my_bb – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 13 Mar 2025 12:28:12 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 แสนสิริ รุกธุรกิจ ”รับสร้างบ้าน“ เปิดน่านน้ำรายได้ใหม่ https://positioningmag.com/1514686 Thu, 13 Mar 2025 12:27:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1514686 ถ้าพูดถึง “แสนสิริ” เราจะนึกถึงผู้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรร หรือกระทั่งคอนโด เจาะกลุ่มกำลังซื้อระดับบน

ทว่าปี 2568 แสนสิริ ได้ประกาศลุย Business Model ใหม่ เจาะตลาดรับสร้างบ้านที่มีมูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตระดับ Double Digit (ตัวเลขสองหลัก) ทุกปี และจะกลายเป็นอีกหนึ่งน่านน้ำรายได้ให้กับแสนสิริ

วิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริ เตรียมเปิดตัว ต้นแบบ Crafted By Sansiri เป็นบริการรับสร้างบ้าน จากดีมานด์ต้องการปลูกบ้านบนที่ดินตนเองขยายตัวต่อเนื่อง

“ลูกค้าที่มีที่ดินอยู่แล้ว สามารถเข้ามาดูแบบบ้านของแสนสิริ แล้วนำไปสร้างบ้านได้ทันที”

ทั้งนี้ ข้อได้เปรียบของแสนสิริ คือ มีความพร้อมด้านบุคลากร และแรงงาน รวมไปถึงมีโรงงานพรีคาสต์ ที่มีกำลังผลิตมากพอที่จะซัพพลายวัสดุมาใช้ในธุรกิจรับสร้างบ้านได้

วิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

ตลอดจน ธุรกิจรับสร้างบ้าน บริษัทฯ แทบไม่มีต้นทุนที่ต้องแบกรับเอง ไม่ว่าจะเป็นค่าที่ดิน ซึ่งเป็นที่ดินของลูกค้าอยู่แล้ว รวมถึงค่าก่อสร้าง ลูกค้าก็แบ่งชำระเป็นงวด ๆ เช่น จ่ายล่วงหน้า 15% ตามขั้นตอน

ต่างจากการลงทุนพัฒนาโครงการเอง ที่ต้องแบกรับต้นทุนหลายส่วน อาทิ ต้นทุนที่ดิน ค่าก่อสร้าง

”เมื่อมองในแง่กำไรสุทธิของธุรกิจรับสร้างบ้านก็สูงถึง 20%”

เศรษฐสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี 2

สำหรับปี 2568 แสนสิริวางแผนเปิดตัว 29 โครงการใหม่ มูลค่า 52,000 ล้านบาท เน้นตลาดระดับบน รวมถึงขยายโครงการไปยังเมืองท่องเที่ยวและหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ ภูเก็ต พัทยา ชลบุรี และขอนแก่น

โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากหุ้นกู้ 60% สินเชื่อโครงการ (Project Finance) 25% และเงินกู้ระยะสั้น 15%

“ปีนี้แสนสิริ ตั้งเป้ารายได้ 40,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 39,000 ล้านบาท ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังต้องเฝ้าระวัง”

]]>
1514686
“แมคโดนัลด์” ทุบสถิติยอดขาย 7.9 พันล้านบาท สูงสุดรอบ 40 ปี https://positioningmag.com/1514626 Thu, 13 Mar 2025 08:06:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1514626 แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีที่ผ่านมายังคงชะลอตัว แต่ยูโรมอนิเตอร์ ระบุว่า ตลาดอาหารจานด่วน (QSR) ในไทย ปี 2567 มีมูลค่า 47,000 ล้านบาท ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

แรงขับเคลื่อนหลักมาจาก ตลาดไก่ทอดที่ครองสัดส่วนเกิน 50% มีมูลค่า 27,000 ล้านบาท ตามมาด้วย ตลาดเบอร์เกอร์ มูลค่าราว 11,000 ล้านบาท และตลาดพิซซ่า 9,000 ล้านบาท

ขณะที่ “แมคโดนัลด์” เชนร้านเบอร์เกอร์และไก่ทอดในรายใหญ่ในไทยก็ทุบสถิติรายได้สูงสุดในรอบ 40 ปีเช่นกัน!

“กิตติวรรณ อนุเวชกุล” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด

“กิตติวรรณ อนุเวชกุล” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด เปิดเผยว่า 3 ปีที่ผ่านมา แมคโด นัลด์ ทำรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่องทุกปี ดังนี้

รายได้

ปี 2565 ยอดขาย 5,504 ล้านบาท

ปี 2566 ยอดขาย 7,213 ล้านบาท

ปี 2567 ยอดขาย 7,957 ล้านบาท

กำไรสุทธิ

ปี 2565 กำไร 120 ล้านบาท

ปี 2566 กำไร 315 ล้านบาท

ปี 2567 กำไร 350 ล้านบาท

“ปี 2567 ที่ผ่านมา แมคโดนัลด์ทุบสถิติทำผลประกอบการสูงสุดตั้งแต่เปิดกิจการมา 40 ปี รายได้ 7.9 พันล้านบาท โต 10% และกำไรสุทธิ 350 ล้านบาท โต 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) โดยสัดส่วนรายได้หลักมาจากเบอร์เกอร์ 55% และไก่ทอด 20%”

