อีเอ็มซีเผยผลประกอบการไตรมาสที่สาม รายได้เติบโต 13%

อีเอ็มอี คอร์ปอเรชั่น (NYSE: EMC) ผู้นำระดับโลกในด้านผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สาม ยอดรายได้เติบโตในอัตราเลขสองหลักเป็นไตรมาสที่ 21 ติดต่อกัน รายได้รวมของอีเอ็มซีในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2551 อยู่ที่ 3,700 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับยอดรายได้ 3,300 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2550

กำไรสุทธิตามหลักการบัญชี GAAP ในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2551 อยู่ที่ 411 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 0.20 ดอลลาร์ โดยครอบคลุมสิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้ 0.01 ดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิแบบ Non-GAAP ในช่วงไตรมาสที่สาม? อยู่ที่ 528 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 0.25 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้นแบบ Non-GAAP ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่หุ้นละ 0.22 ดอลลาร์

มร. โจ ทุซซี่ ประธานบริษัท ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของอีเอ็มซี กล่าวว่า “ในขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในภาวะซบเซา แต่อีเอ็มซีกลับมีรายได้เพิ่มขึ้นในอัตราเลขสองหลักเป็นไตรมาสที่ 21 ติดต่อกัน และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอัตราเลขสองหลัก ผลประกอบการดังกล่าวเป็นผลมาจากคุณภาพและความเป็นผู้นำของกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายของอีเอ็มซี ทั้งในส่วนของสตอเรจ การจัดการข้อมูล และการรักษาความปลอดภัย รวมถึงทีมงานฝ่ายขายตรงของเราและเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่เข้าถึงทุกตลาดทั่วโลกได้อย่างทั่วถึง ลูกค้ายังคงให้ความไว้วางใจต่ออีเอ็มซี เพราะบริษัทฯ ทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศที่มีอยู่ แม้ว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในอนาคตจะอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง แต่เรายังคงมั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะสามารถทำยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง และเอาชนะคู่แข่งในตลาด”

รายได้รวมจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนรายได้จากการดำเนินงานนอกสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และคิดเป็น 46% ของรายได้ทั้งหมดในช่วงไตรมาสที่สาม ในขณะที่รายได้จากภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) เพิ่มขึ้น 20% ส่วนรายได้จากเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น (APJ) เพิ่มขึ้น 19% และรายได้จากละตินอเมริกาเพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สามของปีที่แล้ว

มร. เดวิด กูลเด้น รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของอีเอ็มซี กล่าวว่า “อีเอ็มซีมีสถานะที่ดีเยี่ยม ด้วยความยืดหยุ่นทางการเงินซึ่งเป็นผลมาจากสถานะที่แข็งแกร่งในส่วนของเงินสดและเงินสดหมุนเวียน รวมถึงโอกาสในตลาดที่เพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และปริมาณข้อมูลส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ลูกค้าของเราต้องรับมือกับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น ทั้งยังต้องลดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบไอทีควบคู่ไปด้วย ด้วยเหตุนี้เราจึงเชื่อมั่นว่าอีเอ็มซีมีกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จ เรายังคงมุ่งเน้นการจัดการโครงสร้างต้นทุนของเรา พร้อมทั้งเพิ่มความจงรักภักดีของลูกค้า เพิ่มคุณประโยชน์ให้แก่ผู้ถือหุ้น และเสริมสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขัน เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่อง”

เหตุการณ์สำคัญในช่วงไตรมาสที่สาม

ธุรกิจการจัดเก็บข้อมูลของอีเอ็มซี ซึ่งประกอบด้วยระบบสตอเรจ ซอฟต์แวร์การจัดเก็บข้อมูล และบริการลูกค้าและบริการระดับผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง มีรายได้ 2,900 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว การเติบโตของธุรกิจการจัดเก็บข้อมูลเป็นผลมาจากความต้องการของฐานลูกค้าจำนวนมากสำหรับโซลูชั่นสตอเรจบนเครือข่าย ทั้งนี้ รายได้ของอีเอ็มซีจากแพลตฟอร์มสตอเรจระดับกลางและระดับเริ่มต้นที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายไอพีและเครือข่ายไฟเบอร์แชนเนลเพิ่มขึ้นในอัตราเลขสองหลัก นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสดังกล่าว ธุรกิจการจัดเก็บข้อมูลของอีเอ็มซียังได้รับประโยชน์จากการเติบโตของรายได้ในอัตราเลขสองหลักจากซอฟต์แวร์ด้านการแบ็คอัพ กู้คืน และเก็บข้อมูลระยะยาว ซึ่งช่วยให้ลูกค้าตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ในเรื่องการปกป้องและกู้คืนข้อมูล รวมทั้งควบคุมปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และปรับปรุงการประหยัดค่าใช้จ่ายในดาต้าเซ็นเตอร์

