AIT ยิ้มรับปี 54 แนวโน้มสดใสต่อเนื่อง เผยปีนี้โชว์ตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์

‘แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี’ หรือ AIT ยิ้มรับปี 54 ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศยังคึกคัก ควงแขนพันธมิตรลุยประมูล 3G TOT พร้อมรุกงานภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เผยปี 53 จะทำกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจาก 9 เดือนแรกทำกำไรได้แล้วในสัดส่วนเกือบ 80% ของปีก่อน

นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT เปิดเผยว่า ในปี 2554 ธุรกิจของบริษัทฯ ยังมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากแนวโน้มของธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการวางระบบสื่อสารในปี 2554 ยังมีทิศทางการเติบโตที่ดีมาก เนื่องจากภาครัฐ ยังจัดสรรงบประมาณเพื่อการลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงข่าย 3G ของ TOT โครงการบรอดแบนด์แห่งชาติเพื่อให้ประชาชนทุกพื้นที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติก ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ที่มีโอกาสเข้าร่วมประมูลงานในการดำเนินโครงการเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ นอกจากการเข้าร่วมประมูลงานจากหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่องแล้ว บริษัทฯ ยังได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเข้มแข็งด้านการให้บริการเครือข่าย อย่างกลุ่ม U-TEL และ อัลคาเทล เข้าร่วมประมูลงานโครงการวางโครงข่าย 3G ของ TOT ที่คาดว่าจะเปิดซองประกวดราคาได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2554

“หากกลุ่มของเราชนะการประมูล ในส่วนของ AIT จะมีรายได้จากโครงการนี้เข้ามากว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีเป้าหมายขยายงานบริการด้านเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศในภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อรองรับการลงทุนของผู้ประกอบธุรกิจที่จำเป็นต้องพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและรองรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันของธุรกิจในอนาคต” นายศิริพงษ์กล่าว

ประธานกรรมการบริหาร AIT กล่าวด้วยว่า จุดแข็งของบริษัทฯ นอกจากบุคลากรที่มีความสามารถและประสบการณ์สูงแล้ว ยังมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มั่นคง และยังมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง CISCO SYSTEMS INC ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านอุปกรณ์เครือข่าย (Networking Solutions) ในระดับโลก บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าปี 2554 จะเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่งของบริษัทฯ

สำหรับปี 2553 นี้ บริษัทฯ ยังมั่นใจว่าจะทำรายได้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากในช่วงไตรมาสที่ 4 จะมีการส่งมอบงานและรับรู้รายได้เข้ามามาก และน่าจะทำให้กำไรของบริษัทฯ เป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่ที่ดำเนินธุรกิจมา โดยดูจากกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปีนี้ คิดเป็นเกือบ 80% แล้วเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

“ปีนี้ เราเชื่อว่าจะสามารถสร้างประวัติศาสาตร์ให้กับบริษัทฯ อีกครั้ง หลังจากปี 2552 ได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ไปแล้ว โดยดูจากงานในมือที่ทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีมีค่อนข้างมาก” นายศิริพงษ์ กล่าว