กิตติวรรณ กล่าวว่า ภาพรวมตลาด QSR ในช่วง 2 เดือนแรก ปี 2568 ยังคงคึกคัก แต่ยอมรับว่ามีบางรายอาจจะ  ดรอปลงตามสภาพตลาดที่ยังมีปัจจัยท้าทาย

สำหรับ ปี 2568 แมคโดนัลด์ ขับเคลื่อนการเติบโตผ่าน 3 กลยุทธ์ ได้แก่

1.Flagship Value Platform เน้นราคาสบายกระเป๋า

โดยโมเดล Value Platform เริ่มทำตั้งแต่ปี 2565 อาทิ ชุด Everyday Value Meals ราคา 99 บาท ทั้งเมนูไก่ทอด เบอร์เกอร์, ชุด Mcsavers 1 + 1 ราคา 55 บาท จับคู่ของว่างกับของหวานด้วยกัน เป็นต้น

“ลูกค้าหันหาความคุ้มค่ามากขึ้น โดยเฉพาะยุคที่กำลังซื้อผู้บริโภคมีจำกัด เราเข้ามาตอบโจทย์นี้ ขณะที่เรามีการจับตลาดทั้งของว่าง ของหวาน เครื่องดื่ม ทำให้ผู้บริโภคเข้ามาหาเราได้ทั้งวัน ส่งผลให้สามารถเพิ่มความถี่ในการรับประทานแมคโดนัลด์ได้เพิ่มขึ้น“

ตัวอย่าง ชุด Mcsavers 1 + 1 ราคา 55 บาท
ตัวอย่าง ชุด Mcsavers 1 + 1 ราคา 55 บาท

2.รุกตลาดไก่ทอด สร้าง Brand Love

ปีที่ผ่านมายอดขายไก่ทอด เติบโต 33% จากกลยุทธ์แฟนด้อมมาร์เก็ตติ้ง ที่ได้ดึง “ต้าห์อู๋-ออฟโรด” ขึ้นพรีเซ็นเตอร์ เจาะ Gen Z ต่อเนื่อง

โดยปีนี้จะเดินหน้าแผนและแคมเปญสำหรับกลุ่ม Gen Z และตั้งเป้ารายได้ไก่ทอดโตขึ้น 15%

3.ครองเบอร์ 1 ตลาดเบอร์เกอร์

ปัจจุบันแมคโดนัลด์ ยังคงเป็นเบอร์ 1 ในตลาดเบอร์เกอร์ต่อเนื่อง 40 ปี และยังคงพัฒนาลอนช์เมนูใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นตลาด อาทิ ซามูไร ดีลักซ์ เบอร์เกอร์ ที่ต่อยอดมาจากเมนูขายดีอย่างซามูไรเบอร์เกอร์

ด้านแผนการลงทุน ปี 2568 แมคโดนัลด์วางงบลงทุนราว 700 ล้านบาท แบ่งเป็น

1.รีโนเวตสาขาเดิมอีก 25 แห่ง

2.ขยายสาขาใหม่ 20 แห่ง ในทำเลศักยภาพ โซน กทม. (60%) และต่างจังหวัด (40%) ภายใต้ 3 คอนเซ็ปต์

  • Geometry โมเดิร์น ทันสมัย สีสันสดใส
  • Essential Ingredients 2.0 ถ่ายทอดแบรนด์บนศิลปะป๊อปอาร์ต
  • CUBE เน้นสื่อสารแบรนด์ผ่านชิ้นงานกราฟิก
แมคโดนัลด์สาขานครธน ตัวอย่างการตกแต่งคอนเซ็ปต์ CUBE

3.ลงทุนด้านเทคโนโลยี (Experience of the Future : EotF) อาทิ เครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ ซึ่งได้ติดตั้งครบทุกสาขาเดิมแล้ว และปีนี้จะขยายติดตั้งสู่สาขาที่เปิดใหม่

“จากกลยุทธ์ดังกล่าว ทำให้ปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% ซึ่งหากคงการเติบโตเช่นนี้เรื่อย ๆ เป้ารายได้ 10,000 ล้านบาท น่าจะทำได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า”

]]>
1514626
“บำรุงราษฎร์” ลงทุน 4.3 พันล้านบาท เปิด รพ. ใหม่ในภูเก็ต ดันฮับเมดิคอล https://positioningmag.com/1514451 Wed, 12 Mar 2025 08:44:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1514451 เดวิด โธมัส บูเช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ภูเก็ต เปิดเผยว่า รพ.บำรุงราษฎร์ วางแผนลงทุนประมาณ 4,300 ล้านบาท เปิด รพ.บำรุงราษฎร์ ภูเก็ต ด้วยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ และประชากรรายได้สูง

