Advertorial – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 24 Apr 2024 09:57:57 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “orbix” บุกตลาดกระดานเทรดคริปโตด้วยจุดขาย “Easy & Trustworthy” ตั้งเป้าปี 2567 จำนวนผู้ใช้งานโต “10 เท่า” https://positioningmag.com/1470857 Wed, 24 Apr 2024 12:28:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1470857

orbix” (ออร์บิกซ์) กระดานเทรดคริป ชูจุดขายบุกตลาดด้วยกลยุทธ์​ “Easy & Trustworthy” ขอเป็นกระดานเทรดที่ “ไว้ใจได้” มากที่สุด ดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่และนักลงทุนสถาบัน ตั้งเป้าปี 2567 จำนวนผู้ใช้งานเติบโต “10 เท่า” ขึ้นเป็น Top 3 ของประเทศไทยภายใน 3 ปี มั่นใจสินทรัพย์ดิจิทัลกลับมาฮอตจากปัจจัยบวกส่งเสริม

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 กลุ่มธนาคารกสิกรไทยประกาศรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบวงจร โดยดำเนินการผ่านบริษัทลูก “บริษัท ยูนิต้า แคปิทัล จำกัด” เข้าซื้อกิจการ บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และเปลี่ยนชื่อกระดานเทรดจาก Satang Pro เป็น orbix” (ออร์บิกซ์)

จนถึงวันนี้กระดานเทรด “orbix” พร้อมแล้วที่จะเดินหน้าเต็มพิกัดในตลาด ผ่านกลยุทธ์ชูจุดขายเป็นกระดานเทรดที่ “Easy & Trustworthy”

(ซ้าย) “ชาญวิทย์​ รุ่งเรืองลดา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด และ (ขวา) “ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์” ประธานกรรมการ บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด

“ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์” ประธานกรรมการ และ “ชาญวิทย์​ รุ่งเรืองลดา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด สองหัวเรือใหญ่ของ orbix ร่วมกันเปิดเผยแนวทางกลยุทธ์ของ orbix ที่จะช่วยจับกลุ่มตลาดลูกค้าที่แตกต่าง ดังนี้

“Easy” – ใช้ง่ายและสะดวก

  1. การยืนยันตัวตน – ทำได้ผ่าน NDID สำหรับลูกค้าทั่วไป และยืนยันตัวตนบน K+ สำหรับลูกค้าธนาคารกสิกรไทย
  2. ฟีเจอร์ Wallet Lock ที่มีระบบการล็อกกระเป๋าสองชั้น ลูกค้าสามารถตั้งค่าเปิดปิด Wallet Lock ได้ด้วยตนเอง
  3. ฟีเจอร์ Price Alert ตั้งเตือนราคาที่ใช่ ไม่ต้องเฝ้าจอ ไม่พลาดทุกโอกาสการซื้อขาย โดยสามารถเลือกเหรียญที่ต้องการให้แจ้งเตือนได้ด้วยตนเอง
  4. ฟีเจอร์ orbix Balance ระบบช่วยคำนวณต้นทุนเหรียญแบบอัตโนมัติ ทำให้รู้กำไรขาดทุนทุกเหรียญ โดยไม่ต้องเสียเวลาคำนวณ (*เปิดฟีเจอร์ภายในปี 2567)
  5. Seamless การเติมเงินไม่ต้องบันทึก QR CODE ให้ยุ่งยาก แต่สามารถลิงก์เข้าไปชำระเงินที่ K+ ได้โดยตรง (*เปิดฟีเจอร์ภายในปี 2567)

