เซียน Instagram ประเมินรายได้ต่อโพสต์ของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนแพงลิ่ว แตะ 3.4 ล้าน!

การที่เจ้าชายแฮร์รีแห่งราชวงศ์อังกฤษ และเมแกน พระชายา กำลังเดินหน้าเริ่มต้นชีวิตใหม่ในแคนาดา ทำให้เป็นที่เข้าใจกันว่าเวลานี้ทั้งคู่สามารถทำสัญญาเชิงพาณิชย์ซึ่งให้ผลตอบแทนงดงามได้เหมือนเซเลบริตี้ทั่วไป ล่าสุดแพลตฟอร์มการตลาดบน Instagram ออกมาโชว์ตัวเลขการประเมินราคาต่อโพสต์ที่เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิล มีโอกาสจะได้รับจากบัญชีที่ทั้งคู่ใช้ร่วมกัน ว่าอาจจะแตะระดับ 85,271.19 ปอนด์ หรือราว 3.4 ล้านบาทต่อโพสต์

ตัวเลขนี้คำนวณจากจำนวนผู้ติดตาม 11.2 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นรวดเร็วหลังจากที่มีการเสนอข่าวที่ทั้งสองได้ตัดสินใจก้าวลงมาจากฐานะพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ในราชวงศ์อังกฤษ จนเป็นที่มาของปรากฏการณ์ Megxit ซึ่งเรียกความสนใจจากผู้คนทั่วโลก

ราคาประเมิน 3.4 ล้านบาทนี้สูงลิ่วเมื่อเทียบกับการประเมินบัญชี @KensingtonRoyal ของเจ้าชายวิลเลียม และ เคท มิดเดิลตัน ที่คาดว่าจะได้รับน้อยกว่า 40,744.97 ปอนด์ หรือประมาณ 1.6 ล้านบาทต่อการโพสต์ Instagram หากต้องสร้างรายได้

ประเมินจากความฮอต

ตัวเลขประเมินเหล่านี้มาจากการวิเคราะห์ของแพลตฟอร์มการตลาด Influencer marketing ชื่อ Inzpire.me ข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์นี้เป็นการมโนล้วนๆว่านอกจากข้อตกลงกับ Disney ที่จะช่วยให้ทั้งคู่มีรายได้เลี้ยงชีพและครอบครัวหลังจากเริ่มชีวิตใหม่ ทั้ง 2 ยังสามารถสร้างรายได้จากการปรากฏตัวในโซเชียลมีเดียของตัวเอง แม้จะไม่ได้รับสถานะสมาชิกราชวงศ์แล้วก็ตาม

Inzpire.me มองว่าด้วยจำนวนผู้ติดตาม 11.2 ล้านคน ทั้งเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนมีโอกาสได้รับค่าเหนื่อยสูงถึง 85,271.19 ปอนด์หรือมากกว่า 3,493,793.44 บาทต่อโพสต์บน Instagram แม้ว่าทั้ง 2 จะไม่สามารถใช้ชื่อแบรนด์ “Sussex Royal” ที่เคยใช้อีกต่อไป

มารี โมสแทด ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ Inzpire.me ยอมรับว่าประเมินตัวเลขรายได้จากการศึกษารูปแบบการติดตามและการขยายตัวของบัญชี @SussexRoyal บน Instagram ซึ่งนับตั้งแต่ข่าวการประกาศจุดยืนใหม่ของทั้งคู่เรื่องออกจากสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ การติดตามบน Instagram ของบัญชีก็พุ่งสูงขึ้นชัดเจน ซึ่งในทางกลับกันบัญชี @KensingtonRoyal ของเจ้าชายวิลเลียม และ เคท มิดเดิลตัน ถูกประเมินว่าจะมีมูลค่า 40,744.97 ปอนด์ต่อโพสต์ หรือราว 1,668,271.94 บาท

ยันตัวเลขไม่เกินจริง

การประเมินรายได้จากธุรกิจ Influencer marketing นี้ถูกมองว่าเชื่อถือได้ โดยเฉพาะเมื่อเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนเคยถูกวิจารณ์มาก่อนเรื่องรับงานโฆษณาให้กับธุรกิจที่แสวงหาผลกำไรผ่านสื่อโซเชียล โดยเวลานั้น สำนักพระราชวังอังกฤษปกป้องว่าทั้งคู่เพียงแค่ให้การสนับสนุนธุรกิจที่สนใจ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุผลทางธุรกิจแต่อย่างใด

การประเมินรายได้ต่อโพสต์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีข่าวว่า “Netflix” สนใจร่วมงานกับเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน จนทำให้มีการมโนอีกว่าทั้งคู่อาจเดินตามรอยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา กับอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง มิเชล โอบามา ซึ่งได้เซ็นสัญญากับ Netflix ทำรายการทีวีและภาพยนตร์เมื่อปี 2018 ข่าวนี้เกิดขึ้นในช่วงที่มาร์เคิลได้ทำข้อตกลงเพื่อทำงานลงเสียงให้ค่าย Disney ไปแล้วโดยแลกเปลี่ยนกับเงินบริจาคให้การกุศล ขณะที่เจ้าชายแฮร์รีก็กำลังทำงานกับโอปรา วินฟรีย์ ในภาพยนตร์สารคดีว่าด้วยสุขภาพจิตให้ AppleTV+

ก่อนหน้านี้ สื่ออังกฤษชี้ว่าดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ มีแผนการจะจ่ายเงิน 2.4 ล้านปอนด์คืนให้หลวง หลังจากได้เงินดังกล่าวมาใช้ในการบูรณะตำหนักฟร็อกมอร์เฮาส์ ที่พำนักอย่างเป็นทางการของทั้งคู่ในพระราชวังวินเซอร์ รวมทั้งจะไม่รับเงินจากรัฐบาลที่จ่ายให้เป็นรายปีแก่พระบรมวงศานุวงศ์ซึ่งทรงประกอบพระราชกรณียกิจ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองยังคงได้รับประทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เช่นเดิม

ล่าสุด มีรายงานว่าเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ได้ตัดสินใจไม่ใช้ตราสัญลักษณ์ “Royal” ในแบรนด์สินค้าและกิจกรรมต่างๆ หลังสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ไม่สามารถอนุญาตให้ทั้งสองพระองค์ใช้คำว่า “Royal” ในบทบาทใหม่ของทั้งคู่ ทำให้นับจากนี้จะมีการลบชื่อองค์กร แอปพลิเคชัน เครื่องหมายการค้า เว็บไซต์ และสื่อโซเชียลทุกส่วนที่เกี่ยวกับ “Sussex Royal” ทั้งหมดหลังฤดูใบไม้ผลิปี 2020

ปัจจุบัน เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน ใช้แบรนด์ Sussex Royal อย่างกว้างขวาง อาทิ ใช้ชื่อเว็บไซต์ว่า sussexroyal.com และใช้เครื่องหมายการค้า Sussex Royal และ Sussex Royal Foundation บนหนังสือ, เครื่องเขียน, เสื้อผ้า อย่างเช่นชุดนอนและถุงเท้า, ระดมทุนด้านการกุศล รวมถึงจัดแข่งขันกีฬาและกิจกรรมสังคมสงเคราะห์ต่างๆ.