาน ทำการค้า มูลค่าโครงการ 87 ล้านบาท

 

ปีหน้าบุกแนวราบตลาดแมส

ด้านภาพรวมธุรกิจของแอสเซทไวส์หลังมีการปรับแผนรับมือ COVID-19 ไปตั้งแต่ครึ่งปีแรก กรมเชษฐ์อัปเดตยอดขายคอนโดมิเนียมที่เปิดขายปีนี้ โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง มูลค่าโครงการ 1,790 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 52% และ โมดิซ ลอนช์ ทียู มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ปิดการขายทั้งโครงการอย่างรวดเร็ว ขณะที่ยอดรับรู้รายได้คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย 3.5 พันล้านบาท

(จากซ้าย) ปจิตพงษ์ พงษ์ศิวาภัย กรรมการและสถาปนิก บริษัท บ้านภูริปุรี จำกัด, ขจร จรูญวาณิชย์ กรรมการ บริษัท ภูริปุรี จำกัด และ กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)

“สภาวะแบบนี้ คิดในแง่ดีคือคนที่มาดูบ้านคือคนที่ต้องการจริงๆ ดีมานด์จริง” กรมเชษฐ์กล่าว “เมื่อเราทำราคาที่ถูกมาตั้งแต่ต้น จึงไม่ต้องจัดโปรโมชันมาก และขายได้ดี”

ปีนี้ยังเป็นปีที่สำคัญของแอสเซทไวส์เพราะจะเปิด IPO หลังระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะนำทุนไปแข่งขันซื้อที่ดินเพื่อขยายโครงการได้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดโครงการแนวราบระดับแมสซึ่งต้องมีเนื้อที่ต่อโครงการไม่ต่ำกว่า 10 ไร่ ทำให้ต้องใช้เงินลงทุนสูงมากเพื่อซื้อที่ดิน

กรมเชษฐ์กล่าวว่าปี 2564-65 จะเริ่มลุยตลาดแนวราบ มองว่าจะเจาะโครงการบ้านเดี่ยวระดับ 6-12 ล้านบาท หรือทาวน์เฮาส์ระดับ 4-6 ล้านบาทก่อน ควบคู่ไปกับคอนโดฯ ราคา 1.5-3 ล้านบาท ที่ปีหน้าจะได้เห็นในพอร์ตแอสเซทไวส์ต่อเนื่อง เพราะเป็นกลุ่มราคาที่ตลาดมีความต้องการสูง