Infographic – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 25 Dec 2024 04:50:28 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 วัดชีพจรธุรกิจไทย ปี 68 ธุรกิจไหนติดอันดับ ‘ดาวรุ่ง-ดาวร่วง’ บ้าง? https://positioningmag.com/1504612 Mon, 23 Dec 2024 08:48:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1504612 ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผยถึง ‘ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ประจำปี 2568’ ซึ่งสะท้อนภาพมาจากเทรนด์ของตลาด บวกกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

 

ประเด็นน่าสนใจธุรกิจติดอันดับดาวรุ่งเป็นครั้งแรก ได้แก่ ‘ธุรกิจแอลกอฮอล์’ ในอันดับ 4, ธุรกิจให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม เช่น แม่บ้าน ในอันดับ 6 รวมถึง ‘ธุรกิจคลินิกกายภาพ’ และ ‘ธุรกิจให้บริการสถานีชาร์จรถ EV’ ในอันดับ 7 สำหรับ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง ปี 2568 ทั้งหมด ประกอบด้วย

 

1.ธุรกิจการแพทย์และความงาม/ธุรกิจ Cloud Service/ธุรกิจ Cyber Security – ธุรกิจนี้เติบโตและโดดเด่นตามเทรนด์โลก รวมถึงสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค

 

2.ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์/Social Media/YouTuber/Influencer – เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตน่าสนใจความต้องการและดีมานด์ของตลาดที่มีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ถือเป็นธุรกิจนี้ถือว่า มีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมากด้วยเช่นกัน

 

3.ธุรกิจ Soft Power ไทย โดยเฉพาะซีรีส์ หนัง โฆษณา และสื่อออนไลน์ – เทรนด์การเติบโตก็มาจากความต้องการของตลาดที่สูงขึ้น และมีการขยายไปวงกว้างค่อนข้างมาก แม้ต้นทุนในการผลิตจะยังคงสูงก็ตาม

 

4.ธุรกิจคอนเสิร์ต อีเวนต์/เครื่องดื่มแอลกอฮอล์/ธุรกิจความเชื่อ (สายมู, หมอดู, ฮวงจุ้ย) – ในส่วนของ ‘ธุรกิจคอนเสิร์ตและอีเวนต์’ มีผลมาจากภาครัฐและเอกชนมีการจัดงานต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ขณะที่ ‘ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์’ มาจากความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีความโดดเด่นทั้งด้านยอดขาย และกำไร

 

ส่วน ‘ธุรกิจความเชื่อ’ เป็นธุรกิจที่อยู่ในกระแส ปัจจัยหนึ่งมาจากมี Influencer หรือผู้มีชื่อเสียงด้านนี้ สร้างความน่าเชื่อถือสร้างประสบการณ์ร่วมด้านอารมณ์กับลูกค้า บวกกับความไม่สนใจของสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจ ฯลฯ ส่งผลให้คนหาที่ ‘พึ่งทางใจ’ กันมากขึ้น ทำให้ธุรกิจความเชื่อมีโอกาสเติบโตต่อไป

 

5.ธุรกิจเงินด่วน/โรงรับจำนำ/ประกันภัยและประกันชีวิต – โดดเด่นตามความต้องการที่มีสูงขึ้น อย่างธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต มีการเติบโตทั้งยอดขายและกำไร ยกตัวอย่างบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีกำไรสุทธิเฉลี่ยอยู่ที่ 6-7% ต่อเนื่อง

 

6.ธุรกิจให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม เช่น แม่บ้าน ฯลฯ/ธุรกิจผับ บาร์ คาราโอเกะ – ‘ธุรกิจให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม’ เช่น แม่บ้าน บริการซ่อมต่าง ๆ ฯลฯ เป็นไปตามเทรนด์การใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็ว ส่วน ‘ธุรกิจผับ บาร์ คาราโอเกะ’ ที่เป็นดาวรุ่งก็มาจากดีมานด์ที่สูงขึ้นนั่นเอง

 

