เค-เอสเอ็มอีร่วมลงทุน 5 เอสเอ็มอีดาวรุ่ง

บลท.ข้าวกล้า เลือก 5 เอสเอ็มอีคุณภาพ ทั้งบริษัทด้านไอที เว็บไซต์ ขายเพชร รับจัดอีเว้นท์ และโรงแรมที่สุโขทัย ให้เค-เอสเอ็มอี เข้าร่วมถือหุ้น 11-35% เป็นเงิน 91 ล้านบาท เผยเอสเอ็มอีดาวรุ่งยังมีเพียบ ในขณะที่มีผู้ลงทุนอื่นสนใจให้ตั้งกองทุนร่วมลงทุนเพิ่ม

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้จัดให้มีพิธีลงนามในสัญญาร่วมลงทุนระหว่างบริษัทร่วมทุน เค-เอสเอ็มอี จำกัด (K-SME Venture Capital) กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท โกโค่ จำกัด บริษัท บัณฑิต เซ็นเตอร์ จำกัด บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ลอว์สัน-มาร์ช อีเว้นท์ส จำกัด และบริษัท สุโขทัยแลนด์ จำกัด

นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารกสิกรไทย ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุน เค-เอสเอ็มอี จำกัด (K-SME Venture Capital) เพื่อร่วมลงทุนในเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพและต้องการเงินทุนในการขยายธุรกิจ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการเงินร่วมลงทุน ข้าวกล้า จำกัด (บลท.ข้าวกล้า ) เป็นผู้บริหารเงินร่วมลงทุนและพิจารณาคัดเลือกเอสเอ็มอีเพื่อร่วมถือหุ้น โดยล่าสุดมีเอสเอ็มอีที่ผ่านการพิจารณาให้บริษัทร่วมทุน เค-เอสเอ็มอี จำกัด เข้าร่วมถือหุ้น 5 บริษัทวงเงินร่วมทุน 96.5 ล้านบาท ได้แก่

บริษัท โกโค่ จำกัด (GOCO Co., Ltd.) เป็นบริษัทที่มีความเชียวชาญด้านการพัฒนาระบบงาน สารสนเทศและการสื่อสารสำหรับหน่วยงานภาครัฐ โดยตลาดเป้าหมายหลักได้แก่ หน่วยงานราชการ ตลอดจนกระทรวง ทบวง กรม เฉพาะในส่วนกลาง ซึ่งมีถึง 286 หน่วยงาน นับเป็นตลาดเป้าหมายที่ค่อนข้างใหญ่ โดยบริษัท เค-เอสเอ็มอี จำกัด เข้าร่วมถือหุ้นในบริษัทฯ เป็นเงิน 5.5 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 32.35% จากทุนจดทะเบียน 17 ล้านบาท

บริษัท บัณฑิต เซ็นเตอร์ จำกัด (Bundit Center Co.,Ltd.) ให้บริการสื่อโฆษณาออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ต จัดทำเว็บไซต์ และจัดกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับสินค้าและบริการต่าง ๆ ผ่านทาง www.kapook.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมมากเป็นอันดับสองของประเทศไทย ประกอบกับมีแผนธุรกิจในการควบรวมเว็บไซต์อื่น ๆ เข้าเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ จะทำให้บริษัทฯ มีรายได้โฆษณาเติบโตแบบก้าวกระโดด และมีโอกาสที่จะขยายตัวได้อีกมาก ทั้งนี้บริษัท เค-เอสเอ็มอี จำกัด เข้าร่วมถือหุ้นเป็นเงิน 20 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 16.67% จากทุนจดทะเบียน 48 ล้านบาท

บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (Jubilee Enterprise Public Company Limited) บริษัทผู้ออกแบบและจำหน่ายเพชรและเครื่องประดับเพชร มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 80 ปี ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ Jubilee และเป็นผู้บุกเบิกในการขยายช่องทางการจำหน่ายเพชรในรูปแบบของเคาน์เตอร์ โดยในปัจจุบันมีถึง 58 แห่ง และร้านค้าจำนวน 4 แห่ง และมีแผนการขยายเคาน์เตอร์อีก 14 แห่งในห้างเทสโก้ โลตัส ทำให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่อยู่ต่างจังหวัดได้ปรับเปลี่ยนจากการซื้อทอง เพชร ตามร้านค้าแบบดั้งเดิม มาเดินเลือกซื้อในห้าง Modern Trade ที่สะดวกสบายมากกว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในปี 2552 ทั้งนี้บริษัท เค-เอสเอ็มอี จำกัดเข้าร่วมถือหุ้นเป็นเงิน 51 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 11.11% จากทุนจดทะเบียน 135 ล้านบาท

