สรุปภาพรวมไฮไลท์เทคโนโลยีจากอินเทลตลอดปี 2551

ในโอกาสฉลองครบปีที่ 40 ของอินเทล คอร์ปอเรชั่น ในปีพ.ศ. 2551 และเป็นโอกาสเดียวกันกับที่ Integrated Circuit ที่มีอยู่ในโปรเซสเซอร์จะมีอายุย่างเข้าปีที่ 50 อินเทลได้อาศัยความเป็นผู้นำในการคิดค้นเทคโนโลยีการผลิตแบบ 45 นาโนเมตร เพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยีสำหรับโปรเซสเซอร์และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สำหรับเดสก์ท้อป โน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ รวมทั้งประกาศความสำเร็จทั้งในด้านการค้นคว้าวิจัย ด้านสิ่งแวดล้อม และความสำเร็จอีกมากมายขององค์กร พร้อมกับสร้างเทคโนโลยีสำหรับตลาดเกิดใหม่ และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฮเทคมากมาย โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

การเปิดตัว เปิดตัว“อินเทล™ คอร์™ ไอเซเว่น โปรเซสเซอร์” – ในเดือนพฤศจิกายน อินเทลได้ประกาศเปิดตัวโปรเซสเซอร์ สำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปที่ล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีคุณสมบัติเด่นเช่น เทคโนโลยี อินเทล เทอร์โบ บูสต์ และเทคโนโลยี อินเทล ไฮเปอร์-เธรดดิ้ง โดยโปรเซสเซอร์ในตระกูลนี้จะขยายไปสู่โปรเซสเซอร์ระดับ 8 คอร์ ทำให้มีเธรดเพิ่มขึ้นอีก 8 เธรดเพื่อทำงานได้เสมือนมี 16 เครื่องประมวลผลพร้อมกันเพื่อตอบสนองการทำงานได้ตามความต้องการของทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและผู้ใช้ในองค์กรธุรกิจที่ต้องการคอมพิวเตอร์พลังประมวลผลสูง นอกจากนั้นเทคโนโลยี อินเทล เทอร์โบ บูสต์ ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ได้อย่างน่าทึ่งโดยไม่ทำให้เกิดความร้อนเพิ่มเติมอีกด้วย

การเปิดตัว อินเทล™ เซนทริโน™ 2 โปรเซสเซอร์ และ อินเทล™ เซนทริโน™ 2 พร้อมวีโปร™ เทคโนโลยี สำหรับโน้ตบุ๊ก – เมื่อความนิยมของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเริ่มแซงหน้าคอมพิวเตอร์แบบเดสก์ท้อปในปีพ.ศ. 2551 นี้ ในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมาอินเทลจึงได้แนะนำแพลตฟอร์มรุ่นถัดมาสำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโมบายล์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อรองรับการทำงานที่หนักหน่วงได้อย่างตรงใจผู้ใช้มากขึ้น เทคโนโลยีโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดนี้มีประสิทธิภาพสูงและมีคุณสมบัติเด่นในการเล่นวิดีโอแบบไฮเดฟินิชั่น และชวยให้โน้ตบุ๊กมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นกว่ารุ่นก่อน

อินเทล™ อะตอม™ โปรเซสเซอร์สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ – ในปีนี้อินเทลได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์ที่เล็กที่สุด โปรเซสเซอร์รุ่นนี้สร้างขึ้นจากทรานซิสเตอร์ที่ดีไซน์ขึ้นใหม่ให้มีขนาดเล็กที่สุดเพื่อใช้กับอุปกรณ์ประเภทใหม่ที่เรียกว่า เน็ตบุ๊ก และอุปกรณ์โมบายล์อินเทอร์เน็ต (Mobile Internet Devices – MID) รวมทั้งยังเป็นการขยายผลิตภัณฑ์ของอินเทลเข้าสู่กลุ่ม embedded และวงการดิจิตอลเฮลธ์อีกด้วย
.
การนำเทคโนโลยีไวแมกซ์มาใช้ – สปรินท์สร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตคลุมเมืองบัลติมอร์เป็นเมืองแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา และยังมีเครือข่ายอีกนับร้อยเครือข่ายทั่วโลกที่อยู่ในช่วงเตรียมใช้งาน ซึ่งอินเทลได้วางจำหน่ายโมดูลที่สามารถรองรับสัญญาณไวแมกซ์และไวไฟ สำหรับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ใช้อินเทลโปรเซสเซอร์แล้ว ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กหลายรายกำลังอยู่ในช่วงของการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่สามารถรองรับสัญญาณไวแมกซ์ได้ออกสู่ตลาด นอกจากนั้น FCC ได้อนุมัติการร่วมทุนระหว่างฝ่ายธุรกิจด้านไวแมกซ์ของสปรินท์และเคลียร์ไวร์ ซึ่งยังรวมถึงการลงทุนจากบริษัทอื่นเช่น อินเทล กูเกิล คอมคาส์ท ไทม์ วอเนอร์ เคเบิล และ ไบรท์ เฮาส์ เน็ตเวิร์คอีกด้วย