ตัวอย่างหน้าการใช้งานฟีเจอร์บนแอป orbix


“Trustworthy” – น่าเชื่อถือและไว้ใจได้

  1. เปิดเผยข้อมูลและโปร่งใส (Transparency) – orbix ให้ความสำคัญและจัดให้มีการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินการของบริษัทฯ ตามที่หน่วยงานกำกับกำหนด รวมถึงมีการจัดทำรายงาน Proof of Reserve เป็นรายเดือน เพื่อสร้างความมั่นใจและความโปร่งใสให้กับนักลงทุน
  2. การคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่รัดกุม (Prudent Product Selection) – orbix มีกระบวนการคัดเลือกเหรียญตามเกณฑ์ ก.ล.ต. โดย orbix มีแผนในการเพิ่มเหรียญใหม่ๆ ที่มีคุณภาพเข้าสู่กระดานซื้อขาย (List) แต่ในขณะเดียวกันก็มีการทบทวนคุณสมบัติของเหรียญในกระดานซื้อ ขายอย่างสม่ำเสมอ หากเหรียญใดไม่ผ่านเกณฑ์ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อนักลงทุนก็จะมีการพิจารณานำออกจากกระดาน (Delist) โดยมีการพิจารณาทุกๆ 1 ปี
  3. การให้ความรู้แก่นักลงทุน (Investor Education) – orbix เชื่อว่าการให้ความรู้นักลงทุนด้านสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญ มีการใช้วิธี ‘Gamification’ เข้ามาช่วยให้การให้ความรู้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย โดยมีการสร้างระบบ ‘Kryptonian Test’ ขึ้นมาให้นักลงทุนตอบแบบสอบถามเพื่อหาตัวตนว่าตนเองเป็นนักลงทุนสไตล์ไหนใน 4 ประเภท เมื่อทำแบบทดสอบแล้วจะได้รับภาพประจำตัวจาก 4 ศิลปินชื่อดังเป็นของรางวัล

Kryptonian Test แบบสอบถามเพื่อค้นหาว่าคุณเป็นนักลงทุนสไตล์ไหนใน 4 ประเภท

ดร.กรินทร์กล่าวว่า orbix ต้องการจะตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความน่าไว้วางใจเป็นหลัก ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็น ‘กลุ่มใหม่’ ที่ยังไม่เคยเข้ามาเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ผ่านมากลุ่มนี้ไม่ใช่คนที่รับความเสี่ยงด้านความผันผวนของสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้ แต่ยังไม่ลงทุนเพราะยังไม่ไว้วางใจในผู้ให้บริการ

“เราเชื่อว่ากลุ่มลูกค้าที่จะเข้ามาใหม่จะเป็นคนละกลุ่มกับที่มีในตลาด กลุ่มนี้จะต้องการความมั่นใจ ความน่าเชื่อถือ ก่อนที่จะเข้ามาลงทุน รวมถึงเราคาดว่าจะได้ลูกค้าจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันด้วย” ชาญวิทย์กล่าวเสริม


เป้าหมายปี 2567 จำนวนผู้ใช้ขอเติบโต “10 เท่า”

ด้านเป้าหมายในการดำเนินการ เป้าระยะสั้นปี 2567 นี้ชาญวิทย์คาดหวังว่า orbix จะเติบโตทั้งจำนวนผู้ใช้งานและรายได้

โดยจำนวนผู้ใช้งานฐานเดิมของ Satang Pro มีอยู่ราว 500,000 คน เชื่อว่าหลังจากนี้ลูกค้าเดิมจะทยอยกลับมาใช้งาน และ orbix จะเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานรายใหม่อีก 10-15% ผ่านการจัดโปรโมชันต่างๆ เช่น ผู้ใช้งานใหม่มีสิทธิได้รับ Cash Back รวมสูงสุด 700 บาทจากแคมเปญ ‘Welcome to orbix’ และแคมเปญ ‘Kryptonian Deposit Bonus’ รวมไปถึงมีการเปิด ‘Kryptonian Referral Program’ ให้ผู้แนะนำและผู้ถูกแนะนำมีสิทธิรับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมจากการขายดิจิทัลโทเคน และมีการสร้างลอยัลตี้ต่อแพลตฟอร์มด้วยโปรแกรม OBX Reward Point ให้ผู้ใช้สามารถสะสมพอยต์จากการใช้งานเพื่อนำมาแลกของรางวัลพิเศษได้

ชาญวิทย์กล่าวว่า ในด้านของ ผู้ใช้งานประจำในแต่ละวัน (Daily Active Users) orbix ตั้งเป้าถึงสิ้นปีนี้จะเพิ่มจำนวนการเติบโต 10 เท่า