สำหรับ รพ.แห่งใหม่นี้ ตั้งอยู่บนที่ดิน 16.5 ไร่ ใกล้กับ Blue Canyon Country Club ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตราว 3 กิโลเมตร โดยคาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างเมื่อได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว

ก่อนหน้านี้ รพ.บำรุงราษฎร์ ประกาศแผนการลงทุนในการสร้างโรงพยาบาลบูติก และศูนย์วินิจฉัยโรคขั้นสูงที่ภูเก็ต

โดยโรงพยาบาลแห่งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการขยายการบริการทางการแพทย์ในมาตรฐานสากลไปยังตลาดที่มีศักยภาพสูงในจังหวัดต่าง ๆ ของไทย

ทั้งนี้ รพ.บำรุงราษฎร์ ภูเก็ต จะเป็นโรงพยาบาลที่ให้การรักษาในระดับปฐมภูมิ เพื่อให้ชาวภูเก็ต ชาวต่างชาติที่อาศัยในภูเก็ต และผู้ป่วยต่างชาติได้เข้าถึงการบริการทางการแพทย์

ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (เมดิคอลฮับ) ในประเทศไทย รวมถึงเป็นการสร้างโอกาสในการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับภูมิภาค

]]>
1514451
ภูเก็ต ค่าเช่าคอนโดโต 20% ต่อปี ภาษีอสังหาสิงคโปร์ ทำต่างชาติย้ายอยู่ไทยแทน https://positioningmag.com/1514306 Wed, 12 Mar 2025 02:42:24 +0000 https://positioningmag.com/?p=1514306 ปีที่ผ่านมา ยังคงเป็นปีทองของ “ภูเก็ต” สะท้อนจาก ยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าภูเก็ตกว่า 8.65 ล้านคน ในปี 2567 เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)

โดยนับตั้งแต่ปี 2549 จำนวนผู้โดยสารเข้าภูเก็ตเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี

บิล บาร์เน็ตต์ กรรมการผู้จัดการ C9Hotelworks กล่าวว่า การท่องเที่ยวภูเก็ตขยายตัวสูง ขับเคลื่อนตลาดเช่าคอนโดในภูเก็ต ให้กลายเป็นโมเดล Residential-led Hospitality อย่างเต็มรูปแบบ โดยแบ่งเป็น

  • การเช่าระยะสั้น (1 – 6 เดือน) สัดส่วน 46%
  • การเช่าระยะยาว สัดส่วน 54%

โดยมีกลุ่มผู้ซื้อจากรัสเซีย ไทย สิงคโปร์ และฮ่องกง เป็นกำลังหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตตอนนี้ ส่วนโซนยอดนิยมยังเป็นบางเทา และเชิงทะเล ที่มีไลฟ์สไตล์คล้ายทองหล่อในกรุงเทพฯ

เปรียบเทียบการซื้ออสังหา ภูเก็ต และ กทม.

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดภูเก็ตร้อนแรงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการเคลื่อนย้ายที่อยู่ของชาวต่างชาติในสิงคโปร์ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีและอากรแสตมป์ในอัตราสูงในกลุ่มบ้าน

โดยชาวต่างชาติในสิงคโปร์ได้รับผลกระทบมากสุด เพราะเมื่อซื้ออสังหาในสิงคโปร์ทุกประเภท ต้องเสียภาษีในอัตรา 60% (จากเดิม 30%)

ขณะที่ภูเก็ตมีจุดแข็งราคาย่อมเยามากกว่าสิงคโปร์ในหลายด้าน เช่น

  • เงิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 67 ล้านบาท) ในไทยสามารถซื้อวิลล่า 5 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 779 ตร.ม. ส่วนสิงคโปร์จะซื้อได้เพียงคอนโด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 58 ตร.ม. เท่านั้น
  • รร.นานาชาติ ในภูเก็ตมีค่าเทอมเพียง 20,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6.9 แสนบาท) ต่างจาก รร. นานาชาติ ที่สิงคโปร์ มีค่าเทอมสูงถึง 35,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.19 ล้านบาท)

“เราคาดว่าแนวโน้มการย้ายถิ่นฐานทั้งในระดับโลกและภูมิภาคจะยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของตลาดอสังหาฯ เพื่อการลงทุน โดยในภาวะที่ตลาดมีความผันผวน การโยกย้ายการลงทุนมายังประเทศไทยในฐานะ ‘เซฟโซน’ กลายเป็นทางเลือกระยะยาวที่น่าสนใจ ผู้คนเริ่มมองหาผลตอบแทนที่มั่นคงและสม่ำเสมอจากการปล่อยเช่าระยะยาว” บาร์เน็ตต์ กล่าวเสริม

โครงการ Sudara Residences Phuket

กระแสความสนใจในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยเชิงไลฟ์สไตล์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการอสังหา Lan Kwai Fong (LKF) Group (กลุ่มลานไควฟง) จากฮ่องกง เตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “สุดารา (Sudara)” ในย่านบางเทา เพื่อตอบรับความต้องการที่พุ่งสูง

