ไทยประกันชีวิต – ซิกน่าประกันภัย ประกาศจับมือเป็นพันธมิตร ร่วมกันออก package product

ไทยประกันชีวิต – ซิกน่าประกันภัย ประกาศจับมือเป็นพันธมิตร ร่วมกันออก package product ประกันชีวิตบวกพีเอแบบ all-in-one ให้ซิกน่านำเสนอต่อพันธมิตรทางธุรกิจรายใหญ่ทั้งแบงก์และนอน-แบงก์ โดยขายผ่านช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้งของซิกน่า เผยเป็น กลยุทธ์การขยายตลาดเพิ่มของทั้งสององค์กรผ่านจุดแข็งของแต่ละฝ่าย พร้อมสร้างตัวเลือกด้านแผนประกันเพิ่มให้ลูกค้ากลุ่มแมส

นายแกรี่ เด็นสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ซิกน่า ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากโมเดลทางธุรกิจของซิกน่าประเทศไทย ที่เป็นการทำตลาดแบบการตลาดเชิงความสัมพันธ์กับคู่ค้า (Affinity Marketing) ซึ่งเป็นการนำเสนอแผนประกันอุบัติเหตุ และประกันสุขภาพให้แก่สมาชิกของพันธมิตรทางธุรกิจรายสำคัญต่างๆ ผ่านช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้งและการตลาดทางตรงอื่นๆ ของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ซิกน่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรทางธุรกิจรายสำคัญมากมายทั้งสถาบันการเงินและกลุ่มธุรกิจในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่นกลุ่มรีเทล โทรคมนาคม ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงต้องการที่จะเป็นพันธมิตรกับบริษัทประกันชีวิตชั้นนำในประเทศไทยเพื่อที่จะร่วมมือกันนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครบถ้วนด้วย แผนประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ และประกันสุขภาพ ให้แก่ลูกค้าของพันธมิตรทางธุรกิจที่ซิกน่ามีความสัมพันธ์อยู่ในปัจจุบันและที่กำลังจะมีเพิ่มในอนาคต เพื่อเป็นการนำเสนอทางเลือกด้านผลิตภัณฑ์ที่ครบถ้วนยิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า และเพื่อเป็นการตอบสนองต่อแนวนโยบายเรื่องไมโครอินชัวรันส์ ซึ่งเป็นการนำเสนอแผนประกันที่มีราคาไม่สูงมากนักให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยในปัจจุบันที่ยังต้องการความคุ้มครองด้านประกันชีวิตอยู่อีกมาก โดยซิกน่าจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งและความเชี่ยวชาญของกลุ่มซิกน่าทั่วโลกในการเป็นผู้ทำตลาดทั้งกับระดับพันธมิตรทางธุรกิจ และเป็นผู้นำเสนอแผนประกันดังกล่าวไปยังลูกค้าของพันธมิตรทางธุรกิจผ่านช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้งของซิกน่า ซึ่งจะเป็นการขยายโอกาสในการทำตลาดเพิ่มเติมให้แก่ทั้ง 2 องค์กร

“ในช่วงที่ผ่านมา ซิกน่า จึงได้ดำเนินการเจรจาทางธุรกิจกับบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด โดยการเชิญมาร่วมกันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในรูปแบบดังกล่าว ซึ่งบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เป็นบริษัทที่มีจุดแข็งอย่างมากในเรื่องของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่หลากหลาย และเป็นบริษัทประกันชีวิตชั้นนำของไทยที่มีชื่อเสียงและมีความมั่นคงมาอย่างยาวนาน บริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด ได้ตอบตกลงร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับซิกน่าในโมเดลธุรกิจดังกล่าวในครั้งนี้ และซิกน่าเชื่อมั่นว่า การร่วมมือกันทางธุรกิจโดยใช้จุดแข็งของทั้ง 2 ฝ่ายมาสร้างโอกาสทางการตลาดในครั้งนี้ จะช่วยให้ทั้ง 2 องค์กรมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น” นายแกรี่ กล่าว

ด้านนางวรางค์ ไชยวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า จากโมเดลธุรกิจที่ซิกน่านำเสนอ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด ได้มองเห็นโอกาสในการขยายช่องทางธุรกิจและช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มเติม ประกอบกับเมื่อกลางปีที่แล้วไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่ประกาศการเป็น Insurance Convergent เพื่อหลอมรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทในกลุ่มเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการพัฒนากรมธรรม์ขายร่วมกัน อย่างไรก็ตามการหลอมรวมการดำเนินธุรกิจ ไม่จำเป็นต้องรวมการดำเนินงานเฉพาะบริษัทในกลุ่มไทยประกันชีวิตเท่านั้น ดังนั้น ความร่วมมือกับซิกน่าในครั้งนี้ จึงถือเป็นการต่อยอดนโยบาย Insurance Convergent นอกเหนือจากการรวมการดำเนินธุรกิจภายในกลุ่มแล้ว ยังเป็นการขยายไปยังบริษัทประกันภัยที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอีกด้วย

ความร่วมมือของบริษัทไทยประกันชีวิต และบริษัทซิกน่าฯ จึงเป็นการเสริมความแข็งแกร่งซึ่งกันและกัน เพราะซิกน่ามีความเชี่ยวชาญด้านการขายประกันภัยผ่านโทรศัพท์ หรือเทเลมาร์เก็ตติ้ง ขณะที่ไทยประกันชีวิตดำเนินนโยบายโดยวางลูกค้าเป็นศูนย์กลาง หรือ Customer Centric ส่งผลให้บริษัทฯ มีจุดแข็งคือมีความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้สามารถพัฒนากรมธรรม์หลากหลายที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม

สำหรับแผนประกันชีวิตที่ทางไทยประกันชีวิต นำเสนอในครั้งนี้ จะเป็นแผนประกันที่ออกแบบมาสำหรับการร่วมมือทางธุรกิจเฉพาะกับซิกน่าในครั้งนี้เท่านั้น โดยรายละเอียดจะไม่ซ้ำกับแผนประกันที่ทางตัวแทนของบริษัทฯ จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน โดยเน้นการจ่ายเบี้ยระยะสั้น แต่คุ้มครองระยะยาว มีเงินคืนหลังจากครบระยะเวลา และไม่มีเงื่อนไขซับซ้อน เหมาะกับการขายผ่านช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้ง ประกอบด้วย กรมธรรม์ไทยธนทวี 15/5 เป็นกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครอง 15 ปี ชำระเบี้ย 5 ปี โดยมีเงินคืนทุกปี แบ่งเป็นระหว่างปีที่ 1 ถึงปีที่ 5 เงินคืน 6% ของเงินเอาประกัน ระหว่างปีที่ 6 ถึงปีที่ 14 เงินคืน 9% ของเงินเอาประกัน และครบกำหนดสัญญา รับเงิน 3.39 เท่าของเงินเอาประกัน

กรมธรรม์ไทยธนทวี 18/9 เป็นกรมธรรม์ที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 18 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ยเพียง 9 ปี มีเงินคืน 4% ของเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่วันครบรอบปีที่ 9 เป็นต้นไป ครบกำหนดสัญญาจ่ายอีก 1.14 เท่าของเงินเอาประกันภัย ซึ่งกรมธรรม์ดังกล่าวถือเป็นการเพิ่มทางเลือกด้านแผนประกันให้กับลูกค้าได้อีกทางหนึ่ง

นายแกรี่ เด็นสัน เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในส่วนของแผนประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ใน package product ดังกล่าว ได้ออกแบบโดยซิกน่า ประกันภัย ซึ่งจะเป็นแผนประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA)ที่ให้ผลประโยชน์คุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุ รวมทั้งยังมีค่ารักษา พยาบาลอันเนื่องจากอุบัติเหตุ และเงินชดเชยรายได้รายวันกรณีเป็นผู้ป่วยในที่เกิดจากอุบัติเหตุด้วย ซึ่งแผนประกันดังกล่าว ได้ออกแบบมาให้สอดคล้องกับแผนประกันชีวิต และให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ต้องการสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานทั้งหมดในแผนประกันแผนเดียว โดยจะนำเสนอขายรวมกันเป็นหนึ่งแพ็กเกจแบบ all-in-one

ส่วนแผนการทำตลาดของซิกน่านั้น ในช่วงต้น จะเริ่มทดลองขายแผนประกันแบบแพ็กเกจดังกล่าวกับกลุ่มลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ของซิกน่าในปัจจุบันก่อน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าในดาต้าเบสของซิกน่าเอง โดยบริษัทฯ จะทำตลาดผ่านช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้งไปยังลูกค้ากลุ่มนี้โดยใช้ช่วงเวลาทดลองขายประมาณ 2 เดือน และต่อจากนี้ ก็จะนำเสนอ package product นี้ให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจรายอื่นๆ ที่ซิกน่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่ ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ทางไทยประกันชีวิต และ
ซิกน่าได้ร่วมกันฝึกอบรมให้กับพนักงานเทเลเซลล์ของซิกน่าให้มีความเข้าใจสูงสุดในการนำเสนอแผนประกันชีวิตบวกพีเอดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว โดยจะเริ่มนำเสนอขายให้แก่กลุ่มเป้าหมายแรกได้ในสัปดาห์หน้านี้เป็นต้นไป

นางวรางค์ฯ กล่าวในช่วงท้ายว่า ในภาพรวมของโมเดลธุรกิจครั้งนี้ ไทยประกันชีวิตเป็นผู้ออกแบบแผนประกันชีวิตที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยทางซิกน่าเป็นผู้ออกแบบแผนประกันอุบัติเหตุและเป็นผู้ทำตลาด รวมทั้งเป็นผู้ให้บริการหลังการขายด้วย เช่น การออกกรมธรรม์ให้แก่ลูกค้า และ การเป็นศูนย์บริการลูกค้าสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าให้มี contact point เพียงจุดเดียวเพื่อรองรับ ทุกคำถามและทุกความต้องการของลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 2 แผนประกัน โดยหลังจากที่ลูกค้าติดต่อเข้ามาที่ศูนย์บริการลูกค้าแล้ว ทั้ง 2 หน่วยงานก็จะมีการประสานงานเป็นการภายในกันเองเพื่อตอบสนองสิ่งที่ลูกค้าแจ้งเข้ามาอย่างดีที่สุด

สำหรับตัวเลขเป้าหมายยอดขายจากการร่วมมือกันทางธุรกิจครั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ว่า จะมีเบี้ยประกันรับรวม (ยอดขาย) ในปีแรกประมาณ 20 ล้านบาท โดยจะมีการประเมินผลกันเป็นระยะๆ เพื่อวัดผลความสำเร็จของแผนความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ รวมทั้งเพื่อปรับปรุงพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับลูกค้าเป้าหมายต่อไป