ด้านรายได้ของ orbix ก็จะต้องเติบโตสอดคล้องกับการใช้งาน โดยในปีนี้ orbix ตั้งเป้ารายได้เติบโตอย่างน้อย 6 เท่า

ส่วนเป้าหมายระยะกลางของบริษัทฯ ชาญวิทย์มองว่า ภายใน 3 ปี orbix จะขอขึ้นเป็น Top 3 กระดานเทรดคริปโตในไทยให้ได้ ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ใช้และปริมาณการเทรดต่อวัน


‘Bitcoin ETF’ และ ‘Bitcoin Halving’ ปลุกตลาดกลับมาฮอต

ในแง่สภาวะตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล นอกจากสกุลเงิน Bitcoin ที่มูลค่ากลับมาเติบโตตั้งแต่ต้นปี 2567 จะปลุกตลาดให้คึกคักแล้ว ชาญวิทย์ระบุว่ายังมีอีกหลายปัจจัยที่จะเสริมให้ตลาดการเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลกลับมา ได้แก่

  1. Bitcoin ETF – ได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. สหรัฐฯ ทั้งหมด 11 กอง มูลค่ารวมประมาณ 100,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันไหลเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น
  2. Bitcoin Halving – อัตราการเกิดของ Bitcoin ใหม่จะลดลงครึ่งหนึ่งในทุก ๆ 4 ปี ซึ่งเกิดการ Halving ไปเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา
  3. Ethereum ETF – มีความเป็นไปได้ที่จะได้รับอนุมัติจาก ก.ล.ต. สหรัฐฯ ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งจะช่วยเสริมแรงเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนสถาบันอีกทางหนึ่ง
  4. ประเทศไทยมีนโยบายศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลของภูมิภาค (Digital Asset Hub) ทำให้มีมาตรการส่งเสริม เช่น การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Dealer) ที่ได้รับใบอนุญาตในประเทศไทย
  5. คณะกรรมการ ก.ล.ต. ของไทย มีมติเห็นชอบ ปรับหลักเกณฑ์ให้นักลงทุนรายใหญ่พิเศษและนักลงทุนสถาบัน สามารถลงทุนใน Bitcoin ETF ผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนได้

“เราเชื่อว่ากลุ่มที่กล้าเสี่ยงมากที่สุดน่าจะเข้ามาเทรดกันหมดแล้ว ที่จะเข้ามาต่อจากนี้คือกลุ่ม ‘เงินใหม่’ ที่เทรดคริปโตเป็นครั้งแรก และกลุ่ม ‘เงินใหญ่’ ซึ่งต้องการลงทุนระยะยาว orbix จะตอบโจทย์พวกเขาเหล่านี้ได้ด้วยการสร้างความเชื่อมั่น น่าไว้วางใจด้วยการทำงานระดับ ‘bank grade’ ในฐานะบริษัทลูกของ ยูนิต้า แคปิทัล จำกัด ภายใต้กลุ่มสถาบันทางการเงิน ธนาคารกสิกรไทย

]]>
1470857
“เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์” รีแบรนด์ใหญ่ในรอบ 18 ปี สู่ “เซ็ปเป้ บิวติ” ผู้นำเทรนด์การสื่อสาร Beauty Standard ใหม่ ที่มองว่า “ความหลากหลาย” คือ “ความสวย” https://positioningmag.com/1470674 Tue, 23 Apr 2024 09:00:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1470674

ตลาดเครื่องดื่มในประเทศไทยมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมากขึ้นทุกปี เนื่องจากมีผู้เล่นรายใหม่ๆ ในตลาด อีกทั้งยังแข่งขันเรื่องโปรโมชั่นกันอย่างรุนแรง ผู้เล่นในตลาดจึงต้องแข่งขันกันด้วยเรื่องของแบรนด์ดิ้ง รวมไปถึงชูเรื่องฟังก์ชันนอลของสินค้า เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น

