ศึกสมาร์ทโฟนปีนี้ ซัมซุง ขอเน้น “รุ่นกลาง”

ประเมินกันมาแน่ชัดแล้ว่า ตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้จะเติบโต เป็นดาวรุ่งพุ่ง และที่ตามมา คือ การแข่งขัน ที่ค่ายผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง “ซัมซุง” ต้องรับมือให้ดี  เพราะต้องเจอศึกหลายด้าน ทั้งการมาของคู่ปรับเบอร์ 1 ที่ส่ง“ไอโฟน 6” ที่อัพไซส์หน้าจอเพิ่มเป็น 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว ลงสู้ศึกกันด้วย “บิ๊กสกรีน” รวมทั้งสมาร์ทหน้าเก่าใหม่ และ แบรนด์จีน” ที่กำลังดาหน้าเข้าสู่สมรภูมิ

ประเมินกันมาแน่ชัดแล้ว่า ตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้จะเติบโต เป็นดาวรุ่งพุ่ง และที่ตามมา คือ การแข่งขัน ที่ค่ายผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง “ซัมซุง” ต้องรับมือให้ดี เพราะต้องเจอศึกหลายด้าน ทั้งการมาของคู่ปรับเบอร์ 1 ที่ส่ง“ไอโฟน 6” ที่อัพไซส์หน้าจอเพิ่มเป็น 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว ลงสู้ศึกกันด้วย “บิ๊กสกรีน”  รวมทั้งสมาร์ทหน้าเก่าใหม่ และ แบรนด์จีน” ที่กำลังดาหน้าเข้าสู่สมรภูมิ ทำให้ ซัมซุง จึงปรับแผนรับมือการแข่งขัน ด้วยการจัดทัพไลน์สินค้าใหม่ โดยมุ่งเน้นสมาร์ทโฟนในระดับ “Mid-tier” หรือระดับกลางที่มีราคาตั้งแต่ 4,000 บาท ไปจนถึง 12,000 บาท ให้เป็นพระเอกของปีนี้ โดยมีการ Re-design ด้วยการเปลี่ยนวัสดุมาเป็นโลหะ 3 รุ่นแรกที่จะเป็นหัวหอกในการบุกตลาด จะอยู่ตระกูลกาแล็คซี่  โดยได้วางโพซิชั่นนิ่งให้แตกต่างกัน  “กาแลคซี่ เอ (Galaxy A)”  รุ่นมิดเทียร์ระดับพรีเมี่ยมที่มีราคาเริ่มต้น 12,900 บาท เน้นในเรื่องดีไซน์ และการถ่ายรูป “กาแลคซี่ อี (Galaxy E)”เป็นรุ่นระดับกลางที่มีราคาต่ำกว่า 10,000 บาท เน้นตอบโจทย์ความคุ้มค่า มีฟังก์ชั่นครบ และ “กาแลคซี่ เจ (Galaxy J)”  เป็นสมาร์ทโฟนในระดับล่าง ราคาต่ำกว่า 5,000 บาท เน้นเรื่องราคา และใช้งานง่าย เหมาะกับลูกค้าทั่วไป   สาเหตุที่ซัมซุง ต้องเลือกเปิดเกมในตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง เพราะซัมซุงมีฐานลูกค้าที่มาจากรุ่น “กาแลคซี่ แกรนด์” อยู่แล้ว อีกทั้งสมาร์ทโฟนในระดับกลางมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 20% ในปี 2557 และครองตลาดสมาร์ทโฟน 43% จากตลาดรวม ส่วนที่เหลือเป็นสมาร์ทโฟนระดับบน 44% และสมาร์ทโฟนระดับล่าง 13%    ส่วนสมาร์ทโฟนในระดับล่างราคาที่ต่ำกว่า 4,000 บาท เชื่อว่าการแข่งขันรุนแรง เพราะจะมีสมาร์ทโฟนหน้าใหม่ที่ลงมาเล่นสงครามราคาในตลาดนี้ 