เจสัน ธีเลน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการขายและการตลาด สุดารา เรสซิเดนซ์ กล่าวว่า สุดารา โครงการที่อยู่อาศัยมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท รูปแบบคอนโดจำนวน 500 ยูนิต กำหนดแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปี 2570

โครงการ Sudara Residences Phuket

เบื้องต้น เฟสแรก เปิดตัว 220 ยูนิต มูลค่า 4,500 ล้านบาท ขนาดตั้งแต่ 52 – 144 ตารางเมตร พร้อมตัวเลือกยูนิตที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ราคาเริ่มต้น 10.1-27 ล้านบาท/ยูนิต

ภูเก็ตกำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนชาวสิงคโปร์ โดยโครงการ Sudara Residences Phuket มียอดขายกว่า 40% จากสิงคโปร์ สะท้อนเทรนด์ที่ขับเคลื่อนปัจจัยด้านความคุ้มค่าในการลงทุน และความสะดวกในการเดินทาง

“ราคาค่าเช่าคอนโดในภูเก็ต เพิ่มขึ้นสูง 20-30% หนุนกลุ่มซื้อลงทุนเข้ามาในไทยด้วย”

โครงการ Sudara Residences Phuket
]]>
1514306
รายได้โตไม่ทันรายจ่าย คนไทยเกือบ 40% มีหนี้เฉลี่ยเกิน 1 แสนบาท/คน https://positioningmag.com/1514085 Mon, 10 Mar 2025 08:17:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1514085 ttb analytics ระบุว่า ช่วง 10 ปีนี้ ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยรุนแรงขึ้น สะท้อนจากยอดคงค้างหนี้ครัวเรือน (ณ ไตรมาส 3/67) อยู่ที่ 16.3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 89% ของ GDP

สูงกว่าหลายประเทศที่มีรายได้ต่อหัวใกล้เคียงกัน และปัญหาหนี้แย่ลงเมื่อหมดมาตรการช่วยเหลือทางการเงินช่วงโควิด

จากการวิเคราะห์ข้อมูลบัญชีลูกหนี้ไม่สามารถระบุตัวตนได้ 84 ล้านบัญชี ยอดหนี้ 13.6 ล้านล้านบาท (จากฐานข้อมูลเครดิตบูโร) พบ 5 ประเด็นน่าห่วง ดังนี้

ประเด็น 1 : ปี 2567 เกือบ 40% คนไทยมีหนี้เฉลี่ยกว่า 1.18 แสนบาท/คน และในจำนวนนี้เป็นหนี้เสีย 22%

ประเด็น 2 : วัยสร้างครอบครัว อายุ 35-50 ปี ก่อหนี้มากสุดในสัดส่วน 62% โดยส่วนใหญ่ก่อหนี้ส่วนบุคคล (43%) หนี้เช่าซื้อรถ (23%) และหนี้บัตรเครดิต (17%) รวมถึงมีหนี้บ้านด้วย ทำให้คนกลุ่มนี้แบกหนี้สูง 1.54 แสนบาท/คน

ประเด็น 3 : วัยเริ่มทำงาน อายุ 25-29 ปี จำนวน 4.6 ล้านคน ในจำนวนนี้กว่า 57% เข้าสู่วงจรหนี้ โดยเป็นหนี้มอเตอร์ไซค์ (41%) และหนี้ส่วนบุคคล (43%) ซึ่งลูกหนี้มอเตอร์ไซค์กลุ่มอายุนี้เข้าข่ายหนี้เสีย 20-30%

ประเด็น 4 : ลูกหนี้มักก่อหนี้ส่วนบุคคลไปทั้งชีวิต เพื่อนำมาพยุงการบริโภคมากขึ้นในระยะหลัง พบว่า ลูกหนี้ทุกช่วงอายุ (20-80 ปี) ประมาณ 40% มีสินเชื่อส่วนบุคคล

โดยคนที่มีทั้งหนี้ส่วนบุคคลและหนี้บัตรเครดิต (แต่ยังไม่มีหนี้บ้าน/รถ) มีจำนวน 12.1 ล้านบัญชี ส่วนคนที่มีหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล ผูกกับบ้านและรถยนต์ มีจำนวน 6.6 ล้านบัญชี คิดเป็นสัดส่วน 28.2% ในปี 2567 (จากปี 2561 มีสัดส่วน 26.2%)

ประเด็น 5 : สูงวัย 1 ใน 3 ยังคงเป็นหนี้ และกว่า 10% เป็นหนี้เสีย

โดยพบว่า 29% ของคนอายุ 60-80 ปี มีหนี้ในระบบ (มากกว่าปี 2561 ที่มีสัดส่วน 20%) ซึ่งมีหนี้เฉลี่ย 1.02 แสนบาท/คน สูงกว่าวัยทำงาน อายุ 25-35 ปี ที่มีหนี้เฉลี่ย 9.7 หมื่นบาท/คน