7.ธุรกิจคลินิกกายภาพ/ธุรกิจให้บริการสถานีชาร์จรถ EV/ธุรกิจสัตว์เลี้ยง – ธุรกิจเหล่านี้เริ่มมีการเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วงปลายปี 2567 และปีหน้าเองมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น โด ‘ธุรกิจกายภาพ’ จะเป็นการแตกแขนงจากธุรกิจทางการแพทย์และความงาม มี 2 รูปแบบ คือ คลินิกที่เปิดโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์มาทำกายภาพ และเปิดโดยนักกายภาพ เพื่อมารักษาอาการ เช่น ออฟฟิศซินโดรม เป็นต้น

 

ขณะที่ ‘ธุรกิจให้บริการสถานีชาร์จรถ EV’ เนื่องจากมีผู้เล่นในตลาดมากขึ้น และความนิยมของรถ EV เพิ่มขึ้น ทำให้เห็นทิศทางการขยายตัวของรถ EV อย่างเห็นได้ชัด เช่นเดียวกับ ‘ธุรกิจสัตว์เลี้ยง’ เป็นการตอบสนองเทรนด์คนรักสัตว์ และรับสัตว์เลี้ยงเป็นลูกหลานที่มาแรงมาก ณ ตอนนี้

 

8.ธุรกิจโทรคมนาคม/Fintech/ตู้หยอดเหรียญ/ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง – ทั้งหมดเป็นธุรกิจที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของคนที่ต้องการความสะดวกสบายและประหยัดเวลามากขึ้น ส่วน ‘ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง’ เห็นชัดว่า รอบปีที่ผ่านมาเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทยสูงขึ้น ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องมีอัตราการขยายตัวได้ แม้จะมีปัจจัยบั่นทอนอยู่บ้าง แต่ปีหน้าเชื่อว่า ภาครัฐต้องขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อให้จำนวนนักท่องเที่ยวเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

 

9.ธุรกิจเดลิเวอรี่/ทนายความ-ตรวจสอบบัญชี/สตรีทฟู้ดส์/ตลาดนัดกลางคืน/อาหาร-เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ – ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ ที่น่าสนใจ คือ ธุรกิจสตรีทฟู้ดส์และตลาดกลางคืน ซึ่งมีการเติบโตน่าสนใจ และตลาดนัดกลางคืน ถือเป็นธุรกิจอีกรูปแบบหนึ่งในการสนับสนุน Soft Power ของไทย

 

10.ธุรกิจพลังงานทดแทน/โรงพยาบาล คลินิกเกี่ยวกับสัตว์

ส่วน 10 ธุรกิจดาวร่วง ปี 2568 ได้แก่

 

1.ธุรกิจจำหน่ายและให้เช่า CD หรือ VDO – เป็นธุรกิจที่ตกลงมาอย่างชัดเจน และมีการล้มหายตายจากไปเรื่อย ๆ ตามพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนแปลงไป

 

2.ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่มีแพลตฟอร์ม ออนไลน์ – เนื่องจากยุคปัจจุบันเป็นโลกของออนไลน์ สัดส่วนของสิ่งพิมพ์ลดลง ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ผู้ประกอบการธุรกิจสิ่งพิมพ์จะมีการทำแพลตฟอร์มออนไลน์ควบคู่กันไป หากไม่มีจะเริ่มหายไปจาก

 

3.ธุรกิจคนกลางผลิตและจำหน่ายที่เก็บข้อมูล เช่น CD DVD Thumb Drive ฯลฯ – เป็นธุรกิจที่ต้องเผชิญการดิสรัปต์จากเทคโนโลยีเช่นเดียวกับธุรกิจสิ่งพิมพ์ โดยปัจจุบันผู้คนจะจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ในรูปแบบของ Cloud Service ทำให้ธุรกิจ ธุรกิจคนกลางผลิตและจำหน่ายที่เก็บข้อมูล เช่น CD DVD Thumb Drive ฯลฯ เริ่มลดน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด และปีหน้าเองเรื่อง AI จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจเหล่านี้เริ่มหายไปจากตลาด

 

4.ธุรกิจบริการส่งหนังสือพิมพ์ – เป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่ลดลง

 

5.ธุรกิจผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม – แนวโน้มของธุรกิจนี้จะเป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากได้กำไรมากกว่า ทำให้ธุรกิจผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มภายในประเทศปรับตัวลดลง

 

6.ธุรกิจถ่ายเอกสาร – สอดคล้องกับแนวโน้มของพฤติกรรมคนจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่จะดูเอกสารผ่านออนไลน์หรือมือถือมากขึ้น