ทำให้ ซัมซุง จึงปรับแผนรับมือการแข่งขัน ด้วยการจัดทัพไลน์สินค้าใหม่ โดยมุ่งเน้นสมาร์ทโฟนในระดับ “Mid-tier” หรือระดับกลางที่มีราคาตั้งแต่ 4,000 บาท ไปจนถึง 12,000 บาท ให้เป็นพระเอกของปีนี้ โดยมีการ Re-design ด้วยการเปลี่ยนวัสดุมาเป็นโลหะ

3 รุ่นแรกที่จะเป็นหัวหอกในการบุกตลาด จะอยู่ตระกูลกาแล็คซี่  โดยได้วางโพซิชั่นนิ่งให้แตกต่างกัน  “กาแลคซี่ เอ (Galaxy A)”  รุ่นมิดเทียร์ระดับพรีเมี่ยมที่มีราคาเริ่มต้น 12,900 บาท เน้นในเรื่องดีไซน์ และการถ่ายรูป “กาแลคซี่ อี (Galaxy E)”เป็นรุ่นระดับกลางที่มีราคาต่ำกว่า 10,000 บาท เน้นตอบโจทย์ความคุ้มค่า มีฟังก์ชั่นครบ และ “กาแลคซี่ เจ (Galaxy J)”  เป็นสมาร์ทโฟนในระดับล่าง ราคาต่ำกว่า 5,000 บาท เน้นเรื่องราคา และใช้งานง่าย เหมาะกับลูกค้าทั่วไป 

สาเหตุที่ซัมซุง ต้องเลือกเปิดเกมในตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง เพราะซัมซุงมีฐานลูกค้าที่มาจากรุ่น “กาแลคซี่ แกรนด์” อยู่แล้ว อีกทั้งสมาร์ทโฟนในระดับกลางมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 20% ในปี 2557 และครองตลาดสมาร์ทโฟน 43% จากตลาดรวม ส่วนที่เหลือเป็นสมาร์ทโฟนระดับบน 44% และสมาร์ทโฟนระดับล่าง 13%  

ส่วนสมาร์ทโฟนในระดับล่างราคาที่ต่ำกว่า 4,000 บาท เชื่อว่าการแข่งขันรุนแรง เพราะจะมีสมาร์ทโฟนหน้าใหม่ที่ลงมาเล่นสงครามราคาในตลาดนี้

ตลาดสมาร์ทโฟนปี 2013 – 2016

วิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ตลาดสมาร์ทโฟนยังมีการเติบโตอยู่เพราะปัจจัยเรื่อง 3G และ 4G  แต่การแข่งขันก็สูงมากเช่นกัน ที่เห็นได้ชัดคือสงครามราคา ซึ่งซัมซุงจะไม่เน้น แต่จะมุ่งไปที่การสร้างตลาดใหม่ในเรื่องจอใหญ่ และในราคาระดับกลาง เพราะคู่แข่งไม่มาก และเป็นฐานใหญ่ในอนาคต เพราะการขยายตัวของโครงสร้างประชากร ที่มีคนชั้นกลางเพิ่มขึ้น ทำให้กำลังซื้อเขาอยู่ในระดับกลาง เปลี่ยนเกมเล่น และเปลี่ยนเรื่องดีไซน์ใส่เข้าไปเพื่อให้ดูพรีเมี่ยมขึ้น “ เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ

ตลาดโทรศัพท์มือถือ ไทย ปี 2557   มูลค่า 103,000 ล้านบาท   – สมาร์ทโฟน 98,000 ล้านบาท   – ฟีเจอร์โฟน 5,000 ล้านบาท   จํานวนเครื่องเติบโต 10%   มูลค่าเติบโต 5%   คาดการณ์ปี 2558    มูลค่า 105,000 ล้านบาท   – สมาร์ทโฟน 103,000 ล้านบาท   – ฟีเจอร์โฟน 2,000 ล้านบาท   จํานวนเครื่องเติบโต 15%   มูลค่าเติบโต 15%   ที่มา บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จํากัด