โครงการช่วยลดโลกร้อน “แจ๋วรักษ์โลก” สร้างโอกาสให้น้องเรียน

ถึงแม้ว่าชื่ออำเภอปราณบุรี จะเป็นที่คุ้นเคยของบรรดานักท่องเที่ยว แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า แหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีทะเลสีคราม และอยู่ในวงล้อมของขุนเขาที่สวยงาม ยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนที่ยังรอคอยโอกาสทางการศึกษา

ที่นี่เป็นที่ตั้งของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าวังหิน อ. ปราณบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์ โรงเรียนแห่งแรกที่จะได้รับ “ชุดห้องสมุดสีเขียว” และ “ชุดห้องเรียนสีเขียว” พร้อมทั้งสมุดเรียน จากโครงการช่วยลดโลกร้อน ในชื่อ “แจ๋วรักษ์โลก” ซึ่งริเริ่มโดย บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ไทย) จำกัด บริษัทชั้นนำระดับโลกในธุรกิจด้านเทคโนโลยีการผลิต การบรรจุ และบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรจุภัณฑ์ระบบปลอดเชื้อ หรือกล่องเครื่องดื่มยูเอชที ร่วมมือกับรายการโทรทัศน์ชื่อดัง “30 ยังแจ๋ว” ของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3

โครงการ “แจ๋วรักษ์โลก” จุดประกายให้ทุกๆ คนได้รู้ว่า ชีวิตของกล่องเครื่องดื่มที่ทุกคนดื่มทุกๆ วัน ไม่ได้จบลงพร้อมๆ กับเครื่องดื่มที่ดื่มหมดแล้ว เพราะทุกส่วนใน “กล่องเครื่องดื่ม” ทั้งที่เป็นกระดาษ พลาสติก และอะลูมิเนียมฟอยล์ สามารถนำกลับมา “รีไซเคิล” ใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน และในวันนี้ การรีไซเคิล “กล่องเครื่องดื่ม” ไม่ได้เป็นแค่การช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนในขณะนี้ แต่ยังมีส่วนร่วมในการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับน้องๆ ด้อยโอกาส

นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ไทย) จำกัด กล่าวว่า โครงการแจ๋วรักษ์โลกเริ่มต้นรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปร่วมกันเก็บรวบรวมส่งกล่องเครื่องดื่มใช้แล้ว นำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2551 ทั้งนี้ กล่องเครื่องดื่มที่ใช้แล้ว ประมาณ 20 กล่อง จะสามารถนำไปผลิตสมุดได้ 1 เล่ม และ 2,000 กล่อง สามารถผลิตชุดโต๊ะ-เก้าอี้นักเรียนได้ 1 ชุด โดยการรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่ม สามารถทำได้ 2 วิธีคือการนำไปอัดเป็นแผ่นกระดาน หรือแยกกระดาษที่เป็นวัสดุหลักไปเป็นผลิตภัณฑ์กระดาษต่างๆ โดยใช้เยื่อกระดาษรีไซเคิลจากกล่องเครื่องดื่มสามารถนำไปผลิตเป็นสมุด ส่วนเศษพลาสติกและอะลูมิเนียมฟอยล์ สามารถนำไปขึ้นรูปผลิตเป็นแผ่นกระดานหรือแผ่นกรีนบอร์ด เพื่อนำไปประกอบเป็นโต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางหนังสือ เป็นต้น

นางกลอยตา กล่าวต่อว่า “โครงการแจ๋วรักษ์โลก จะเริ่มทยอยผลิตและส่งมอบชุดห้องสมุดสีเขียว ชุดห้องเรียนสีเขียว และสมุดให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอื่นๆ ต่อไป โดยโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าวังหิน จะเป็นโรงเรียนแห่งแรกที่ได้รับมอบอุปกรณ์การศึกษาดังกล่าว”

โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าวังหิน อ. ปราณบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์ อยู่ในความรับผิดชอบของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีครูใหญ่ และครูน้อยรวม 7 คน รวมถึงพี่เลี้ยงดูแลเด็กตัวเล็กๆ อีก 2 คน ทั้งหมดช่วยกันสอนหนังสือและดูแลเด็กๆ ตั้งแต่อนุบาล ถึง ป. 6 รวม 96 คน

เด็กๆ และคุณครูของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าวังหิน อยู่อาศัยกันเป็นเหมือนครอบครัวใหญ่ เด็กหลายคนต้องเผชิญกับความยากจน ครูเองก็ต้องช่วยประคับประคองเพื่อให้ชีวิตน้อยๆ เหล่านี้เติบโตและมีความรู้ติดตัว อย่างน้อยก็ช่วยให้ชีวิตพวกเขาได้มีโอกาส “ก้าว” ต่อไปข้างหน้า

