เทสโก้ โลตัส เปิดตัวร่องรอยคาร์บอนแห่งแรกในประเทศไทย ทุ่มงบกว่า 568 ล้าน

กรุงเทพฯ (8 กันยายน 2552) – เทสโก้ โลตัสเปิดตัวโครงการร่องรอยคาร์บอน (Carbon Footprint) แห่งแรกในประเทศ โดยเป็นองค์กรเอกชนที่มีการดำเนินงานเรื่องการวัดร่องรอยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างแบบครบวงจร พร้อมประกาศพันธกิจคาร์บอน “2020 Mission” ของกลุ่มเทสโก้ โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทร้อยละ 50 ภายในปีค.ศ.2020 (หรือพ.ศ. 2563) พร้อมเน้นย้ำการสร้างความตระหนักและการปฏิบัติตอกย้ำจุดยืนผู้นำองค์กรสีเขียวระดับสากล

มร.สตีฟ แฮมเมทท์ ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า “เรื่องปัญหาโลกร้อนถือเป็นหน้าที่ของทุกคน ทุกคนทำในสิ่งที่ตนสามารถทำได้ และเทสโก้ เราก็ทำในสิ่งที่เราควรจะทำ สำหรับเทสโก้ โลตัสนั้น เรามีแผนการประหยัดต้นทุนจากการประหยัดพลังงานตั้งแต่ปี ค. ศ. 2002 ด้วยนโยบายและเป้าหมายที่ชัดเจนจากการประกาศพันธกิจคาร์บอน “2020 Mission” ของกลุ่มเทสโก้ ทำให้เรามีแนวทางและการปฏิบัติอยู่ในรูปเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ล้วนได้ส่งเสริมและส่งผลให้ภาคธุรกิจและพนักงานของเราสามารถปฏิบัติตามอย่างเป็นประสิทธิผลและเป็นรูปธรรมทั้งในด้านการประหยัดพลังงานและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม”

“ทั้งนี้ เรายังเชื่อว่า ลูกค้าไม่ใช่ผู้ที่สร้างปัญหา แต่ลูกค้าเป็นพันธมิตรสำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหานี้ร่วมกัน เทสโก้ จะนำเสนอข้อมูล ทางเลือกที่สามารถหาได้ง่าย และแนวทางปฏิบัติที่ลูกค้าสามารถพัฒนาพฤติกรรมบริโภคสีเขียวของตนแบบยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการเสนอแนวทางบริโภคสีเขียวที่พวกเขาสามารถเข้าถึงได้ พร้อมการสร้างความตระหนัก การให้ข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถรับรู้และตัดสินใจในการเลือกที่จะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานได้ดีขึ้น”

ในปีค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) เทสโก้ โลตัสได้มีแนวทางทดลองบุกเบิกเรื่องร่องรอยคาร์บอนในประเทศไทย ซึ่งเราเป็นองค์กรแห่งแรกของประเทศที่มีการวัดร่องรอยคาร์บอนโดยตรง (Direct Carbon Footprint) ที่เกิดจากธุรกิจ ซึ่ง Environmental Resources Management (ERM) เป็นผู้เชี่ยวชาญและ ที่ปรึกษาของกลุ่มเทสโก้ทั้ง 14 ประเทศ ซึ่งในปี ค.ศ. 2008 เราได้ผ่านการตรวจสอบการใช้พลังงานและคำนวณร่องรอยคาร์บอนตามที่ระบุในอนุสัญญาก๊าซเรือนกระจก World Business Council for Sustainable Development (WBCSD) อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นหลักเกณฑ์การรายงานคาร์บอนขององค์กรเป็นที่ยอมรับในมาตรฐานสากล และผลการวัดร่องรอยคาร์บอนในปีค.ศ. 2006 ถูกนำมาเป็นเกณฑ์ปีฐานเพื่อใช้วัดผลการลดร่องรอยคาร์บอนให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปีค.ศ. 2020

“ตั้งแต่ปีค.ศ. 2006 เป็นต้นมา เราได้ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนกว่าสามแสนตันในเกณฑ์ปีฐาน เราลดลงร่องรอยคาร์บอนได้ร้อยละ 1.17 ปีค.ศ 2007 (พ.ศ. 2550) เราลดการสะสมของร่องรอยคาร์บอนลงมาได้ร้อยละ 14.4 ในปีค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) สำหรับปีค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) เราตั้งเป้าหมายจะเพิ่มการลดร่องรอยคาร์บอนเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 6.05 ซึ่งจะสะสมรวมทั้งหมดเป็นร้อยละ 20.45 พร้อมกันนั้น และตั้งแต่ปีค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) เราได้ลงทุนมากกว่า 568 ล้านบาทและเราสามารถลดคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 31,000 ตัน” มร. สตีฟ กล่าวสรุป

ทั้งนี้ ในงานได้มีการจัดเสวนา “สนทนาภาษาโลกร้อนเพื่อตามหาร่องรอยคาร์บอน” โดยผู้เชี่ยวชาญจากทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก แห่งประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษา Environmental Resources Management (ERM) มาให้ความรู้แก่ผู้ที่เข้าร่วมงาน

ทั้งนี้ เทสโก้ โลตัสได้ดำเนินงานด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมโครงการ รวมใจลดโลกร้อน ซึ่งเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์ในการสร้างความตระหนักในการประหยัดพลังงานแบบยั่งยืนในกลุ่มพนักงาน และโครงการ ๙ ล้านกล้า ๘๐ พรรษามหามงคล ที่ร่วมกับภาคีสำคัญ มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ฯลฯ ในการสร้างความตระหนักในชุมชนและกลุ่มเยาวชนในการปลูกต้นไม้ 9 ล้านต้นในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ เพื่อลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสารเรือนกระจกอื่น ๆ ในชั้นบรรยากาศลงประมาณ 225,000 ตันต่อปี หรือประมาณ 9 ล้านตันภายในช่วงระยะเวลา 40 ปี