กสิกรไทยจับมือดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส พัฒนานวัตกรรมการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ

ธนาคารกสิกรไทยจับมือดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เชื่อมตรงระบบการส่งเอกสารการค้าระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์เป็นธนาคารแห่งแรกในเอเชีย ช่วยส่งเอกสารผ่านธนาคารเร็วดั่งติดจรวด พร้อมสามารถตรวจเช็คสถานะเอกสารได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารมุ่งมั่นจะก้าวไปสู่อันดับหนึ่งของผู้ให้บริการด้านธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ จึงร่วมมือกับ บริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส หนึ่งในหน่วยธุรกิจของ ดีเอชแอล ผู้นำธุรกิจขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ระดับโลก ในการพัฒนาโซลูชั่นส์ทางธุรกิจ (Business Solutions) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของการให้บริการ ด้วยการเชื่อมต่อระบบบริการ Trade Innovation ของธนาคาร เข้ากับระบบการจัดการด้านการขนส่งสินค้าของดีเอชแอล

ทั้งนี้ โซลูชั่นส์ทางธุรกิจ จะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมด้านการค้าระหว่างประเทศให้กับลูกค้าผู้ส่งออกที่ต้องการส่งเอกสารเรียกเก็บเงินจากคู่ค้าในต่างประเทศ โดยศูนย์บริการธุรกิจต่างประเทศของธนาคาร จะเป็นผู้รับเอกสาร และออกหมายเลขใบนำส่งสินค้า (Air Waybill Number) ซึ่งเป็นบริการอย่างเดียวกันที่ลูกค้าได้รับจากศูนย์บริการดีเอชแอล และเอกสารดังกล่าวจะสามารถส่งออกต่างประเทศผ่านเครือข่ายดีเอชแอลได้ภายในวันเดียวกับที่ส่ง ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนและความยุ่งยากในการตรวจเช็คข้อมูลเอกสาร อีกทั้งยังเพิ่มความรวดเร็วและความสะดวกสูงสุด ช่วยให้เอกสารถึงที่หมายได้เร็วขึ้น ทำให้ผู้ส่งออกมีโอกาสได้รับเงินค่าสินค้าเร็วขึ้นด้วย

นอกจากนั้นแล้วโซลูชั่นส์ทางธุรกิจ ที่เชื่อมระบบระหว่าง Trade Innovation ต่อกับดีเอชแอลแบบเรียลไทม์ ทำให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะล่าสุดของเอกสารที่ส่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบการแจ้งเตือนให้ทราบถึงสถานะสินค้าด้วยอีเมล์หรือเอสเอ็มเอส นอกจากนั้นระบบจะแจ้งให้ลูกค้าทราบทันทีเมื่อเอกสารถึงปลายทาง หรือติดปัญหาในขั้นตอนใด

ด้านนางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย และภาคพื้นอินโดจีน จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ดีเอชแอล นับเป็นผู้นำธุรกิจขนส่งด่วนและลอจิสติกส์ระดับโลก ในฐานะที่เป็น “กลไกขับเคลื่อนทางการค้า” ดีเอชแอลได้มุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมและพัฒนาโซลูชั่นด้านลอจิสติกส์ต่างๆ อย่างครบวงจร เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านบริการและความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับลูกค้าของบริษัทและพันธมิตรให้ได้รับความสะดวกและรวดเร็วที่สุดในการขนส่งสินค้าและเอกสารไปทั่วโลก สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมองค์กรของดีเอชแอลในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญและเอาใจใส่กับลูกค้าเป็นสำคัญในการทำงานทุกๆ ด้านของเรา เพื่อให้เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าตลอดไป

จากแนวความคิดในการติดต่อผู้ให้บริการเพียงรายเดียว หรือ One Stop Service จึงได้ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย พัฒนาโซลูชั่นส์ทางธุรกิจ (Business Solutions) ขึ้น เพื่อเชื่อมธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศของธนาคารกสิกรไทยกับระบบการขนส่งเอกสารของบริษัทฯ ได้สำเร็จเป็นธนาคารแรกในเอเชีย ซึ่งเป็นการพัฒนาเครื่องมือในการเตรียมเอกสารสำหรับการขนส่งสินค้าผ่านระบบออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพสูง ติดตั้งง่าย อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า โดยลูกค้าจะได้รับหมายเลขใบนำส่งสินค้าทันทีที่ทำธุรกรรมสำเร็จ และยังสามารถติดตามสถานะของเอกสารผ่านทางเว็บไซต์ของดีเอชแอล (www.dhl.co.th) ได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง โดยลูกค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใด

นายประสาร กล่าวในตอนท้ายว่า การพัฒนานวัตกรรมทางการเงินของธนาคารถือเป็นการลด ต้นทุนดำเนินการด้านธุรกรรมการเงิน การจัดการเอกสารและการบริหารความเสี่ยง ที่เกี่ยวข้องกับทั้งผู้ผลิตสินค้า ลูกค้าและผู้ให้บริการลอจิสติกส์ เครือข่ายคู่ค้าทางธุรกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยปัจจุบันธนาคาร มีศูนย์บริการธุรกิจต่างประเทศทั่วประเทศรวม 55 แห่ง และในปี 2552 มีโครงการจะเปิดเพิ่มเป็น 65 แห่ง มีลูกค้าอยู่ราว 11,000 บริษัท จากจำนวนผู้ส่งออกทั้งหมดของประเทศ 40,000 บริษัท คาดว่า ณ สิ้นปี 2551 จะมียอดธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศราว 2.2 ล้านล้านบาท โตขึ้นกว่า ร้อยละ 40