“เทนเซ็นต์” แนะผู้ประกอบการค้าปลีกเสริมแกร่งช่องทางออนไลน์ ด้วยเทคโนโลยีคลาวด์อัจฉริยะ และปัญญาประดิษฐ์

1218395365

เทนเซ็นต์ คลาวด์ ภายใต้เทนเซ็นต์ ประเทศไทย ผู้ให้บริการด้านแพลตฟอร์มคอนเทนต์ ความบันเทิง และโซลูชันเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศไทย แนะนำผู้ประกอบการ   อัพเกรดช่องทางการขายออนไลน์ รับเทรนด์การช้อปปิ้งที่กำลังมาแรงอย่าง ‘ไลฟ์ คอมเมิร์ซ’ (Live Commerce) ด้วยเทคโนโลยีคลาวด์อัจฉริยะ และปัญญาประดิษฐ์ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการไลฟ์ จัดการระบบ วิเคราะห์ข้อมูล พร้อมทั้งช่วยสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า พร้อมเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ และโอกาสในการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

มร. ชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “เทนเซ็นต์ ประเทศไทย ในฐานะผู้ให้บริการเทนเซ็นต์ คลาวด์ เล็งเห็นความสำคัญของการนำเทคโนโลยีมาช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำธุรกิจของผู้ประกอบการค้าปลีก เพื่อช่วยผลักดันให้เกิดการเติบโต และเพิ่มความได้เปรียบให้กับผู้ประกอบการ โดยในช่วงโควิด-19 เราเห็นเทรนด์การเติบโตของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นอย่างมาก เนื่องจากข้อจำกัดในการออกมาซื้อสินค้าของผู้บริโภค โดยเฉพาะ ‘ไลฟ์ คอมเมิร์ซ’ ที่เป็นการซื้อขายสินค้าด้วยรูปแบบที่ผสมผสานกันของการไลฟ์ สตรีมมิ่ง (Live streaming) และอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยไลฟ์ คอมเมิร์ซนั้นถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ขายมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ซื้อได้โดยตรง ทั้งด้านการซื้อขายสินค้า การรีวิวสินค้า หรือการตอบคำถามหรือข้อสงสัยจากลูกค้า”

เทนเซ็นต์ คลาวด์ เป็นระบบปฏิบัติการคลาวด์ระดับเวิลด์คลาส มุ่งนำเสนอโซลูชันคลาวด์แบบไฮบริดที่พร้อมใช้งานได้ทั่วโลก มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และประสิทธิภาพสูง พร้อมด้วยโซลูชันอัจฉริยะที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกธุรกิจ

ในโอกาสนี้ เทนเซ็นต์ ประเทศไทย จึงได้นำเสนอเทคโนโลยีคลาวด์ และบริการต่างๆ เพื่อใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำไลฟ์ คอมเมิร์ซ ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้การไลฟ์ลื่นไหล ไม่กระตุก ภาพ และเสียงมีความคมชัด วิดีโอมีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว และสามารถรองรับการเปิดรับชมพร้อมกันเป็นจำนวนมาก สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีให้กับผู้บริโภค ยกตัวอย่างเช่น

  • บริการถ่ายทอดวิดีโอไลฟ์ (LVB) เป็นบริการสำหรับการถ่ายทอดไฟล์วิดีโอ/ไฟล์เสียงไลฟ์แบบต่อเนื่อง ครอบคลุมฟังก์ชันต่างๆ ในที่เดียว เช่น การส่งไฟล์ไลฟ์ที่มีความเสถียร และคุณภาพสูงเพื่อการปฏิบัติงาน การแปลงไฟล์ การถ่ายโอนไฟล์ และการเล่นย้อนหลังตามความต้องการด้วยความหน่วงที่ต่ำที่สุด ให้ภาพละเอียดและประสิทธิภาพสูงเพื่อสามารถให้บริการข้อมูลปริมาณมากเมื่อมีคำขอใช้งานในเวลาเดียวกันจำนวนมาก
  • บริการ AI Transfy (TCAIT) เป็นโซลูชันที่ผสมผสานฟีเจอร์อันล้ำหน้าของการติดต่อสื่อสาร ระหว่างคอมพิวเตอร์และมนุษย์ ระบบ Machine Learning และ การแปลข้อความผ่านเครือข่ายอัจฉริยะนูรอล (Neural Network Machine Translation) โดยจะทำการแปลผ่านระบบ Statistical Machine Translation ที่ช่วยให้แปลจากเสียงเป็นข้อความได้ดีขึ้นผ่านการทำความเข้าใจด้านภาษาศาสตร์ (Semantic Understanding) และการกลั่นกรองข้อมูล (Data Mining) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถได้รับข้อความการแปลที่รวดเร็วผ่านการแปลอัจฉริยะแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ TCAIT ยังมีระบบที่ง่ายต่อการใช้งาน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง แก้ไข ปรับ หรือใส่บทแปล (Subtitle) ในทั้งวิดีโอและเสียงได้อีกด้วย บริการนี้จึงเหมาะสำหรับการซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่มีกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ
  • ระบบเครือข่ายคอนเทนต์ (CDN) เป็นระบบเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่เสริมเข้ากับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่มีอยู่เดิม บริการ CDN ประกอบด้วยหน่วยความจำแคชประสิทธิภาพสูงในระบบคลาวด์ หน่วยความจำแคชเหล่านี้
    เก็บคอนเทนต์ของธุรกิจตามข้อกำหนดที่ผู้ใช้ระบุ เช่น สามารถช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เข้าถึงสินค้า และบริการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะ CDN ทำให้มีการตอบสนองรวดเร็ว ไม่ว่าจะมี traffic มากน้อยเพียงใด และเพิ่มความสามารถในการบริการอีกด้วย

จุดแข็งของเทนเซ็นต์คือการมีเทคโนโลยีคลาวด์อัจฉริยะ และปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถมอบโซลูชันได้ตอบทุกความต้องการในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการมีทีมสนับสนุนในประเทศไทยที่สามารถให้บริการ และคำปรึกษากับลูกค้าคนไทยเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในประเทศ อีกทั้งการมีศูนย์จัดเก็บข้อมูล (Data Center) ที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อให้การถ่ายโอนข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งด้วยจุดแข็งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถ และสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการได้อย่างยั่งยืน

“การเก็บและนำข้อมูลมาวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ (Data analytics) จะพัฒนาการทำไลฟ์ คอมเมิร์ซให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลบวกต่อธุรกิจมากที่สุด และสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เช่น การดูเทรนด์ของสินค้าที่ได้รับความนิยม ค่าเฉลี่ยเวลาการตอบรับสินค้าของลูกค้า ตลอดจนช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทำไลฟ์ เป็นต้น ดังนั้นการเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลนั้นเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับธุรกิจได้ เช่นเดียวกับการผสานใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านหลากหลายช่องทาง (Omnichannel strategy) ซึ่งอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงด้วยเช่นกัน ทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภค และความตั้งใจที่จะซื้อ (Intention to buy) ว่าจะเกิดขึ้นที่ไหน และเมื่อไหร่ เพื่อเลือกใช้ช่องทางต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม นำไปสู่โอกาสในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง”

“นอกจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไลฟ์แล้ว การใช้เทคโนโลยีคลาวด์อัจฉริยะและปัญญาประดิษฐ์ ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลของตัวเองได้ แทนที่จะให้แพลตฟอร์มเป็นผู้เก็บข้อมูลลูกค้า” มร. ชาง กล่าวสรุป