ร้อยตำรวจตรี ไสว อัครพันธ์ ครูใหญ่นักพัฒนาของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าวังหิน เล่าให้ฟังว่า เด็กๆ ที่มาเรียนที่นี่ เดินทางมาโรงเรียนโดยอาศัยการโบกรถจากบรรดาชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่นี้ พ่อแม่ของเด็กๆ ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง การให้เด็กๆ มาเรียนหนังสือ ส่วนหนึ่งจึงเป็นการแบ่งเบาภาระดูแลของพ่อแม่ และยังทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้โลกที่พวกเขาอยู่ผ่านตัวหนังสือ โดยมีคุณครูที่นี่ช่วยสอนและดูแล

“อุปกรณ์การเรียนสำหรับเด็กๆ เป็นสิ่งสำคัญมาก และเป็นที่ต้องการอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ ที่อยู่ในพื้นที่ที่ยากจะเข้าถึง การเรียนการสอน คุณครูจึงพยายามใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างโต๊ะนักเรียนที่วนกันใช้ในบางครั้ง หรือชั้นวางหนังสือก็อาศัยการซ่อมแซมให้ได้มากที่สุด ส่วนสมุด ช่วยให้เด็กๆ ได้มีโอกาสฝึกฝนทำแบบฝึกหัดอย่างเพียงพอ ในนามของโรงเรียน ผมขอขอบคุณโครงการแจ๋วรักษ์โลกที่นำชุดห้องสมุดสีเขียวและชุดห้องเรียนสีเขียว รวมทั้งอุปกรณ์การศึกษาต่างๆ มามอบให้กับเด็กๆ ”

ด.ญ. วันดี โชติประวิช หรือน้องนุ่น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตัวแทนจากนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าวังหิน ได้กล่าวว่า “รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่โครงการแจ๋วรักษ์โลกได้นำชุดห้องเรียนสีเขียว และห้องสมุดสีเขียว มามอบให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าวังหิน เพื่อเป็นอุปกรณ์ในการเรียนรู้ของทั้งตัวหนูเอง และพี่ๆ น้องๆ ที่ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนี้ อย่างไรก็ตามพวกหนูขอขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการนำกล่องเครื่องดื่มมาบริจาคให้กับโครงการแจ๋วรักษ์โลก พวกหนูไม่มีสิ่งใดจะตอบแทนให้กับพี่ๆที่แสนดีได้ นอกจากจะขอสัญญาว่า พวกเราจะตั้งใจเรียน และเป็นคนดีของสังคม เพื่อตอบแทนสิ่งดีๆที่พวกพี่ๆ ทุกคนได้มอบโอกาสให้มาในครั้งนี้”

ด.ช. อนุวัตร แย้มสวัสดิ์ หรือน้องนุ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตัวแทนจากนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าวังหิน ได้เล่าให้ฟังว่า “โดยปกติแล้วเด็กนักเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าวังหินจะได้ดื่มนมโรงเรียนกันเป็นประจำทุกวัน และหลังจากดื่มนมเสร็จทุกครั้งพวกเราจะทำความสะอาดและรวบรวมมาบริจาคให้กับโครงการแจ๋วรักษ์โลก วันนี้ผมรู้สึกดีใจมากที่ผมได้เห็นกล่องนมที่พวกเราทุกคนรวบรวมไว้ถูกนำมารีไซเคิลเป็นชุดโต๊ะ เก้าอี้ สมุด และอุปกรณ์การเรียน ให้พวกเราทุกๆคนได้ใช้กัน ผมและเพื่อนๆจะช่วยกันดูแลรักษาอุปกรณ์เหล่านี้ให้ดีที่สุด โดยจะไม่นั่งบนโต๊ะเรียน ขีด ขูด หรือทำลาย เพราะรู้ว่ากว่าจะได้เป็นโต๊ะ เก้าอี้แต่ละตัวนั้น พี่ๆ และผู้ใหญ่ใจดีหลายต่อหลายคนจะต้องจัดเก็บรวบรวมเก็บกันมา ซึ่งพวกผมทุกคนรู้สึกตื้นตันใจกับการมอบโอกาสและอุปกรณ์การเรียนการสอน ซึ่งสุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกๆท่าน ที่มีส่วนร่วมในโครงการแจ๋วรักษ์โลกทุกคน ที่ได้ช่วยสร้างโอกาสให้กับเด็กนักเรียน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน”

ถึงวันนี้แล้วที่พลังของทุกๆ คนที่ร่วมด้วยช่วยกันในโครงการ “แจ๋วรักษ์โลก” ทำให้ “กล่องเครื่องดื่ม” ได้มีโอกาสกลับมาเกิดใหม่อย่างมีคุณค่าด้วยการรีไซเคิล นอกจากจะช่วยลดโลกร้อน ยังทำให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนได้มีสมุดไว้จดเรื่องราวที่เรียนรู้ มีห้องเรียนเป็นที่เติมเต็มความรู้ และมีห้องสมุดเป็นคลังความรู้ ที่สำคัญทำให้พวกเขาได้อุ่นใจว่า นอกจากคุณครูของพวกเขาแล้ว โลกเล็กๆ ใบนี้ไม่ได้ร้อนจนเกินไป แต่ยังมีไออุ่นจากคนมากมายที่พร้อมจะช่วยเปิดโลกการเรียนรู้ให้พวกเขา