สำหรับช่วงไตรมาสที่สามของปี 2551 รายได้จากอาร์เอสเอ (RSA) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจรักษาความปลอดภัยของอีเอ็มซี เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดรายได้อยู่ที่ 147 ล้านดอลลาร์ การเติบโตของธุรกิจของอาร์เอสเอในช่วงไตรมาสที่สามนี้เป็นผลมาจากความต้องการของลูกค้าสำหรับโซลูชั่นการจัดการข้อมูลและเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย รวมถึงโซลูชั่นการปกป้องและตรวจสอบผู้ใช้ นอกจากนี้ยังเป็นผลสืบเนื่องมาจากกลยุทธ์ที่สมบูรณ์แบบของอีเอ็มซีสำหรับการรักษาความปลอดภัยโดยมุ่งเน้นที่ข้อมูลเป็นหลัก รวมทั้งชุดโซลูชั่นชั้นนำของบริษัทฯ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถรองรับกระบวนการโดยรวมสำหรับการคุ้มครองข้อมูล การบริหารความเสี่ยง และการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายในลักษณะที่รอบด้าน ทำซ้ำได้ และประหยัดค่าใช้จ่าย

รายได้ในช่วงไตรมาสที่สามจากธุรกิจการจัดการคอนเทนต์และการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว (Archiving) ของอีเอ็มซี อยู่ที่ 188 ล้านดอลลาร์ ในช่วงไตรมาสนี้ กลุ่มธุรกิจดังกล่าวได้รับประโยชน์จากความต้องการที่ต่อเนื่องสำหรับโซลูชั่นการจัดการคอนเทนต์ระดับองค์กรรุ่นอนาคตของอีเอ็มซี ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการคอนเทนต์สำหรับการทำธุรกรรม การจัดการการสื่อสารของลูกค้าในแบบไดนามิก และการจัดการคอนเทนต์สำหรับองค์กรเว็บ 2.0 โดยสนับสนุนวิธีการใหม่ๆ ในการทำงาน ติดต่อสื่อสาร และประสานงานกัน รวมทั้งตอบสนองความต้องการในเรื่องความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

วีเอ็มแวร์ อิงค์ (NYSE: VMW) ซึ่งอีเอ็มซีเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ มีรายได้ 472 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่สาม เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว วีเอ็มแวร์เป็นผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชั่นสำหรับระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น โดยครอบคลุมตั้งแต่เดสก์ทอปไปจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์ องค์กรทุกขนาดไว้วางใจในเทคโนโลยีของวีเอ็มแวร์สำหรับการลดค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินงาน การเสริมสร้างระบบรักษาความปลอดภัย และการประหยัดพลังงาน โปรดดูที่ http://ir.vmware.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลประกอบการในไตรมาสที่สามของผู้นำด้านซอฟต์แวร์เวอร์ช่วลไลเซชั่น

ข้อมูลคาดการณ์เกี่ยวกับธุรกิจ

คำแถลงต่อไปนี้อ้างอิงข้อมูลคาดการณ์ในปัจจุบัน คำแถลงเหล่านี้กล่าวถึงสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต และอาจแตกต่างอย่างมากจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง คำแถลงดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการ การเข้าซื้อกิจการ การขายกิจการ หรือการผนวกรวมธุรกิจที่อาจมีการประกาศหรือได้ข้อยุติในภายหลัง หรือค่าใช้จ่ายที่เป็นผลมาจากโครงการลดค่าใช้จ่าย คำแถลงเหล่านี้ใช้ทดแทนคำแถลงทั้งหมดก่อนหน้านี้ในเรื่องข้อมูลคาดการณ์เกี่ยวกับธุรกิจที่ปรากฏในข่าวประชาสัมพันธ์ของอีเอ็มซี

ยอดเงินดอลลาร์ทั้งหมดในข้อมูลคาดการณ์เกี่ยวกับธุรกิจถือเป็นตัวเลขโดยประมาณเท่านั้น

ข้อมูลคาดการณ์ของอีเอ็มซีสำหรับช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2551 มีดังนี้:

• รายได้รวม 4,000 ล้านดอลลาร์
• กำไรต่อหุ้นตามหลัก GAAP คาดว่าจะอยู่ที่ระหว่าง 0.23 และ 0.24 ดอลลาร์
• กำไรต่อหุ้นแบบ Non-GAAP (ไม่รวมผลกระทบจากการจ่ายค่าตอบแทนเป็นหุ้นและการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้) คาดว่าจะอยู่ที่ระหว่าง 0.30 และ 0.31 ดอลลาร์
• การจ่ายค่าตอบแทนเป็นหุ้นคาดว่าจะอยู่ที่ 0.05 ดอลลาร์ต่อหุ้น และการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ คาดว่าจะอยู่ที่ 0.02 ดอลลาร์ต่อหุ้น

อีเอ็มซีจะจัดการประชุมเพื่อแถลงผลประกอบการไตรมาสที่สามของปี 2551 ในวันนี้ เวลา 8:30 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออก โดยจะสามารถรับชมได้จากเว็บไซต์ของอีเอ็มซี ที่ www.EMC.com/earnings

ข้อมูลเกี่ยวกับอีเอ็มซี
อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE: EMC) เป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาและจัดหาโซลูชั่นและเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งช่วยให้องค์กรทุกขนาดปรับปรุงขีดความสามารถในการแข่งขันและใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าจากข้อมูลที่มีอยู่ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของอีเอ็มซี คลิกไปที่ www.EMC.com.