ก้าวสำคัญครั้งแรกของโปรเซสเซอร์ – อินเทลได้แนะนำอินเทล™ คอร์™ 2 เอ็กซ์ตรีม QX9300 และ อินเทล™ คอร์™ 2 คว๊อด Q9100โปรเซสเซอร์แบบคว๊อดคอร์สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโมบายล์เป็นตัวแรกของโลก นอกจากนั้นอินเทลยังเป็นบริษัทแรกที่ได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์ที่มี 6 คอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ในตระกูลอินเทล ซีออน อีกด้วย

โปรเซสเซอร์กลุ่มโมบายล์ที่มีขนาดเล็กลงเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการออกแบบใหม่ๆ – การเปิดตัวโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กถึง 8 รุ่น ทำให้ประหยัดพื้นที่ภายในเครื่องพีซีได้ถึงร้อยละ 60 และกินไฟน้อยลงอีกด้วย และนี่คือคำตอบสำหรับผู้ที่สงสัยว่า เลอโนโวและแอปเปิลสามารถออกแบบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่เพรียว บางได้อย่างไร

สถาปัตยกรรมลาร์ราบี (Larrabee) ชี้ให้เห็นถึงอนาคตของการประมวลผลภาพ – เพื่อเป็นการตอบรับกับวิสัยทัศน์ด้านการประมวลผลในระดับเทอราสเกล อินเทลได้ให้รายละเอียดถึงคุณสมบัติเด่น และความสามารถต่างๆ ของสถาปัตยกรรมลาร์ราบีซึ่งเป็นต้นแบบของการประมวลผลแบบหลายคอร์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวแรกสำหรับตลาดกราฟิกที่จะใช้สถาปัตยกรรมลาลาร์บีจะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงปี พ.ศ. 2552-2553

โปรเซสเซอร์แบบซิสเต็มออนชิป รุ่นใหม่ที่ฉลาดกว่าเดิม และสร้างขึ้นให้ตอบจุดประสงค์การใช้งาน – อินเทลได้ประกาศถึงความเป็นผู้นำในการออกแบบและเปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่สำหรับ ซิสเต็มออนชิป (System on Chip หรือ SOC) ที่สมบูรณ์ ตอบวัตถุประสงค์การใช้งาน และเหมาะกับการใช้งานบนเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยสถาปัตยกรรมของอินเทล ผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่นี้จะให้ประสิทธิภาพในระดับใหม่พร้อมทั้งประหยัดพลังงานกว่าซิสเต็มออนชิปรุ่นก่อนหน้า ซึ่งในปี พ.ศ. 2551 นี้อินเทลได้เปิดตัวซิสเต็มออนชิป ที่ใช้สถาปัตยกรรมของอินเทลสำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค และตลาดของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม embedded และในอนาคตซิสเต็มออนชิป จะมีพื้นฐานอยู่บนนวัตกรรมอินเทล อะตอม โปรเซสเซอร์ โดยมีชื่อรหัสว่า โซดาวิลล์ (Sodaville) และ ลินครอฟท์ (Lincroft)

เทคโนโลยีของอินเทลในผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ และโทรทัศน์ – อินเทลได้เปิดตัว โปรเซสเซอร์แบบซิสเต็มออนชิปตัวแรกที่พัฒนาขึ้นตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานสำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ซึ่งจะสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีชื่อว่า อินเทล™ มีเดีย โปรเซสเซอร์ CE3100 หรือมีชื่อรหัสว่า แคนมอร์ (Canmore) นอกจากนั้น อินเทลยังได้ร่วมกับ yahoo เพื่อแนะนำรูปแบบการทำงานของโทรทัศน์แบบใหม่ ที่เรียกว่า Widget Channel ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบและเพลิดเพลินกับชุด TV Widget ได้โดยตรงจากโทรทัศน์ของพวกเขาอย่างสะดวกสบาย

