เนชันแนล อินสตรูเมนต์ส เปิดตัว NI CompactDAQ ระบบเครื่องมือวัดเวอร์ชันล่าสุด

ออสติน, เท็กซัส–(บิสิเนส ไวร์)

บริษัทเนชันแนล อินสตรูเมนต์ส (Nasdaq:NATI) เปิดตัว NI CompactDAQ ซึ่งเป็นระบบตรวจวัดสัญญาณที่มีพอร์ต USB ในวันนี้ โดยระบบดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับตรวจวัดสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์และตรวจจับการเคลื่อนไหวบนสายลำเลียงในการะบวนการผลิต ทั้งนี้ ระบบ NI CompactDAQ มีช่องรับส่งข้อมูล 8 ช่อง ซึ่งมีจำนวนช่องสัญญาณสำหรับตรวจวัดสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ สัญญาณทางกายภาพ สัญญาณที่ใช้ในเครื่องจักรกล และสัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นในระบบมากถึง 256 ช่องสัญญาณ และด้วยการนำแนวคิด Plug-And-Play โดยใช้ USB มาประยุกต์ใช้งานร่วมกับประสิทธิภาพในการทำงานและความยืดหยุ่นของเครื่องมือวัด จึงส่งผลให้ NI CompactDAQ มีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย และสามารถตรวจวัดได้อย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำ

ดร. เจมส์ ทรูชาร์ด ประธาน ซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเนชันแนล อินสตรูเมนต์ส กล่าวว่า “เนื่องจาก มีการใช้งาน USB เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากความสะดวกในการใช้งานและความสามารถในการรับส่งกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีความโดดเด่น เราจึงออกแบบ NI CompactDAQ โดยใช้ประโยชน์จากแบนด์วิธ ความกะทัดรัด และการใช้พลังงานต่ำของ USB ความเร็วสูงอย่างเต็มที่ เพื่อตอบสนองต่อความต้ัองการในเรื่องความคล่องตัวและเพื่อให้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา”

“ทั้งวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการทดสอบการทำงานและผู้ใช้งานทั่วไปจะได้รับประโยชน์จากการผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายในการใช้งาน USB และการรับส่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและมีความเร็วสูง” ดร.ทรูชาร์ดกล่าว

ทั้งนี้ NI CompactDAQ จะสามารถเชื่อมต่อและรับส่งสัญญาณร่วมกับเครื่องมือต่างๆ ซึ่งประกอบด้วยระดับความต่างศักย์ของสัญญาณไฟฟ้า อุณหภูมิ แรงกด เสียง และความสั่นสะเทือน รวมถึงสามารถสลับวงจรและการรับส่งสัญญาณดิจิตอลได้ โดยโมดูลของระบบทุกส่วนสามารถถูกสลับเปลี่ยนและถูกค้นพบโดยตัวระบบได้ง่าย ทั้งนี้เพื่อให้ความสะดวกในการติดตั้ง และเพื่อความปลอดภัยของทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์และผู้ใช้งาน ระบบดังกล่าวจึงสามารถปรับเปลี่ยนสัญญาณความต่างศักย์ได้สูงถึง 2,300 Vrms นอกจากนี้ NI CompactDAQ ยังมีช่องส่งสัญญาณ USB มากถึง 4 ช่องทางเพื่อให้สามารถส่งข้อมูลอนาล็อกแบบประสานเวลาและการใช้งานแอปพลิเคชั่นที่มีการรับส่งข้อมูลแบบดิจิตอล ซึ่งประกอบด้วย ข้อมูลเสียงและข้่อมูลความสั่นสะเทือน การทดสอบการผสมสัญญาณและการจัดเก็บรายละเีอียดในการส่งข้อมูลความเร็วสูงแบบอัตโนมัติ รวมถึงการมีขนาดกระทัดรัด (กว้าง 25 ซ.ม. ยาว 9 ซ.ม. หนา 9 ซ.ม.) และใช้กระแสไฟฟ้าได้หลายแบบ (กระแสสลับ หรือ กระแสตรงที่มีความต่างศักย์ 11 ถึง 30 โวลต์) ซึ่งส่งผลให้ NI CompactDAQ เหมาะสำหรับการทดสอบในลักษณะต่างๆ เช่น การทดสอบในระบบรถยนต์ ระบบลำเลียง และการทดสอบแบบอัตโนมัติ

ริค แบรดชอว์ หัวหน้ากลุ่มผู้ชำนาญการด้านเทคนิค ฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัทฮัลลิเบอร์ตัน กล่าวว่า “เราเลือกใช้ NI compactDAQ เพราะตัวระบบมีตัววิเคราะห์คอนกรีตโดยใช้คลื่นโซนิคบนแท่งขุดเจาะน้ำมัน เพื่อติดตามและตรวจสอบอัตราการลำเลียงคอนกรีตในภาวะที่มีอุณหภูมิและความดันสูง การที่ NI CompactDAQ มีขนาดกะทัดรัดช่วยให้เรามีเครื่องมือเคราะห์ที่มีขนาดเล็ก และมีลักษณะเป็นโมดูลที่สามารถนำไปใช้งานร่วมกับเครื่องมือวัดประเภทอื่นๆ เพื่อการตรวจวัดที่เฉพาะเจาะจงได้”

“นอกจากนี้ บริษัทเนชันแนล อินสตรูเมนต์ส ยังคงทำงานอย่างมุ่งมั่น เพื่อที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำในด้านการตรวจจับข้อมูล และนี่คือปัจจัยที่สำึคัญที่ช่วยในการคัดเลือกเวนเดอร์ของเรา เพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องมือวัดที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ” นายแบรดชอว์กล่าว