ลูกหนี้อายุ 60-70% มีหนี้เสียสูงถึง 14% เกิดจากปัญหาความสามารถหารายได้ช่วงบั้นปลายต่ำ สวนทางค่าใช้จ่ายสุขภาพที่เพิ่มขึ้นตามอายุ

โดยสรุป ttb analytics มองว่า คนไทยทุกช่วงวัยเจอปัญหา “รายได้โตไม่ทันรายจ่าย” ทำให้เป็นหนี้วนลูป หนี้พอกเรื้อรัง แบ่งออกเป็น 3 ช่วงวัย คือ

1.วัยเริ่มงาน (อายุ 20-30 ปี) กลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็น Gen Z เงินเดือนยังไม่สูงมาก แต่มีไลฟ์สไตล์ก่อหนี้ และขาดวินัยทางการเงิน ทำให้รายได้ไม่พอรายจ่าย คนกลุ่มนี้เรียกว่า “ชนกำแพงรายได้” แต่ข้อดีคือกลุ่มนี้ยังมีศักยภาพหารายได้ในอนาคต

2.วัยเกษียณ วัยรายรับน้อย แต่รายจ่ายยังมี จึงหันพึ่งพิงเงินออม และสวัสดิการหลังเกษียณ คนกลุ่มนี้เรียก ”ชนกำแพงอายุ“ เนื่องจากหารายได้ลดลงมาก แต่ยังแบกหนี้เรื้อรังที่สะสมตั้งแต่วัยทำงาน

3.กลุ่มวัยสร้างครอบครัว กลุ่มนี้เข้าถึงสินเชื่อและชำระหนี้ได้ดีกว่าสองกลุ่มแรก แต่ก็มีภาระที่ต้องแบกสูงตั้งแต่ค่าใช้จ่ายส่วนตัว การสร้างครอบครัว ชำระหนี้เดิมที่มีอยู่ ตลอดจนเลี้ยงพ่อแม่และลูก จึงพบเห็นกลุ่มนี้มีปัญหาสภาพคล่องที่น้อยลง และมีแนวโน้มก่อหนี้ในระดับสูงมากที่สุด เรียกว่า ”กลุ่มชนกำแพงรายจ่าย“

]]>
1514085
อนันดา รุกตลาดภูเก็ตครั้งแรก ผุดโครงการหรู 550 ไร่ มูลค่า 5 หมื่นล้าน https://positioningmag.com/1513985 Mon, 10 Mar 2025 03:50:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1513985 ภูเก็ต ร้อนแรงต่อเนื่อง โดยล่าสุด “อนันดา” เจ้าตลาดคอนโดหรูใน กทม. ประกาศบุกภูเก็ตครั้งแรก เปิดตัว “MIRA VALLEY”: Hidden Valley บนพื้นที่ 550 ไร่ โครงการที่อยู่อาศัยระดับลักซูรี มูลค่า 50,000 ล้านบาท บนทำเลติดเทือกเขากมลาและอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ จ.ภูเก็ต

สำหรับ มิรา วัลเลย์ มีโครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ เจาะทั้งนักลงทุนและผู้อยู่อาศัยทั่วไป โดยนำเสนอที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ ประกอบด้วย

  • Land Parcels แปลงที่ดินสำหรับสร้างวิลล่าหรูตามความต้องการ
  • ANANN VILLAS (อนันณ์ วิลล่า) พูลวิลล่าเนินเขา จำนวน 12 หลัง สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันภายในบ้านให้ตรงกับความต้องการ ราคาเริ่มต้น 80 ล้านบาท
  • Mount Mono วิลล่าหรูดีไซน์เฉพาะตัวราคาเริ่มต้น 40 ล้านบาท
  • Punyisa Pachira วิลล่าระดับอัลตร้าลักซูรีที่ก่อตั้งและออกแบบโดย Mary Pakamard นักออกแบบและสถาปนิกภายในชื่อดัง ราคาเริ่มต้น 120 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมี Sandals and Boots Club (คลับเฮ้าส์) รูปแบบอัลติเมตเพลย์กราวด์ เหมาะกับทุกเจเนอเรชัน ภายในคลับประกอบด้วย

  • สระว่ายน้ำขนาด Half-Olympic
  • คาเฟ่และร้านอาหาร
  • ฟิตเนสเซ็นเตอร์ พร้อมสตรีม ซาวน่า และ ไอซ์บาร์ท สำหรับฟื้นฟูร่างกาย
  • สนามเด็กเล่น สนามเทนนิส สนามพาเดล และสนามกีฬาอเนกประสงค์ พร้อมเส้นทางจักรยาน

ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า แม้ว่าภูเก็ตจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในฐานะจุดหมายด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก แต่ระบบสาธารณูปโภคยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญ

และด้วยโครงการขนาด 550 ไร่ เราได้ที่ปรึกษาด้านการวางผังโครงการขนาดใหญ่ คือ โครงการทอสคาน่า วัลเลย์ เขาใหญ่

