สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ร่วมอนุรักษ์ “ปลากระเบนเจ้าพระยา” อย่างยั่งยืน

ในอดีตผู้คนจำนวนไม่น้อยแถบลุ่มน้ำแม่กลองเคยตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับสัตว์น้ำรูปร่างคล้ายจานบินสีดำขนาดใหญ่ที่มักปรากฏตัว โดยการว่ายน้ำโฉบเฉี่ยวบนผิวน้ำ จนหลายคนถึงกับขนานนามมันว่า “นกยักษ์แห่งท้องน้ำ” แต่แล้ว ปริศนานั้นก็กลับคลี่คลาย เมื่อนักวิจัยด้านสัตว์น้ำได้คลายข้อกังขาให้แก่ชาวบ้านว่า แท้จริงแล้ว มันก็คือ “ปลากระเบนเจ้าพระยา” หรือ “ปลากระเบนราหู” ปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งพบได้ในแม่น้ำสายสำคัญของไทยเรานี่เอง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าพระยา แม่กลอง บางปะกง หรือ แม่น้ำโขง

ด้วยขนาดที่ใหญ่ยักษ์นี่เอง ที่ได้สร้างความโดดเด่น และความน่าสนใจให้กับปลากระเบนเจ้าพระยา แต่ขนาดของมันกลับไม่ได้สร้างความน่าเกรงขามหรือช่วยให้มันปลอดภัยจากศัตรูที่ชื่อว่า “มนุษย์” เพราะ พวกมันมักถูกคุกคามจากเครื่องมือประมงและการจับมาขาย จนปัจจุบันทำให้มันมีจำนวนลดลงอย่างมาก จนนับเป็นปลาน้ำจืดไทยอีกชนิดหนึ่งที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ได้

ด้วยเหตุนี้ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล กรุงเทพ อุทยานสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการอนุรักษ์ปลากระเบนเจ้าพระยาให้อยู่คู่แม่น้ำไทย ด้วยการมอบเงินสนับสนุนพร้อมปลากระเบนเจ้าพระยาที่ทางสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ได้อนุบาลและเลี้ยงจนมีความสมบูรณ์พร้อมที่จะแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติ จำนวนทั้งหมด 5 ตัว แบ่งเป็นตัวผู้ 3 ตัว ตัวเมีย 2 ตัว อายุประมาณ 3 ปีให้แก่ทางเทศบาลตำบลอัมพวา พร้อมทั้งฝังไมโครชิพ ก่อนปล่อยคืนสู่แม่น้ำแม่กลอง ในวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2553 โดยมีนายประภาศ บุญยินดี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามเป็นผู้ปล่อย เพื่อร่วมสนับสนุนโครงการศึกษาวิจัยปลากระเบนในลุ่มน้ำแม่กลอง สำหรับการอนุรักษ์ที่ยั่งยืนต่อไป ซึ่งการปล่อยปลากระเบนเจ้าพระยาคืนสู่น่านน้ำไทย ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของนิทรรศการปลากระเบนในงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (งานอุทยาน ร.2) ณ อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

ร้อยโทพัชโรดม อุนสุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลอัมพวาได้พูดถึงที่มาและวัตถุประสงค์ของโครงการศึกษาวิจัยปลากระเบนในลุ่มน้ำแม่กลองว่า “โครงการนี้ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อศึกษาวิจัยและอนุรักษ์ปลากระเบนเจ้าพระยาในแม่น้ำแม่กลอง โดยให้ความรู้แก่คนในท้องถิ่นเกี่ยวกับปลากระเบนชนิดนี้และความสำคัญของมันที่มีต่อระบบนิเวศของแม่น้ำ เพื่อให้คนในท้องถิ่น โดยเฉพาะเยาวชนเห็นถึงคุณค่า เกิดความหวงแหนและอนุรักษ์มันไว้ พร้อมกับดูแลรักษาไม่ให้แม่น้ำแม่กลองซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของมันนั้นเน่าเสีย ทั้งหมดนี้ย่อมช่วยให้เกิดการอนุรักษ์ที่ยั่งยืนขึ้น”

คุณวิบูลย์ รักเสรี ผู้จัดการฝ่ายดูแลสัตว์น้ำ บริษัทสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล กรุงเทพ จำกัด กล่าวถึงการสนับสนุนโครงการนี้ว่า “สยาม โอเชี่ยน เวิร์ลในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสัตว์น้ำรู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับเทศบาลตำบลอัมพวา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการแพร่พันธุ์ของปลากระเบนเจ้าพระยาให้เพิ่มจำนวนขึ้นในธรรมชาติ พร้อมกับกระตุ้นจิตสำนึกในการอนุรักษ์ปลากระเบนเจ้าพระยาให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ทั้งนี้เพราะ ในปัจจุบันปลากระเบนเจ้าพระยากำลังมีจำนวนลดลงอย่างมาก พวกมันมักติดเบ็ดราวและเครื่องมือทำประมงชนิดอื่นๆ อยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังพบว่าเริ่มมีการนำเอาปลากระเบนมาใส่ไว้ในเมนูอาหารกันมากขึ้น ซึ่งหากปล่อยไว้เช่นนี้ ก็จะส่งผลกระทบต่อประชากรของปลาและส่งผลต่อการสูญพันธุ์ของพวกมันได้”