ทั้งนี้ ระบบ NI CompactDAQ จะมีไดร์เวอร์ NI-DAQmx บริการเครื่องมือวัด รวมถึงชุดเครื่องมือและหน้าจอโปรแกรมที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้การติดตั้งระบบสามารถทำได้โดยสะดวกและรวดเร็ว เช่น ยูทิลิตี้ที่ช่วยให้การตั้งค่าการทำงานและกลุ่มเมนูที่ช่วยในการทดสอบการทำงานแบบโต้ตอบ จะช่วยลดระยะเวลาในการติดตั้งระบบ นอกจากนี้ระบบยังมีซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับบันทึกรายการข้อมูลที่สามารถปรับแต่งค่าได้ ซึ่งจะช่วยให้สามารถจดบันทึกรายการข้อมูลได้ โดยที่ไม่ต้องเขียนโปรแกรมแต่อย่างใด บริการเครื่องมือวัดอื่นๆ ยังประกอบด้วย API ที่มีสถาปัตยกรรมแบบเปิด ซึ่งสามารถเรียกใช้งานได้จาก NI LabVIEW, ภาษา C/C++, ภาษา Visual Basic 6 และ ภาษาที่ใช้ใน Microsoft Visual Studio .NET รวมถึงการมีโปรแกรม DAQ Assistant ซึ่งเป็นวิซาร์ดที่ช่วยให้สามารถสร้างชุดคำสั่งของโปรแกรม LavVIEW ได้แบบอัตโนมัติ

เกี่ยวกับชุดโปรแกรม NI Data Acquisition

การนำเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ด้านชิปซิลิคอนและระบบบัสที่ใช้รับส่งข้อมูลมาประยุกต์ใช้งานร่วมกับการออกแบบที่มีความแปลกใหม่ ทำให้ชุดโปรแกรม NI data acquisition (DAQ) ได้รับการปรับปรุงความเร็วและความแม่นยำในการตรวจวัดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาและงบประมาณในการทำงานของกลุ่มวิศวกรและนักวิทยาศาตร์ โดยระบบ NI data acquisition จะประยุกต์ใช้ระบบบัสที่ใช้ในการรับส่งข้อมูลที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย ซึ่งประกอบด้วย PCI, PXI, PCI Express และ USB รวมถึงระบบปฏิบัติการที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในวงการอุตสาหกรรม เช่น วินโดว์ส ลีนุกซ์ และ แม็ค OS X ซึ่งผู้สนใจกรุณาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของระบบ NI data acquisition และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์ www.ni.com/daq

เกี่ยวกับบริษัทเนชันแนล อินสตรูเมนต์ส
เป็นเวลากว่า 30 ปีที่บริษัทเนชันแนล อินสตรูเมนต์ส (www.ni.com) ได้เป็นผู้นำและผู้บุกเบิกเทคโนโลยีด้านเครื่องมือวัดแบบเวอร์ชวล ซึ่งเป็นแนวคิดที่ปฏิวัติด้านเการตรวจวัดของวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ในวงการอุตสาหกรรม ระบบราชการ และสถาบันด้านการตรวจวัดและการทำงานแบบอัตโนมัติ และด้วยการนำเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์มาประยุกต์ใช้งานร่วมกัน จึงทำให้เครื่องมือตรวจวัดแบบเวอร์ชวลมีประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มมากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายในการทดสอบการทำงาน การควบคุม และการออกแบบแอปพลิเคชันลดลง โดยการทำให้ซอฟต์แวร์สามารถนำไปใช้ในระบบอื่นได้ง่าย เช่น NI LabVIEW และฮาร์ดแวร์ซึ่งเป็นโมดูลที่ใช้ในการตรวจวัดและการควบคุมโดยใช้ส่วนเขื่อมต่อเป็นแบบ PXI, PCI, PCI Express, USB และเครือข่ายอีเทอร์เน็ต บริษัทเนชันแนล อินสตรูเมนต์ส มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส และมีจำนวนพนักงานมากกว่า 3,900 คน และดำเนินธุรกิจใน 40 ประเทศทั่วโลก

ราคาและการวางจำหน่าย
ระบบ NI CompactDAQ USB Data Acquisition System
ราคาเริ่มต้นที่ 999 เหรียญสหรัฐ
เว็บไซต์ www.ni.com/compactdaq

เลขที่ 11500 N. Mopac Expwy., Austin, Texas 78759-3504
โทรศัพท์: 800-258-7022, โทรสาร: 512-683-9300
อีเมล์: info@ni.com

LabVIEW, National Instruments, NI, ni.com และ NI CompactDAQ และ NI-DAQ เป็นเครื่องหมายการค้าของเนชันแนล อินสตรูเมนต์ส ส่วนชื่อผลิตภัณฑ์และบริษัทอื่นๆเป็นเครื่องหมายการค้าหรือชื่อการค้าของบริษัทนั้นๆ

สามารถชมมัลติมีเดียได้ที่ http://www.businesswire.com/cgi-bin/mmg.cgi?eid=5134998

ติดต่อ: เนชันแนล อินสตรูเมนต์ส เมืองออสติน
บรรณาธิการ ติดต่อ:
จูเลีย เบตต์, โทร 512-683-8165
หรือ
ผู้อ่าน ติดต่อ:
เออร์เนสท์ มาร์ติเนซ, โทร 800-258-7022