 

7.ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้ดั้งเดิม ไม่มีการออกแบบดีไซน์ – หากผู้ประกอบการยังคงดำเนินธุรกิจในรูปแบบเดิม ไม่มีดีไซน์ จะหายไปจากตลาดที่ปัจจุบันการสร้างสรรค์และดีไซน์มีความสำคัญ

 

8.ธุรกิจรถยนต์มือ 2 – รอบปีที่ผ่านมาจะเห็นบริษัทรถยนต์มือสองหรือเต็นท์ขายรถยนต์มือสองปิดกิจการไปค่อนข้างเยอะ เนื่องจากราคารถยนต์มือหนึ่งทั้งระบบสันดาปและรถ EV มีราคาถูกลง ซึ่งเมื่อเทียบกับรถยนต์มือสองมีราคาแตกต่างไม่มากนัก ทำให้คนหันไปซื้อรถยนต์มือหนึ่งมากขึ้น

 

9.ธุรกิจขายเครื่องเล่นเกม – การเป็นดาวร่วงของธุรกิจนี้ มาจากการดิสรัปต์และการเติบโตของธุรกิจเกมออนไลน์

 

10.ธุรกิจผลิตกระดาษ/ธุรกิจโชห่วย – แม้จะมีการใช้กระดาษอยู่ แต่ ‘ธุรกิจผลิตกระดาษ’ ก็ไม่โดดเด่นเหมือนในอดีต และการดำเนินธุรกิจไม่สามารถทำกำไรอย่างที่ผ่านมา ส่วน ‘ธุรกิจโชห่วย’ ได้รับผลกระทบจากการรุกตลาดอย่างหนักของร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ บวกกับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงชัดเจน โดยต้องการความสะดวกสบายและความครบครันมากขึ้นนั่นเอง

 

ส่วนธุรกิจที่เคยโดดเด่น เป็นดาวรุ่งในปี 2567 แต่ในปี 2568 ไม่ได้ติดอันดับ ได้แก่ ธุรกิจ E-Sport Game, ธุรกิจยานยนต์, ธุรกิจอสังหาฯ และก่อสร้าง, ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

]]>
1504612
อีกสิบปี ‘กาแฟ RTD’ ในไทยจะมีมูลค่า 6.2 หมื่นล้าน อะไรที่ทำให้ตลาดนี้โตแรง? https://positioningmag.com/1502436 Mon, 09 Dec 2024 04:57:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1502436 ด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนยุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบาย และความรวดเร็ว หากสินค้าหรือบริการใดสามารถตอบสนองเทรนด์นี้ได้ นั่นหมายถึงยอดขายและโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับ ‘กาแฟพร้อมดื่ม’ หรือ กาแฟ RTD (Ready To Drink) ที่แม้ตอนนี้คนไทยยังมีการบริโภคน้อยอยู่ แต่ในอีกสิปปีข้างหน้ามีการประเมินว่า ตลาดนี้จะโตปีละ 9% มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 62,033 ล้านบาท

 

นอกจากความสะดวกสบายแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นหรือไม่ที่เป็นแรงส่งให้ตลาดกาแฟ RTD มีการเติบโตร้อนแรงเช่นนี้?

 

จากข้อมูลของ Tetra Pak Compass 2023 ได้รายงานถึงปริมาณการบริโภคกาแฟ RTD ของทั่วโลกในปี 2020-2023 อยู่ที่ประมาณ 7,600 ล้านลิตร มีการเติบโต 3.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน และจากการบริโภคทั้งหมดเป็นการบริโภคอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ APAC ถึง 75%

 

ตลาดกาแฟในไทยน่าสนใจแค่ไหน ?