เราจึงเล็งเห็นศักยภาพและโอกาสในการพัฒนาโครงการ ที่ไม่เพียงนำเสนอการอยู่อาศัยในระดับลักซูรีเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานด้านสาธารณูปโภคที่แข็งแกร่งและครบถ้วนเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายในระยะยาว

]]>
1513985
รู้จัก “Paradox of Choice” ภาวะตัวเลือกเยอะไป จนทำให้คนเลือกอะไรไม่ได้เลย https://positioningmag.com/1513981 Sun, 09 Mar 2025 07:16:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1513981 ใครว่ามีตัวเลือกแล้วดี นั่นอาจไม่จริงเสมอไป เพราะตามทฤษฎี Paradox of Choice ของ Barry Schwartz พิสูจน์แล้วว่า การมีตัวเลือกมากเกินไปอาจทำให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะ “อัมพาตในการตัดสินใจ” (Decision Paralysis) เพราะเรากังวลว่าจะเลือกผิดหรือพลาดโอกาสที่ดีกว่าไป

หนึ่งในการทดลองที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับ Paradox of Choice คือ Jam Experiment โดย Sheena Iyengar และ Mark Lepper

ซึ่งพวกเขาจัดโต๊ะชิมแยมในซูเปอร์มาร์เก็ต โดยบางครั้งให้ลูกค้าเลือกจาก 24 รสชาติ และบางครั้งให้เลือกจาก 6 รสชาติ พบว่า

แม้การมี 24 ตัวเลือกจะดึงดูดความสนใจของลูกค้ามากกว่า แต่ลูกค้ากลับซื้อน้อยลง เมื่อมีตัวเลือกมากเกินไป ในขณะที่ลูกค้าที่เจอเพียง 6 ตัวเลือกมีแนวโน้มซื้อมากกว่าถึง 10 เท่า

นอกจากนี้ คนที่เลือกจาก 6 ตัวเลือกยังพอใจกับการตัดสินใจของตัวเองมากกว่า คนที่เลือกจาก 24 ตัวเลือก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า เมื่อมีตัวเลือกมากขึ้น เรามักลังเลและกลัวว่าตัวเลือกอื่นอาจจะดีกว่า

นอกจากเรื่องสินค้าแล้ว Paradox of Choice ยังถูกโยงไปถึงการสินใจอื่น ๆ ในชีวิต ไม่เว้นกระทั่งการเลือกคู่!

ในบริบทของความสัมพันธ์และการเลือกคู่ ทฤษฎีนี้สามารถอธิบายได้ว่า การที่เรามีตัวเลือกมากเกินไปอาจทำให้เกิดความลังเล ไม่สามารถตัดสินใจเลือกคนที่ใช่ได้ หรือแม้แต่เมื่อเลือกแล้วก็อาจรู้สึกว่ายังมีตัวเลือกที่ดีกว่าอยู่อีก ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในความสัมพันธ์

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือโลกของ online dating ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถเลือกคู่ได้จากคนจำนวนมากเพียงแค่ “ปัดขวา” หรือ “ปัดซ้าย” บนแอปพลิเคชัน

เมื่อมีตัวเลือกมาก คนอาจรู้สึกว่าพวกเขาสามารถหาคนที่ “สมบูรณ์แบบกว่า” ได้เสมอ ทำให้ลังเลที่จะผูกมัดกับใครคนใดคนหนึ่ง หรือเมื่อเริ่มต้นความสัมพันธ์แล้ว ก็อาจรู้สึกว่าอีกฝ่ายยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด ส่งผลให้ความสัมพันธ์ไม่มั่นคงและเสี่ยงต่อการเลิกราได้ง่ายขึ้น

]]>
1513981
ต่างชาติซื้อบ้าน Leasehold ทะลัก กทม.-ภูเก็ต เศรษฐีพม่าซื้อแพง 100 ล้านบาท/หลัง https://positioningmag.com/1513967 Sat, 08 Mar 2025 02:06:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1513967 ไม่ใช่แค่คอนโดเท่านั้น แต่ปัจจุบัน ชาวต่างชาติได้ซื้อบ้านในประเทศไทยในรูปแบบเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว (Leasehold) ขยายตัวต่อเนื่อง จะเห็นได้จากการซื้อวิลล่าเมืองท่องเที่ยว

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ นักวิชาการอิสระด้านการพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัย ให้ความเห็นกับ “Positioning” ว่า นับตั้งแต่มีการเปิดประเทศหลังโควิด-19 ประมาณปี 2564 ต่างชาติเริ่มถือซื้อบ้านรูปแบบ Leasehold โดยเฉพาะวิลล่าติดทะเล ในพื้นที่ภูเก็ต รองลงมาคือ ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี

ดังที่เราจะเห็นได้ว่า ในภูเก็ตช่วงปี 2565 – 2566 สัดส่วนของสัญญาเช่าระยะยาวของคนต่างชาติที่เป็นบ้านแนวราบมีสัดส่วนสูงถึงประมาณกว่า 90% ของจำนวนสัญญาเช่าระยะยาวทั้งหมด

