ทีดับบลิวแซดรุกธุรกิจใหม่รับจัดหามือถือพร้อมร่วมวางแผนการตลาดครบวงจร

ทีดับบลิวแซดประกาศความสำเร็จกับการสร้างมือถือแบรนด์ “ทีดับบลิวแซด” และ “นกเทล” ด้วยยอดขายกว่า 300,000 เครื่อง ในปีแรกที่เริ่มต้นเพียงปีเดียว ย้ำจุดแข็งที่ประสบการณ์และความสามารถในการคัดสรรสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง เปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ รุกธุรกิจรับจัดหามือถือ และร่วมวางแผนการตลาดให้กับผู้จัดจำหน่ายชั้นนำอย่างครบวงจร รวมถึงการออกแบบและพัฒนาฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์ ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของผู้จัดจำหน่ายรายนั้นๆ อีกทั้งให้บริการตรวจสอบสินค้าก่อนวางจำหน่ายและดูแลเรื่องงานบริการหลังการขายเป็นรายแรกของเมืองไทย โดยในปี 2552 นี้ ทีดับบลิวแซดยังเดินหน้าขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังต่างประเทศ พร้อมทุ่มงบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดมือถือ ด้วยการตอกย้ำภาพแบรนด์ “ทีดับบลิวแซด” ผ่านการปรับโฉมร้าน “ทีดับบลิวแซดแบรนด์ช็อป” ทั่วประเทศ การเปิดศูนย์บริการลูกค้าใหม่ และการเพิ่มจุดรับบริการหลังการขาย โดยตั้งเป้ายอดขายกว่า แสนเครื่องต่อเดือน อีกทั้งเสริมทัพด้วยสินค้าไฮเทคมากมาย พร้อมเปิดตัวโครงการโฮมออฟฟิศเพื่อการพาณิชย์ ในทำเลทองติดรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีรัชดาภิเษก ปลายปีนี้ มั่นใจรายได้ทะลุ 4,500 ล้านบาท

นายพุทธชาติ รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ กล่าวว่า จากการเริ่มจัดจำหน่ายมือถือแบรนด์ “ทีดับบลิวแซด” และ “นกเทล” ในปี 2551 เป็นปีแรก บริษัทฯ ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายกว่า 300,000 เครื่องในปีเดียว ทำให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของตลาดเฮาส์แบรนด์ในระยะยาวและโอกาสทางธุรกิจ จึงตัดสินใจขยายธุรกิจจากผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริม ด้วยการเป็นผู้รับจัดหามือถือ พร้อมร่วมวางแผนการตลาดให้กับผู้จัดจำหน่ายชั้นนำทั้งในเขตกรุงเทพและต่างจังหวัดอย่างครบวงจร รวมถึงการออกแบบและพัฒนาฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์ ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของผู้จัดจำหน่ายรายนั้นๆ เป็นสำคัญ อีกทั้งให้บริการตรวจสอบสินค้าก่อนวางจำหน่ายทุกครั้ง และดูแลเรื่องงานบริการหลังการขาย พร้อมเปิดตัวเป็นรายแรกของเมืองไทย เนื่องจากมีประสบการณ์ในธุรกิจมือถือกว่า 18 ปี และทีดับบลิวแซดมีพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งในด้านการวิจัย-พัฒนาเทคโนโลยีมือถือกับโรงงานระดับท็อปเท็นของประเทศจีน ที่พร้อมร่วมสนับสนุนทั้งเทคโนโลยีและคอนเทนต์ในโทรศัพท์มือถือใหม่ๆ โดยในขณะนี้มีผู้ที่สนใจแล้วประมาณ 3-5 ราย ซึ่งอยู่ในระหว่างเจรจากับทีดับบลิวแซด

เพื่อย้ำภาพความสำเร็จของทีดับบลิวแซดในปี 2552 ทีดับบลิวแซดจึงทุ่มงบการตลาดร่วม 50 ล้านบาท ในการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ทีดับบลิวแซด และปรับโฉมร้านทีดับบลิวแซดแบรนด์ช็อปให้เป็นรูปแบบเดียวกันทั้งหมดทุกสาขาทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท

ในส่วนของช่องทางจำหน่ายอื่นๆ ในปี 2552 นี้ “ทีดับบลิวแซด” ยังมีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังต่างประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา และร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กับเวียดนาม ซึ่งในช่วงแรก คาดว่าจะสามารถส่งออกได้ประมาณ 10,000 เครื่องต่อเดือน ทีดับบลิวแซดจะเพิ่มการสร้างแบรนด์ผ่านสื่อ ณ จุดขายต่างๆ เช่น โรลอัพ สแตนด์ โปสเตอร์ อิงค์เจ็ท ใบปลิว ตู้โชว์ดิสเพลย์ และสื่อการตลาดอื่นๆ ให้กับร้านค้าปลีกและร้านค้าในเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายของทีดับบลิวแซดกว่า 500 ราย ทั่วประเทศ

อีกทั้งเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในงานบริการหลังการขาย ทีดับบลิวแซดได้เปิดศูนย์บริการ 3 สาขา ได้แก่ ชั้น 2 ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต สาขาประชานิเวศน์ ร้านทีดับบลิวแซด ชั้น 4 มาบุญครอง และอาคารทีดับบลิวแซด ถนนเทศบาลสงเคราะห์ และเสริมจุดรับบริการหลังการขายอีกกว่า 80 แห่ง ประกอบด้วยร้านทีดับบลิวแซดกว่า 40 แห่ง ร้านในพาวเวอร์บายและร้านในพาวเวอร์มอลล์อีกกว่า 40 แห่งทั่วประเทศ

เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีสำหรับมือถือแบรนด์ “ทีดับบลิวแซด” จึงได้คัดสรรมือถือที่ตรงกับความต้องการและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนไทย โดยมีเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น TWZ – Z800 ที่มีเทคโนโลยีใหม่ Nerve Conduction ใช้ระบบสั่นสะเทือนที่ส่งคลื่นเสียงเข้าสู่การฟังโดยผ่านโสตประสาททางหูได้อย่างชัดเจนและปลอดภัย สำหรับการใช้โทรศัพท์ในบริเวณที่มีเสียงรบกวนสูง และ TWZ – Q3 ที่มีเว็บแคมให้แชตแบบเห็นหน้า และมือถือดูทีวีรุ่นใหม่ที่บางที่สุดซึ่งกำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านี้ ทีดับบลิวแซดยังได้เพิ่มหมวดหมู่สินค้าที่จำหน่ายใหม่เป็นกลุ่มสินค้าสื่อสารและเทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเพื่อการสื่อสาร ซึ่งสามารถเสียบซิมการ์ดที่ตัวเครื่องโดยตรง ไอพีคาเมร่า GPS สำหรับติดรถยนต์ GPS บอกพิกัดสำหรับนักกอล์ฟ กล้องวงจรปิด ลำโพงไร้สาย และแอร์การ์ด ที่ทดลองวางตลาดแล้ว เป็นต้น

“ภายในปี 2552 นี้ ทีดับบลิวแซดจะปรับสัดส่วนการขายแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เองเป็น 70% และอินเตอร์แบรนด์ 30% คาดว่าทีดับบลิวแซดจะมียอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือเดือนละกว่าแสนเครื่อง เมื่อรวมกับรายได้ในการจำหน่ายอุปกรณ์เสริม สินค้าเทคโนโลยี งานบริการ และการรับจัดหา-ผลิตโทรศัพท์มือถือเฮาส์แบรนด์ คาดว่าในปีนี้ทีดับบลิวแซดจะมีรายได้ 4,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่อยู่ที่ประมาณ 3,300 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 30%” นายพุทธชาติกล่าว

สำหรับผลประกอบการปี 51 รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 3,300 ล้านบาท มีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมประมาณ 15 ล้านบาท และกำไรสุทธิเฉพาะทีดับบลิวแซดอยู่ที่ประมาณ 33 ล้านบาท ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นการปรับกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสได้ใช้งานมือถือทีดับบลิวแซดมากขึ้น และในปี 2552 นี้ ทีดับบลิวแซดจะจ่ายเงินปันผล สำหรับผลประกอบการปี 2551 ในอัตราหุ้นละ 0.01 บาท จำนวน 2,400 ล้านหุ้น เป็นเงิน 24 ล้านบาท เพื่อตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น

“ความก้าวหน้าของทีดับบลิวแซดยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ล่าสุดทีดับบลิวแซดได้ก้าวสู่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยการพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นโฮมออฟฟิศเพื่อการพาณิชย์ ในทำเลทองติดรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีรัชดาภิเษก ปลายปีนี้ ซึ่งเป็นโครงการเดียวที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่สุด ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2552 นี้แน่นอน และจะรับรู้รายได้บางส่วนภายในปีนี้” นายพุทธชาติกล่าวทิ้งท้าย