 

สำหรับประเทศไทยนั้น จากรายงานดังกล่าวระบุว่า มีการบริโภคเครื่องดื่ม (ไม่รวมน้ำดื่ม) อยู่ราว 15,864 ล้านลิตร ในจำนวนนั้นเป็นการบริโภคกาแฟอยู่ในสัดส่วนที่ 11% ซึ่งตลาดกาแฟในภาพรวมมีแนวโน้มการเติบโตเฉลี่ย 3.5% ต่อปีสูงกว่าเครื่องดื่มหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มนมและกลุ่มน้ำผลไม้ เป็นต้น

 

นั่นทำให้กาแฟกลายเป็นอีกหนึ่งเซ็กเมนต์ของตลาดเครื่องดื่มที่มีการเติบโตน่าสนใจ

‘สุภนัฐ รัตนทิพ’ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในบรรดาตลาดกาแฟทั้งหมดเซ็กเมนท์ RTD เป็นตลาดน่าสนใจที่สุด เพราะแม้ปัจจุบันจะมีการบริโภคอยู่ในสัดส่วน 12% จากภาพรวมของตลาดกาแฟ แต่ในอนาคตโตแรงแน่นอน ซึ่งเหตุผลเพราะนอกจากช่องว่างทางการตลาดที่มีอยู่ ยังมาจากปัจจัยหลัก ดังต่อไปนี้

 

ประเด็นแรก ความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงาน และกลุ่ม Gen Z มีความคุ้นเคยและดื่มกาแฟมากขึ้น โดยจะมีการบริโภคอย่างน้อย 2 แก้วต่อวัน

 

ประเด็นที่ 2 ด้วยเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่มองหาความสะดวกสบายและความรวดเร็วมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาบริโภคสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการนี้เพิ่มขึ้น

 

ประเด็นที่ 3 การมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในตลาด รวมถึงมีการออกรสชาติและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น

 

ประเด็นที่ 4 มาจากการขยายตัวของช่องทางจัดจำหน่ายที่มากขึ้น โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อ ที่ส่วนใหญ่จะมีสินค้ากลุ่ม RTD วางจำหน่าย ทำให้เป็นเพิ่มโอกาสในการขยายตัวของสินค้ากลุ่มนี้ รวมถึงกาแฟ RTD

 

จากปัจจัยทั้งหมด ทำให้มีการประเมินว่า ในอีกสิบปีข้างหน้าตลาดกาแฟพร้อมดื่มจะมีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 9% และมีมูลค่าเพิ่มขึ้น จากปี 2024 มีมูลค่าอยู่ที่ 26,095 ล้านบาท เพิ่มเป็น 62,033 ล้านบาท ในปี 2034 ซึ่งถือเป็นโอกาสน่าสนใจสำหรับทั้งผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจและผู้เล่นรายใหม่ที่มองหาช่องทางเข้าสู่ตลาดกาแฟ RTD

 

ทั้งนี้ ตลาดกาแฟ RTD ในบ้านเรา จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ‘กลุ่มแมส’ เป็นตลาดพื้นฐาน เช่น กาแฟดำ กาแฟใส่นม ฯลฯ ราคาอยู่ประมาณ 10 บาท กับ ‘กลุ่มพรีเมียม’ ใช้เมล็ดกาแฟพิเศษ มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ระดับราคาอยู่ที่ 30 บาทขึ้นไป ซึ่งสุภนัฐบอกว่า การทำตลาดอยากให้โฟกัสในกลุ่มพรีเมียม เพราะกำไรต่อหน่วยสูงกว่า และยังเพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์

โดยการทำตลาดในกลุ่มนี้ สามารถต่อยอดความได้เปรียบด้วยการ Value-added ผ่านนวัตกรรมต่าง ๆ เช่น การใช้บรรจุภัณฑ์สำหรับสร้างความแตกต่าง บรรจุภัณฑ์หรูหรา การตลาดแบบเฉพาะเจาะจง หรือการนำเสนอเรื่องราวของแบรนด์

 

รวมไปถึงพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์เป็น ‘มากกว่ากาแฟ’ ด้วยการเพิ่มคุณประโยชน์อื่นเข้าไปเพื่อตอบสนองเทรนด์สุขภาพที่มาแรง ยกตัวอย่าง ประเทศเกาหลีที่มีการใส่ High Protein เข้าไป หรือญี่ปุ่น อีกตลาดที่ใหญ่ของกาแฟ ได้มีการออกผลิตภัณฑ์ไซด์ลิตรให้บริโภคที่บ้าน และมีการทำกาแฟ Plant-based ขึ้นมา เป็นต้น

 