ดร.วิชัย
“ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์”

และยังพบว่าในปี 2565 มีอัตราการขยายตัวของจำนวนสัญญาเช่าระยะยาวจากปี 2564 อย่างมาก โดยมีจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เท่าตัว และมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าตัว โดยคาดว่าในปี 2567 จะมีการขยายตัวของสัญญาเช่าระยะยาวที่ต่อเนื่องเช่นกัน

หากดูยอดขายประเภทวิลล่าในภูเก็ตก็มีการขยายตัวสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของจำนวนสัญญาเช่าเช่นกัน โดยพบว่า ยอดขายในช่วงครึ่งปีของวิลล่าในภูเก็ต ก็มีการขยายตัว (YoY) อย่างมาก

  • ครึ่งแรกของปี 2566 ขยายตัวประมาณ 1,000%
  • ครึ่งหลังของปี 2566 ขยายตัวประมาณ 200%
  • ครึ่งแรกของปี 2567 ขยายตัวประมาณ 200%

ตลาดวิลล่ายังเป็นที่ต้องการของคนต่างชาติอย่างมาก เนื่องจาก วิลล่าในประเทศไทยยังมีราคาไม่แพง และมีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีผลตอบแทนที่คุ้มค่า

อย่างไรก็ดี ยังคงมีอุปสรรคในเรื่องความมั่นใจและความรู้สึกมั่นคงในเรื่องระยะเวลาในสัญญาเช่าระยะยาวที่ปัจจุบันค่อนข้างสั้น และกฎระเบียบที่ยังไม่ได้ให้สิทธิพิเศษแก่ทางด้านวีซ่าในระยะเวลาการอยู่อาศัยดังเช่น ในบางประเทศอื่นที่ให้ Long-Term Visa แก่ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศนั้น ๆ

รวมถึง ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทำให้เกิดปัญหาการโอนเงินระหว่างประเทศในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย และภาวะเศรษฐกิจในประเทศของกลุ่มสัญชาติที่สนใจเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์หลักในประเทศไทย ทั้ง ชาวจีน ชาวรัสเซีย และชาวยุโรปหลายประเทศ

ธีรากรณ์ ศรีเจริญวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI กล่าวว่า เทรนด์การเช่าระยะยาว Leasehold ของต่างชาติขยายตัว โดยเฉพาะในกลุ่มคนจีน พม่า

“ที่ผ่านมามีลูกค้าต่างชาติสอบถามรายละเอียด Leasehold มาเหมือนกัน โดยคนจีนสนใจพระรามเก้า-บางนา ส่วนคนพม่าสนใจพื้นที่พระรามเก้าเป็นบ้านราคาสูงถึง 100 ล้านบาท เราจึงเตรียมขยายการขายสู่กลุ่ม Leasehold”

ธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตส จำกัด กล่าวว่า เมื่อปี 2567 บริษัทฯ เริ่มทำสินค้าแนวราบ (บ้าน) เจาะลูกค้าต่างชาติ ในรูปแบบ Leasehold เช่าระยะยาว 30 ปี นำร่องโครงการ The Palm และ Patio และทำรายได้ส่วนนี้ไปราว ๆ 500 ล้านบาท

โดยส่วนใหญ่ลูกค้าเป็นนักลงทุนจีนที่ทำงานในไทย สนใจบ้านหรูราคา 30 ล้านบาทขึ้นไป ในทำเลพัฒนาการ ที่เชื่อมต่อไปยังสนามบิน หรือกระทั่งโซนโรงงานได้ง่าย

“ปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ส่วน Leasehold จำนวน 1,000 ล้านบาท หรือเติบโตราว ๆ 100% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)”

]]>
1513967
ชาญอิสสระ ปี 68 ลงทุนใหญ่ 1.6 หมื่นล้านบาท ลุยบ้านลักซูรี กทม. – วิลล่าหรูภูเก็ต https://positioningmag.com/1513871 Fri, 07 Mar 2025 04:54:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1513871 ธีราภรณ์ ศรีเจริญวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI เปิดเผยว่า ปี 2568 เตรียมลงทุนใหญ่ 6 โครงการ มูลค่า 16,000 ล้านบาท เป็นลักซูรีคอมมูนิตี้ที่ กทม. หัวหิน และภูเก็ต ดังนี้

พื้นที่กรุงเทพกรีฑา : โครงการ อิสสระ เรสซิเดนท์ บนที่ดิน 19 ไร่ จำนวน 23 ยูนิต และ โครงการ บ้านอิสสระ บนที่ดิน 21 ไร่ จำนวน 67 ยูนิต มูลค่ารวม 5,123 ล้านบาท

พื้นที่ภูเก็ต : มิกซ์ยูสบนเกาะภูเก็ต ศรีพันวา ลากูน บนที่ดิน 62 ไร่ มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท ที่มีทั้งโรงแรมหรู วิลล่า และคอมมูนิตี้ ย่านเชิงทะเล ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท/หลัง โดยร่วมทุน (JV) กับกลุ่มพานิชชีวะ (เจ้าของมหาวิทยาลัยสยาม)

