เคทีซีเผยผลงานครึ่งปีแรก 2549 กำไรสุทธิ 216 ล้านบาท ฐานสมาชิกโต 137%

เคทีซี แถลงผลประกอบการ 6 เดือนแรก ปี 2549 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2549 กำไรสุทธิรวม 216 ล้านบาท ฐานสมาชิกขยายตัวกว่า 3.3 แสนบัญชี เติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 2548 ถึง 137% ผลจากสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันเอื้อให้ความต้องการสินเชื่อประชาชนเพิ่มสูงขึ้น เดินหน้ารุกขยายฐานบัตรต่อ พร้อมเตรียมแผนรองรับสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ควบคู่การรักษาคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ และกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตรด้วยแคมเปญทางการตลาดที่มีประสิทธิผล เน้นแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะเล็งเห็นถึงโอกาส และผลตอบแทนในอนาคต

นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่สูงขึ้น ทำให้มีความต้องการสินเชื่อมากขึ้น เพื่อยืดระยะเวลาของการถือเงินสด เคทีซีได้เล็งเห็นโอกาสในการสร้างฐานสมาชิกให้เพิ่มมากขึ้น จึงมุ่งขยายฐานสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อ พร้อมใช้ เคทีซี แคช รีโวลฟ (KTC CASH Revolve) เป็นหลัก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสรรหาสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอในฐานะ “สมาชิก” (Membership) และจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อเพิ่มปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรให้เกิดประสิทธิผล และเป็นประโยชน์กับสมาชิกบัตรมากที่สุด โดยใช้กลยุทธ์จับมือกับพันธมิตรธุรกิจชั้นนำในลักษณะของ Partnership Marketing นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบประมวลผลข้อมูลที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย”

“สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2549 บริษัทฯ มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 335,772 บัญชี เติบโต 137% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2548 และยังขยายตัวมากกว่าการเพิ่มขึ้นของสมาชิกในปี 2548 ทั้งปี โดยแบ่งเป็นสมาชิกใหม่ของบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นจำนวน 212,476 บัตร และ เคทีซี แคช (KTC CASH) 122,251 บัญชี ส่งผลให้จำนวนบัตรเครดิตรวม ณ 30 มิถุนายน 2549 เท่ากับ 1,341,670 บัตร และเคทีซี แคช เท่ากับ 215,165 บัญชี ในขณะที่พอร์ตลูกหนี้รวมเพิ่มขึ้น 21% จากสิ้นปี 2548 โดยมียอดลูกหนี้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 จำนวน 33,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2548 ถึง 31% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของพอร์ตลูกหนี้รวมจากการขยายฐานสมาชิกใหม่นี้ จะส่งผลไปถึงการขยายตัวของรายได้ที่จะได้รับอย่างต่อเนื่องในระยะยาว”
“ในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากช่วงเดียวกันของปี 2548 สำหรับรายได้รวมในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2549 มีจำนวนทั้งสิ้น 3,666 ล้านบาท เติบโต 37% เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน และรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีสัดส่วน คิดเป็น 67% และ 29% ของรายได้รวม โดยรายได้ดอกเบี้ยรับรวมค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในไตรมาสนี้เติบโต 17% จากไตรมาสที่ผ่านมา หรือ 33% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยรับจากธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช เป็นหลัก”

“ในส่วนของค่าใช้จ่ายรวม มีอัตราการเติบโตในไตรมาสที่ 2 เท่ากับ 18% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยมีค่าใช้จ่ายหลักที่เพิ่มขึ้นจากการบริหารงาน ในการขยายฐานลูกค้าในส่วนบัตรเครดิต และ สินเชื่อพร้อมใช้ เคทีซี แคช รีโวลฟ ทั้งนี้จะแสดงค่าเพิ่มขึ้นในส่วนของค่าใช้จ่ายทางการตลาดในการหาสมาชิก ที่ต้องตัดจ่ายทันทีในแต่ละเดือน ขณะที่รายได้ที่จะเกิดขึ้นจากฐานสมาชิกใหม่นี้จะเกิดขึ้นในอนาคต และต้องอาศัยระยะเวลาหนึ่ง รวมทั้งบริษัทฯยังมีค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาและค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้แก่บุคคลภายนอก (Outsource) ที่เพิ่มขึ้นด้วยตามจำนวนรายการทางการค้าที่สูงขึ้น โดยสัดส่วนของค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่อรายได้ (Cost to Income Ratio) ในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 เท่ากับ 57% นอกจากนี้ยังเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญที่เพิ่มขึ้น ตามการเติบโตของลูกหนี้รวมและจากการเพิ่มฐานสมาชิก และดอกเบี้ยจ่ายที่มีมูลค่าสูงขึ้น จากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยโดยรวมที่มีความผันผวนและปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯมีภาระต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น เช่นเดียวกันกับผู้ประกอบการอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (Repurchase Rate) ได้เพิ่มจาก 4.00% ณ สิ้นปี 2548 เป็น 5.00% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2549 ทำให้ในครึ่งปีแรกนี้ บริษัทฯมีต้นทุนทางการเงินเท่ากับ 4.41%”

“สำหรับฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวม 35,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากสิ้นปี 2548 ลูกหนี้การค้ารวมสุทธิ 33,609 ล้านบาท ประกอบด้วยยอดลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิ 23,601 ล้านบาท สินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช สุทธิ 5,367 ล้านบาท และสินเชื่อเจ้าของกิจการ (KTC Million) สุทธิ 3,948 ล้านบาท”

“เคทีซียังคงความสามารถในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง และจะยังคงยืนหยัดที่จะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จควบคู่ไปกับการอยู่เคียงข้างผู้บริโภค แม้ว่าอาจจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น เนื่องจากภาวะอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรก 216 ล้านบาท และกำไรสุทธิประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2549 เท่ากับ 80 ล้านบาท” นายนิวัตต์กล่าวปิดท้าย

ฝ่ายสื่อสารองค์กรและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 0-2665-5732, 02-665-5047-49, 02-665-5057
โทรสาร 02-665-5046 อีเมล์ : ktc_pr@ktc.co.th