“ราคา เป็นปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจซื้อ แต่ถ้าสินค้าสามารถตอบโจทย์ความต้องการเขาได้ผู้บริโภคก็พร้อมจ่าย และต้องทำความเข้าใจลูกค้าแต่ละกลุ่มให้ชัดเจน เพื่อให้รู้ว่า เราจะสู้ด้วยกลยุทธ์อะไร เพราะอย่าลืมว่า ตอนนี้ไม่มีแล้วสำหรับ One size doesn’t fit all”

]]>
1502436
รู้จัก “White Story” ธุรกิจ “ข้าวกล่อง-เบเกอรี” ร้อยล้าน! https://positioningmag.com/1494053 Fri, 11 Oct 2024 09:30:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1494053 1494053 5 Do – 2 Don’t ในการเลือก “อินฟลูเอนเซอร์” โปรโมตแบรนด์/สินค้า https://positioningmag.com/1492580 Wed, 02 Oct 2024 09:54:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1492580
มูลค่าตลาดการโฆษณาโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing) เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก ในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา (2016-2023) มีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 66.34%

โดยปี 2023 มูลค่าตลาดสูงถึง 21,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ปี 2024 มีการคาดการณ์ว่าจะโตอีก 13.7% ขึ้นไปแตะ 24,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

จากความฮอตของอินฟลูฯ “วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล” (CMMU) จึงออกไกด์ไลน์ให้แบรนด์เพื่อนำไปเลือกใช้ “อินฟลูฯ” ได้อย่างเหมาะสม โดยมี 5 อย่างที่ควรทำ และ 2 อย่างที่ไม่ควรทำ ดังนี้

DO – เลือกอินฟลูฯ ที่มีบุคลิกสอดคล้องกับแบรนด์
DO – เลือกอินฟลูฯ ที่ตัวตนชัดและเป็นธรรมชาติ
DO – ให้อิสระอินฟลูฯ สร้างคอนเทนต์ในแบบตัวเอง
DO – เลือกอินฟลูฯ ที่ผู้บริโภครู้สึกเข้าถึงง่าย
DO – เลือกอินฟลูฯ ที่เป็นที่รัก

DON’T – อย่ามองแค่ตัวเลขผู้ติดตาม
DON’T – อย่าหลงตามกระแส

รายละเอียดแต่ละข้อ ติดตามได้ในอินโฟกราฟิกชุดนี้เลย 👇

อินฟลูเอนเซอร์

#อินฟลูเอนเซอร์ #อินฟลู #การตลาดออนไลน์ #การตลาดดิจิตอล #การตลาด #PositioningOnline
]]>
1492580
2 “อาคารโบราณ” ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะถูกเนรมิตใหม่เป็น “โรงแรม” สุดหรู https://positioningmag.com/1492020 Fri, 27 Sep 2024 06:46:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1492020
โปรเจ็กต์ที่น่าสนใจอีก 2 แห่งกำลังจะเกิดขึ้นริมแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านเจริญกรุง จากอาคารโบราณที่มีคุณค่าทางประวัติศาตร์ จะถูกรีโนเวตกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่เป็น “โรงแรม” สุดหรู

แห่งแรกคือ “อาคารอีสต์เอเชียติก” อาคารอายุ 124 ปีที่เคยเป็นที่ทำการบริษัทเดินเรือขนส่งจากยุโรป ปัจจุบันเจ้าของโครงการคือ AWC ตระกูลสิริวัฒนภักดี กำลังจะเปลี่ยนแปลงมาเป็นโรงแรม “เดอะ พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา แบงคอก”

อีกแห่งหนึ่งคือ “โรงภาษีร้อยชักสาม” อาคารอายุ 140 ปี อดีตศุลกสถานเก็บภาษีนำเข้าส่งออกสินค้า ปัจจุบันเจ้าของโครงการที่ได้สัมปทานคือ “แรบบิท​ โฮลดิ้งส์” (เครือบีทีเอส กรุ๊ป) จะเปลี่ยนอาคารมาเป็นโรงแรม “เดอะ แลงแฮม แบงคอก”

ทั้งสองอาคารจะมีการเก็บอนุรักษ์รูปแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมเอาไว้ ซึ่งถือเป็นงานที่ยากและต้องใช้เวลา ความประณีตในการทำงานสูงมาก

คาดว่าเราจะได้เห็นทั้ง 2 อาคารกลับมาให้บริการได้ในปี 2569

#อาคารโบราณ #รีโนเวต #ปรุงปรุงอาคาร #โบราณสถาน #อาคารเก่า #เจริญกรุง #ริมน้ำ #PositioningOnline