The Sky Series เวิลด์คลาสลักชัวรี่วิลล่า บนที่ดินกว่า 2 ไร่ จำนวน 4 หลังมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เฉลี่ยหลังละ 250 ล้านบาท ปัจจุบันขายได้แล้ว 50%

พื้นที่หัวหิน :โครงการซาซ่าส์ หัวหิน (SASA HUA HIN) A NEW STYLISH BEACH CONDOMINIUM บนที่ดิน 3 ไร่ จำนวน 248 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,706 ล้านบาท

โครงการ อิสสระ วิลล์ หัวหิน (ISSARA VILLE) ลักชัวรี่พูลวิลล่า หัวหิน บนที่ดิน 4 ไร่ จำนวน 8 ยูนิต มูลค่าโครงการ 144 ล้านบาท

ส่วน ธุรกิจโรงแรม มุ่งหน้าขยายสู่ Wellness ระดับ World Class โดยความร่วมมือกับ BDMS เพื่อให้ศรีพันวาเป็นที่พักผ่อน ผสมผสานไปกับการดูแลสุขภาพกายและใจ ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ได้แตกไลน์ธุรกิจ สู่โปรดักส์ดูแลสุขภาพผิว นำร่องครีมกันแดด ภายใต้แบรนด์ BABA SKIN CLUB คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2568 โดยมี “กรัชเพชร อิสสระ” รับตำแหน่ง เป็นแบรนด์ไดเร็กเตอร์

“ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการหันมาทำแนวราบมากขึ้น ทำให้ซัพพลายในตลาดสูง ทำให้ปีนี้เราจะแข่งขันด้านราคามากขึ้น ยอมกำไรน้อยหน่อย ปีนี้เราตั้งใจเปิดตัว 6 โครงการใหม่ ทดแทน 2 โครงการที่ปิดการขายไป โดยปี 2568 ตั้งเป้ารายได้ 3,000 ล้านบาท“

]]>
1513871
อสังหาหรูภูเก็ต ยอดขายพุ่ง ที่ดินริมหาดแทบเกลี้ยงเกาะ https://positioningmag.com/1513766 Thu, 06 Mar 2025 09:36:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1513766 ประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ซีบีอาร์อี ประเทศไทย หรือ CBRE กล่าวว่า อสังหาภูเก็ตร้อนแรงต่อเนื่อง โดยประเมินว่า ยอดขายปี 2567 ที่ผ่านมา คอนโดหรู มีจำนวน 5,500 ยูนิต และวิลล่าหรูมีจำนวน 600 หลัง

สำหรับ ซีบีอาร์อี มีการดำเนินธุรกรรมการขายที่พักตากอากาศในภูเก็ต “สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2567” ซึ่งสูงกว่าสถิติเดิมในปี 2566

  • คอนโด เติบโต 201% โดยกลุ่มระดับราคาเริ่มต้น ราคาต่ำกว่า 8 ล้านบาท ขายดีที่สุด
  • วิลล่า เติบโต 148% โดยกลุ่มราคาระดับกลาง 15-35 ล้านบาท ขายดีที่สุด

หากจำแนกตามวัตถุประสงค์การซื้อ พบว่า 75% ซื้อเพื่อการลงทุน และอีก 25% ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง โดยกำลังซื้อหลักอสังหาภูเก็ตของ CBRE ส่วนใหญ่ยังเป็นชาวไทย 70% และชาวต่างชาติ 30%

สำหรับกลุ่มผู้ซื้อต่างชาติมี 5 อันดับแรก ดังนี้

  • รัสเซีย
  • ออสเตรเลีย
  • อังกฤษ
  • จีน
  • เยอรมัน

จากดีมานด์ที่อยู่อาศัยในภูเก็ตขยายตัว ทำให้ผู้ประกอบการต้องการที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่เชิงทะเล บางเทา สุรินทร์ และลายัน

อย่างไรก็ดี ที่ดินติดชายหาดแทบไม่มีเหลืออยู่แล้ว ผู้พัฒนาจึงพิจารณาทำเลที่ดินอินแลนด์ (พื้นที่ห่างชายฝั่งหรือใกล้ตัวเมือง) ห่างจากชายหาด 10-15 นาทีโดยรถยนต์ แต่ต้องอยู่ในทำเลที่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร โรงเรียน ฯลฯ

ทำเลที่ตั้งราคาเสนอขายที่ดินอินแลนด์และที่ดินบนเนินเขาที่มีวิวทะเลอยู่ที่ 15-60 ล้านบาทต่อไร่ ขึ้นอยู่กับขนาดของที่ดิน

”ราคาเสนอขายที่ดินอินแลนด์ปรับขึ้น 10-35% ตั้งแต่ปี 2566 ขึ้นอยู่กับระยะทางจากชายหาด ขนาดของที่ดิน“ 

]]>
1513766