สำหรับปลากระเบนเจ้าพระยาทั้ง 5 ตัวที่ทางสยาม โอเชี่ยน เวิร์ลนำมามอบให้กับทางเทศบาลตำบล อัมพวาในครั้งนี้ ได้รับการอนุบาลในอควาเรี่ยมตั้งแต่มีอายุเพียง 5-6 เดือน โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์น้ำของสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ได้คอยฟูมฟักดูแลอย่างทะนุถนอมเป็นพิเศษ เนื่องจากปลากระเบนจัดเป็นสัตว์น้ำที่มีความบอบบางมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้แยกเลี้ยงไว้ในบ่อขนาดใหญ่สำหรับให้ปลากระเบนสามารถว่ายน้ำไปมา ขึ้นลงแนบบ่อตามวิถีธรรมชาติของมันได้ เพื่อให้มันไม่เครียด อีกทั้งยังต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อและคอยควบคุมคุณภาพของน้ำให้ใสและมีออกซิเจนอย่างเพียงพอ เพราะปลากระเบนถือเป็นปลาหน้าดิน จึงมักทำให้น้ำขุ่นและเน่าเสียได้ง่าย ตลอดจนต้องใส่ใจดูแลเรื่องอาหาร ซึ่งได้แก่ ปลาสดและกุ้งสด ให้มีปริมาณเหมาะสมกับความต้องการในแต่ละช่วงวัยตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์น้ำอย่างใกล้ชิด

นอกจากบ่อเลี้ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษแล้ว สยาม โอเชี่ยน เวิร์ลยังให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพของพวกมันอย่างสม่ำเสมอทุกๆ สัปดาห์ เพื่อตรวจเช็คว่าพวกมันมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงก่อนที่จะปล่อยสู่ถิ่นเกิด และแน่ใจว่าพวกมันจะสามารถอยู่รอดได้เอง โดยมีการฝึกให้พวกมันหากินเองตามสัญชาตญาณ เป็นเวลา 4-5 สัปดาห์ ก่อนการปล่อยจริง นอกจากนี้ยังได้มีการปรับอุณหภูมิของน้ำในบ่อพักให้มีความใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุดก่อนปล่อยลงสู่ลุ่มน้ำแม่กลอง ทั้งนี้เพื่อให้พวกมันสามารถกลับสู่บ้านเกิดได้อย่างปลอดภัย ด้วยสภาพร่างกายที่พร้อม และความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดในการดำรงชีวิตและแพร่พันธุ์ต่อไป

นอกจากนี้ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ลยังได้ทำการฝังไมโครชิพให้กับปลากระเบนทั้ง 5 ตัว ก่อนจะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ โดยน.สพ. คมศิลป์ สหตระกูล สัตวแพทย์ประจำสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ซึ่งเป็นผู้ทำการฝังได้กล่าวถึงความสำคัญของการฝังไมโครชิพในครั้งนี้ว่า “การฝังไมโครชิพจะช่วยในการแยกแยะและเก็บเป็นฐานข้อมูลของปลากระเบนเจ้าพระยาที่อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำแม่กลองซึ่งเป็นเขตสงวน เพื่อใช้ประโยชน์ในโครงการศึกษาค้นคว้าวิจัย สำหรับการอนุรักษ์ปลากระเบนเจ้าพระยาอย่างยั่งยืนต่อไป”

การปล่อยปลากระเบนเจ้าพระยาในคราวนี้ อาจไม่สามารถช่วยให้พวกมันรอดพ้นจากภาวะเสี่ยงต่อการ สูญพันธุ์ได้ ถ้ามนุษย์เรายังคงไม่หยุดจับ หรือคุกคามมันด้วยประมงที่ผิดวิธี ซึ่งหากทุกภาคส่วนยังคงละเลย หากชาวบ้านยังคงเพิกเฉย และหากคำว่า “สูญพันธุ์” ยังเป็นคำที่ไกลตัวในความรู้สึกของใครหลายคน ก็คงจะน่าเสียใจไม่น้อยที่ปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะหมดไปจากน่านน้ำไทย โดยที่คนรุ่นหลังคงได้รู้จักแต่เพียงชื่อของมันเท่านั้น