คลาสเมทพีซี – ในเดือนเมษายน อินเทลได้แนะนำคลาสเมทพีซีรุ่นใหม่สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา ซึ่งประเทศโปรตุเกสได้ประกาศว่าจะนำคลาสเมทพีซีจำนวน 500,000 เครื่องไปใช้ ส่วนประเทศเวเนซุเอลาก็ได้ตกลงว่าจะซื้อคลาสเมทพีซีเพิ่มอีกจำนวน 1 ล้านเครื่องจากผู้ผลิตแบรนด์ในประเทศที่มีชื่อว่า Magellan อีกด้วย

อินเทล™ วีโปร™ เทคโนโลยีที่สามารถคิดและสั่งงานด้วยตัวเอง – ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา อินเทลได้แนะนำ อินเทล™ วีโปร™ เทคโนโลยี สำหรับเดสก์ท้อปคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในธุรกิจรุ่นที่ 3 ซึ่งมีคุณสมบัติใหม่ที่จะช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถคิดและทำด้วยตัวเอง โดยเป็นการทำงานด้านไอทีแบบอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น เครื่องพีซีสามารถตั้งเวลาที่จะต้องได้รับการตรวจสภาพและซ่อมบำรุง หรือแจ้งเตือนเมื่อเครื่องมีปัญหาต้องการแก้ไขเป็นต้น

การแนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ Solid-State Drives (SSDs) ที่มีประสิทธิภาพสูง – ในปีนี้อินเทลได้เปิดตัว Solid-State Drives (SSDs) ที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะเป็นการแทนที่การใช้ฮาร์ดดิสก์ในปัจจุบัน SSDs เหล่านี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของโปรเซสเซอร์เพื่อให้การทำงาน และการตอบสนองที่รวดเร็วขึ้น ในรูปแบบที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาและกินไฟน้อยลง และสำหรับเซิร์ฟเวอร์ SSDs ของอินเทลจะช่วยลดโครงสร้างทั้งหลายได้แก่ ระบบรักษาความเย็น ค่าไฟ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสำหรับแอพลิเคชั่นในระดับองค์กรได้มากกว่าเดิมถึง 5 เท่าเลยทีเดียว
การเปิดตัวแพลตฟอร์ม อินเทล ดูอัล ซ็อคเก็ต เอ็กซ์ตรีม – ในเดือนกุมภาพันธ์ อินเทลได้แนะนำ แพลตฟอร์มรุ่นเอ็กซ์ตรีมสำหรับเดสก์ท็อปที่มีชื่อรหัสว่า สกัลล์เทรล (Skulltrail) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับนักเล่นเกมส์ที่หนักหน่วง โดยสามารถรองรับ อินเทล คอร์ 2 เอ็กซ์ตรีม โปรเซสเซอร์ โปรเซสเซอร์แบบคว๊อดคอร์ได้ถึง 2 ตัวด้วยกัน ทำให้มีพลังการประมวลผลทั้งหมดเทียบเท่ากับ 8 คอร์ และยังมีทางเลือกสำหรับการใช้มัลติกราฟิกการ์ดอีกด้วย

อินทลและไมโครซอฟต์ร่วมกันผลักดัน Parallel Computing – ในเดือนมีนาคม อินเทลได้ร่วมมือกับบริษัทไมโครซอฟต์ และหน่วยงานทางการศึกษาเพื่อสร้างศูนย์วิจัยด้าน Universal Parallel Computing ถึงสองแห่งที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ Urbana-Champaign และมหาวิทยาลัยเบิร์คเล่ย์ แคลิฟอร์เนีย ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้ไมโครซอฟต์และอินเทลมุ่งมั่นที่จะมอบเงินจำนวน 20 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อใช้ในการค้นคว้าและวิจัยด้านซอฟต์แวร์สำหรับรองรับโปรเซสเซอร์ที่ใช้เทคโนโลยีมัลติคอร์ที่ศูนย์แห่งนี้ ในระยะ 5 ปีข้างหน้า

การค้นคว้าและวิจัย – อินเทลได้มีการนำเสนอถึงโครงการกว่า 100 โครงการที่อยู่ภายใต้การค้นคว้าวิจัยที่ห้องแล็บของอินเทล ซึ่งเป็นโครงการในสาขาต่างๆ มีตั้งแต่แบตเตอรี่ที่ชาร์จแบบหนึ่งวันโดยอาศัยเครือข่ายไร้สาย ไปจนกระทั่งแขนกลที่สามารถบอกได้ว่าควรจะวางถ้วยกาแฟไว้ตรงตำแหน่งใดในเครื่องล้างจาน นักวิจัยที่ศูนย์แห่งนี้ยังได้พัฒนาเกมส์ที่คล้ายกับ human Tetris โดยจอขนาดใหญ่จะสามารถจับการเคลื่อนไหวของร่างกายได้แบบทันที

