ที่ประชุมคณะกรรมการ DRT อนุมัติจ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลัง 52 หุ้นละ 0.15 บาท หลังโชว์ผลงานปี 52 สวย โกยรายได้กว่า 2.7 พันล้านบาท รวมทั้งปีจ่าย 0.30 บาท/หุ้น ผู้บริหารเผยแผน ปี 53 เดินหน้าตลาดเชิงรุกเพิ่มช่องทางขายผ่านโมเดิร์นเทรด มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ “DRT” ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์หลังคารุ่นเจียระไน รุ่นอดามัส และ รุ่น CT เพชร ผลิตภัณฑ์ไม้ฝาและไม้สังเคราะห์ ผลิตภัณฑ์แผ่นบอร์ด รวมถึงอุปกรณ์ประกอบหลังคา และบริการหลังการขาย ภายใต้ตราสินค้า “ตราเพชร” เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 ได้มีมติในการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลัง 2552 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยจะปิดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิการรับเงินปันผลในวันที่ 9 มีนาคม 2553 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 29 เมษายน 2553
“ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.15 บาทต่อหุ้น ครึ่งปีหลังจ่ายอีก 0.15 บาทต่อหุ้น รวมเป็นการจ่ายปันผลในอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้นในรอบปีที่ผ่านมา
ถ้าเปรียบเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบันคิดเป็นอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ซึ่งถือเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้น”นายอัศนี กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2552 (มกราคม – ธันวาคม 2552) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,775 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปี 2551 ที่ทำได้ 2,485 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 290 ล้านบาท หรือ 11.67% ขณะที่ กำไรสุทธิอยู่ที่ 376 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 284.8 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจมาก
กรรมการผู้จัดการ DRT กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2553 บริษัทฯ จะขยายตลาดในเชิงรุก โดยเพิ่มช่องทางขายผ่านโมเดิร์นเทรดมากขึ้น เนื่องจากสายการผลิตใหม่ทำให้บริษัทฯ มีสินค้าที่หลากหลาย และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงการเดินเครื่องสายการผลิตใหม่ (NT9) ที่จะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกปี 2553
สำหรับกำลังการผลิตใหม่จากสายการผลิตที่ 9 นั้น บริษัทฯ ลงทุนไป 465 ล้านบาท เพื่อผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไม้สังเคราะห์ เช่น ไม้เชิงชาย ไม้ฝา ไม้ระแนง ไม้มอบ ไม้บัว และบอร์ด เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายงานโครงการอาคารสูง คอนโดมิเนียม
ทั้งนี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในปีนี้ โดยเชื่อว่า จะสามารถทำยอดขายให้เติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% หรือคิดเป็นยอดขายกว่า 3,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับยอดขายของปีที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนยอดขายในประเทศมาจากตลาดต่างจังหวัด คิดเป็น 80% ขณะที่อีก 20% มาจากยอดขายในกรุงเทพฯ