บริษัท ลอว์สัน-มาร์ช อีเว้นท์ส จำกัด (Lawson-Marsh Events Co., Ltd.) ดำเนินธุรกิจรับจ้างดำเนินการจัดประชุม หรือ Professional Conference Organizer (PCO) โดยเน้นการจัดประชุมสัมมนาทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ (Medical Conference ) ซึ่งเป็นข้อดี เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจาก การที่บริษัทผลิต เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อให้แพทย์ในสาขาต่าง ๆ ได้มาร่วมประชุม ทำให้บริษัทฯ มีรายได้สม่ำเสมอ นอกจากนี้บริษัทฯ ได้พัฒนาซอฟท์แวร์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในจัดการประชุมขึ้นมาเอง ทำให้การประชุมมีประสิทธิภาพ ช่วยลดเอกสารในการดำเนินงาน ทั้งนี้บริษัท เค-เอสเอ็มอี จำกัด เข้าร่วมถือหุ้นเป็นเงิน 5 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 35.71% จากทุนจดทะเบียน 14 ล้านบาท

บริษัท สุโขทัยแลนด์ จำกัด (Sukhothai Land Co., Ltd.) ดำเนินธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท โดยโรงแรมแห่งแรกภายใต้การดำเนินงานของบริษัทฯ คือ สุโขทัย เทรชเชอร์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่จังหวัดสุโขทัย เป็นโรงแรมที่ได้เปรียบคู่แข่งที่อยู่ในระดับเดียวกัน เนื่องจากมีการคมนาคมสะดวกและอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ มีห้องประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ ทำให้สามารถรองรับการจัดประชุมสัมมนาต่าง ๆ ได้ รวมทั้งทีมผู้บริหารมีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการบริหารธุรกิจโรงแรม โดยในปัจจุบันเป็นผู้บริหารโรงแรมในจังหวัดสุโขทัย 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมธาราบุรี และโรงแรมอนันดา ทั้งนี้บริษัท เค-เอสเอ็มอี จำกัด เข้าร่วมถือหุ้นเป็นเงิน 15 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 23.08% จากทุนจดทะเบียน 65 ล้านบาท

นางสาวปฐมาพร ไชยกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการเงินร่วมลงทุน ข้าวกล้า จำกัด (บลท.ข้าวกล้า) ในฐานะผู้บริหารจัดการเงินร่วมลงทุนบริษัทร่วมทุน เค-เอสเอ็มอี จำกัด กล่าวว่า นโยบายหลักของธนาคารกสิกรไทย คือ การผลักดันให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างแท้จริง ซึ่งการร่วมถือหุ้นจะเป็นรูปแบบหนึ่งของการสร้างความแข็งแกร่งด้านการเงินให้กับเอสเอ็มอี ธนาคารได้กำหนดเงินทุนแรกเริ่ม 200 ล้านบาท สำหรับให้บริษัทร่วมทุน เค-เอสเอ็มอี จำกัดเข้าร่วมลงทุน โดยเมื่อกลางปีได้ร่วมลงทุนไปแล้ว 3 บริษัท คิดเป็นเงินร่วมลงทุนประมาณ 47.5 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้บริษัทร่วมทุน เค-เอสเอ็มอี จำกัด ได้ร่วมลงทุนในเอสเอ็มอีไปแล้วรวม 8 ราย คิดเป็นมูลค่าเงินร่วมลงทุนประมาณ 144 ล้านบาท

ปัจจุบันมีเอสเอ็มอีที่น่าสนใจที่จะเข้าร่วมลงทุนจำนวนมาก ซึ่งบลท.ข้าวกล้า อยู่ระหว่างการพิจารณาอีกหลายบริษัท โดยในส่วนแผนงานของบลท. ข้าวกล้า ยังคงมุ่งมั่นในการทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจัดการเงินร่วมลงทุน โดยในอนาคต บลท. ข้าวกล้าจะทำหน้าที่บริหารจัดการเงินร่วมลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันรายอื่นๆ ด้วย นอกเหนือไปจากการจัดการเงินลงทุนของ K-SME Venture Capital ซึ่งในขณะนี้มี ผู้ลงทุนสถาบันหลายรายที่แสดงความสนใจที่จะจัดตั้งนิติบุคคลร่วมลงทุน เช่นเดียวกับ K-SME Venture Capital ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในประเด็นต่างๆ อาทิเช่น นโยบายการลงทุน กลุ่มธุรกิจเป้าหมาย ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในไตรมาสที่สองของปี 2552

ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยกำหนดนโยบายร่วมลงทุนในเอสเอ็มอีแต่ละบริษัทในสัดส่วน 10-50% ของทุนจดทะเบียนภายหลังการร่วมลงทุน มีระยะเวลาการร่วมทุน 3-5 ปี โดยจะให้อิสระในการบริหารกิจการแก่เจ้าของบริษัท และมีนโยบายกระจายความเสี่ยงในการลงทุน โดยจะลงทุนในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งไม่เกินหนึ่งในสามของเงินทุนทั้งหมดที่มีอยู่

บลท.ข้าวกล้า ในฐานะผู้บริหารจัดการเงินร่วมทุน K-SME Venture Capital พร้อมที่จะให้การสนับสนุนเอสเอ็มอี ที่มีศักยภาพและต้องการขยายธุรกิจ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้บริษัทสามารถเจริญ เติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเอสเอ็มอีที่สนใจเรื่องของการร่วมลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการเงินร่วมลงทุน ข้าวกล้า จำกัด โทร. 02-693-2333 หรือที่เว็บไซต์ www.khaokla.com