เวเฟอร์ขนาด 450 นาโนเมตร – ในเดือนพฤษภาคม อินเทล ซัมซุง และ TSMC ได้ประกาศถึงความร่วมมือระหว่างทั้ง 3 บริษัท และอีกหลายหน่วยงานในการพัฒนาระบบการผลิตโดยใช้แผ่นเวเฟอร์ขนาด 450 นาโนเมตร ด้วยเป้าหมายว่าผลงานชิ้นตัวอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ในปีพ.ศ. 2555 และจะเริ่มผลิตจริงในอีก 2-3 ปีหลังจากนั้น

โอเทลลินี ได้ชื่อว่าเป็นซีอีโอแห่งปี 2551 – ประธานบริษัทอินเทล พอล โอเทลลินี ได้รับเลือกให้เป็น ซีอีโอแห่งปี พ.ศ. 2551 ในกลุ่มธุรกิจที่มีตลาดขนาดใหญ่ โดยนิตยสาร CRO ซึ่งนายเจย์ ไวท์เฮด ประธานและ ผู้ตีพิมพ์นิตยสาร CRO ได้กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับรางวัลซีอีโอแห่งปีครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้นำที่มีความสำคัญและมีความสามารถที่สุดในการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม

อินเทลแสดงความมุ่งมั่นในด้านพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม – ในปีพ.ศ. 2551 อินเทลได้ชื่อว่าเป็นบริษัทที่มีการซื้อพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จาก EPA ในสหรัฐฯ มากเป็นอันดับ 1 ซึ่งเมื่อมีการเปรียบเทียบแล้ว ปริมาณการซื้อพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของอินเทลเทียบเท่ากับการนำรถมากกว่า 185,000 คันออกจากถนนในแต่ละปี นอกจากนั้นอินเทลยังได้ยืนยันที่จะซื้อพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่มากกว่า 1.3 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี และยังได้รับการขนานนามว่าเป็นพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมแห่งปีของ EPA อีกด้วย

การประหยัดพลังงาน : การออมมูลค่ากว่า 40 ล้านเหรียญสหรัฐ – ในปีพ.ศ. 2551นี้ อินเทลยังได้ดำเนินโครงการประหยัดพลังงานมากกว่า 250 โครงการ ตั้งแต่การรีไซเคิลน้ำไปจนกระทั่งวัสดุต่างๆ มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2544 ส่งผลให้สามารถประหยัดพลังงานในโรงงานได้มากกว่า 500 ล้านกิโลวัตต์ ซึ่งเพียงพอที่จะแจกจ่ายให้กับครัวเรือนในประเทศสหรัฐอเมริกาถึง 50,000 ครัวเรือน และอินเทลยังได้ลงทุนกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐในโครงการต่างๆ ส่งผลให้สามารถประหยัดพลังงานได้มากกว่า 40 ล้านเหรียญสหรัฐจนกระทั่งปัจจุบัน

การทำกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อสังคมจำนวน 1 ล้านชั่วโมง และความมุ่งมั่นในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ – อินเทลตั้งมั่นที่จะอุทิศเวลา 1 ล้านชั่วโมงในปี 2551 ในการทำงานอาสาสมัคร เพื่อเป็นการฉลองในโอกาสที่บริษัทได้ก่อตั้งมาเป็นเวลา 40 ปี นอกจากนั้นอินเทลยังมุ่งมั่นที่จะลงทุนกว่า 120 ล้านเหรียญสหรัฐในอีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนมีความสนใจในวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เพื่อเป็นการเตรียมให้พวกเขาพร้อมรับกับความท้าทายบนโลกนี้ได้อย่างสร้างสรรค์และมีศักยภาพ

อินเทลเพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย – ช่องทางจัดจำหน่ายของอินเทลจัดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25-30 ของยอดขายซีพียูทั้งหมด นอกจากนั้นปีนี้ยังเป็นปีที่อินเทลได้ริเริ่มโครงการที่จะช่วยให้ตลาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโมบายล์เติบโตอย่างกว้างขวางขึ้น เพื่อพัฒนาคุณสมบัติของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กให้เป็นมาตรฐาน และมีการประกาศถึงการประกอบมาเธอร์บอร์ดในประเทศบราซิล รวมถึงซีพียูแบบบรรจุก่องตัวแรกในประเทศจีนอีกด้วย