]]>
1492020
“บ้านแพง ค่าแรงถูก” “ราคาบ้าน” เฉลี่ยในกรุงเทพฯ แพงเกินที่คนทั่วไปจะกู้ได้ถึง 2.6 เท่า! https://positioningmag.com/1491479 Tue, 24 Sep 2024 04:43:53 +0000 https://positioningmag.com/?p=1491479 1491479 เทียบฟอร์ม 4 “ร้านสลัด” ร้านไหนที่ได้ใจคุณ? https://positioningmag.com/1488078 Thu, 29 Aug 2024 13:55:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1488078 1488078 “บาร์บีคิวพลาซ่า” ได้อะไรจากการลงระบบ “GON ORDER-TO-PAY” https://positioningmag.com/1487145 Wed, 21 Aug 2024 16:49:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1487145 “บาร์บีคิวพลาซ่า” ลงระบบ “GON ORDER-TO-PAY” ให้ลูกค้า “สั่ง-จ่าย-จบ” บนมือถือของตนเองได้เลย

ระบบนี้เปิดให้ลูกค้าใช้มือถือสแกน QR CODE เพื่อเข้าไป “สั่งอาหาร” ได้เอง และใช้จนจบครบวงจรด้วยการ “ชำระเงิน” เองได้ ไม่ต้องรอพนักงาน ไม่ต้องยืนต่อคิวแคชเชียร์อีกต่อไป

บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ใช้งบลงทุนไปกว่า 30 ล้านบาท ว่าจ้างสตาร์ทอัพไทย Hato Hub พัฒนาระบบ ใช้เวลากว่า 2 ปีเพื่อพัฒนาจนพร้อมขยายไปใช้ในสาขาต่างๆ เป็นวงกว้าง

ผลที่ได้รับจาก GON ORDER-TO-PAY คืออะไรบ้าง? ติดตามได้ที่นี่

]]>
1487145
“โอลิมปิก ปารีส 2024” ดึงเม็ดเงินโฆษณาทะลุเป้าเกินคาด https://positioningmag.com/1486584 Thu, 15 Aug 2024 15:13:48 +0000 https://positioningmag.com/?p=1486584 ข้อมูลจาก บริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์กรุ๊ป จำกัด (MI GROUP) รายงานเม็ดเงินโฆษณาช่วง “โอลิมปิก ปารีส 2024” พบว่า มีเม็ดเงินหมุนเวียนในช่วงแข่งขันมากกว่าที่คาด เพราะเรตติ้งผู้ชมที่ดี คนไทยสนใจชมกีฬาสูง ทำให้เม็ดเงินโฆษณาเข้ามารวมกว่า 500 ล้านบาท สูงกว่าที่เคยประมาณไว้ว่าน่าจะมีราวๆ 300 ล้านบาท
สำหรับ Top 5 อุตสาหกรรมลงโฆษณาช่วงโอลิมปิกสูงที่สุด ได้แก่
  • อันดับ 1 หน่วยงานรัฐ เช่น การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
  • อันดับ 2 ยานยนต์ เช่น TOYOTA
  • อันดับ 3 ผลิตภัณฑ์นม เช่น โยเกิร์ตพร้อมดื่ม YOYIC, นมโอ๊ต Goodmate
  • อันดับ 4 เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น สิงห์ เลมอนโซดา, เครื่องดื่มเกลือแร่ สปอนเซอร์, น้ำแร่ตราช้าง
  • อันดับ 5 เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น แอร์ Daikin, พัดลม Hatari

ถือเป็นช่วงเซอร์ไพรส์วงการโฆษณาซึ่งปี 2567 นี้ตลาดไม่ได้เติบโตมากนัก และอยู่ในช่วงเศรษฐกิจซบเซาทำให้แบรนด์มีการประหยัดงบลงโฆษณา แต่ช่วงโอลิมปิกสามารถดึงเม็ดเงินมาได้เกินคาด

]]>
1486584
เปิดอินไซต์ ‘เกมเมอร์ไทย’ เปย์ฉ่ำขนาดไหนกันนะ? https://positioningmag.com/1485748 Thu, 08 Aug 2024 12:07:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1485748 1485748