แต่ถ้าพูดถึงตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนอล ดริ้งค์ จะไม่พูดถึง “เซ็ปเป้” หรือบริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) เลยคงไม่ได้ เพราะเป็นหนึ่งในผู้นำตลาด และเป็นผู้สร้างกระแสเครื่องดื่มฟังก์ชันนอล ดริ้งค์ในประเทศไทย ซึ่งแบรนด์ได้ทำตลาดมา 18 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2558 และครองใจผู้บริโภคมาแล้วหลายเจนเนอเรชั่น

ในปีนี้เซ็ปเป้ถือโอกาสฉลองครบรอบ 18 ปี ด้วยการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ จาก “เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์” (Sappe Beauti Drink) สู่ “เซ็ปเป้ บิวติ” (Sappe Beauti) นับเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ในการเปลี่ยนทั้งชื่อแบรนด์, Brand Mission และแพ็คเกจจิ้ง เพื่อต้องการสร้างอาณาจักรบิวติที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่เครื่องดื่มอีกต่อไป

อีกทั้งเซ็ปเป้ บิวติ ยังต้องการเป็น Trend Setter ในการสื่อสารเรื่อง Beauty Standard แบบใหม่ ว่าความหลากหลายคือ ความสวยที่แท้จริง ซึ่งไม่จำเป็นต้องสวยตาม Beauty Standard ของสังคมที่จะต้องขาว ผอม หุ่นดี แต่ทุกคนสวยได้ในแบบของตัวเอง โดยได้อินไซต์จากผู้บริโภคในยุคนี้ที่รักตัวเองในแบบที่เป็นตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องสวยตามแบบมาตรฐานของคนทั่วไป โดยที่เซ็ปเป้จะเป็นผู้สนับสนุนความสวยนั้นเอง

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE กล่าวว่า

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เซ็ปเป้เดินหน้าคิดค้นและพัฒนาสูตรเครื่องดื่มเซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแตกต่างด้วยการใส่นวัตกรรมรูปแบบใหม่ๆ ในเครื่องดื่ม เพิ่มคุณประโยชน์ที่หลากหลาย ในรสชาติที่อร่อย ผสานความสดชื่นอย่างลงตัว เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคอย่างตรงจุด จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และยังครองความเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความสวยมายาวนานต่อเนื่อง 18 ปี

ในปีนี้เซ็ปเป้ก้าวไปอีกขั้นสู่การเป็นแบรนด์เครื่องดื่มที่เข้าใจผู้บริโภค Gen Z ด้วยการปรับโฉมรีแบรนด์ครั้งสำคัญจาก เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ สู่การเป็น “เซ็ปเป้ บิวติ” อย่างเป็นทางการ พร้อมต่อยอดสู่การเป็นแบรนด์เพื่อสุขภาพและความสวยที่จะตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้นในหลากมิติ โดยออกสตาร์ทด้วยแคมเปญ สวยเรา ไม่ต้องสวยใคร”

แคมเปญ “สวยเรา ไม่ต้องสวยใคร” เป็นแคมเปญทางการตลาดที่สื่อสารเพื่อเข้าถึงกลุ่ม Gen Z โดยหยิบยกประเด็นร้อนในสังคมอย่างเรื่องมาตรฐานความสวย (Beauty Standard) มาบอกเล่าในมุมมองใหม่ ผ่านโปรเจค The Rejected Casts ภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่สร้างจากเรื่องจริงของกลุ่ม Gen Z หลากหลายเพศ จำนวน 7 แคสต์ ผ่านการให้สัมภาษณ์ถึงประสบการณ์ตรงและเหตุผลที่ไม่ผ่านแคสต์ติ้งงานโฆษณา

ซึ่งล้วนเป็นเพราะรูปร่าง สีผิว ใบหน้า ดวงตา และรอยยิ้มที่ไม่ตรงตามพิมพ์นิยม ก่อนจะเฉลยว่าทุกคนผ่านการแคสต์งานในครั้งนี้ และได้ร่วมเป็นตัวแทนความสวยในแบบฉบับของตัวเองที่ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับใครของแบรนด์เซ็ปเป้ บิวติ เพื่อสื่อถึงการให้คุณค่ากับทุกความสวย พร้อมฉีกค่านิยมความสวยในกรอบเดิมๆ ของสังคม ด้วยการให้โอกาสนักแสดงที่เคยถูกปฏิเสธงานมามากมาย เพียงเพราะพวกเขาสวยไม่ตรงตามมาตรฐานความสวยที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบ

นางสาวปิยจิต เสริมอีกว่า “แต่เดิมเซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์วางจุดยืนเป็นเครื่องดื่มฟังก์ชันนอล ดริ้งค์ที่ขายฟังก์ชันนอลเป็นหลัก เช่น สูตรที่ดื่มแล้วขาวอมชมพู สูตรที่ดื่มแล้วสวย สูตรที่ดื่มแล้วหุ่นดี แต่ตอนนี้เราเข้าใจผู้บริโภค และ Beauty Standard ที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย”

และเพื่อให้โดนใจกลุ่ม Gen Z มากยิ่งขึ้น เซ็ปเป้ บิวติ ยังเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ดีไซน์ใหม่ล่าสุด ซึ่งได้นักออกแบบชื่อดังที่กวาดรางวัลด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์มาแล้วทั่วโลก มารับหน้าที่ดีไซน์ฉลากบรรจุภัณฑ์ใหม่ทั้ง 4 รสชาติ ในคอนเซ็ปต์ “โอบกอดตัวเอง (Embrace Yourself)” ที่นำดอกไม้ที่มีความหมายสื่อถึงความรักที่ให้กับตัวเอง มาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบ ได้แก่

  • สูตรคอลลาสกิน (Collaskin) ขวดสีชมพู ใช้ดอกคาเนชั่นแทนสัญลักษณ์ของความรักอย่างบริสุทธิ์ใจ
  • สูตรเอส-ลิม (S-lim) ขวดสีเขียวอ่อน ใช้ดอกลิลลี่แทนสัญลักษณ์ของความรักอย่างอ่อนหวาน อ่อนโยน
  • สูตรบิวติท็อกซ์ (Beautitox) ขวดสีเขียวเข้ม ใช้ดอกทานตะวันแทนสัญลักษณ์แห่งความรักที่ให้กำลังใจ
  • สูตรบิวติ อายส์ (Beauti Eyes) ขวดสีแดง ใช้ดอกเบญจมาศแทนสัญลักษณ์ของความรักที่มีชีวิตชีวา สดใส

ซึ่งช่วยสะท้อนตัวตน และความชื่นชอบของกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในแต่ละลายจะมีการสอดแทรกรูปการ์ตูนของคนที่มีความหลากหลายทั้งรูปร่าง เพศ และสีผิวเอาไว้บนฉลาก เพื่อให้สอดคล้องกับภาพรวมของแคมเปญอีกด้วย

“เพราะความสวยคือความหลากหลาย เซ็ปเป้ บิวติ จึงอยากจุดประกายมุมมองเรื่องความสวยในรูปแบบใหม่ พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม เพื่อให้คนรุ่นใหม่มีความมั่นใจในตัวเอง มีความรักตัวเอง (Self-Love) ตลอดจนกล้าที่จะเป็นตัวเองให้เต็มที่ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนสามารถเปล่งประกายความสวยในแบบของตัวเองได้อย่างเท่าเทียมกัน” นางสาวปิยจิต กล่าวเพิ่มเติม

สัมผัสกับเครื่องดื่ม เซ็ปเป้ บิวติ โฉมใหม่ ทั้ง 4 รสชาติ ได้แล้ววันนี้ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทุกสาขา และร้านค้าทั่วไปทั่วประเทศ ในราคา 20 บาท หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ Line: @sappeonline และShopee: Sappe Official Store หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Sappe Beauti Drink และ Tiktok: Sappeonline

]]>
1470674
ชิม ช้อป ให้ฉ่ำ..ชื่นใจ กับ ของดีและสินค้าชุมชนรอบพื้นที่จัดงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” https://positioningmag.com/1469724 Sat, 13 Apr 2024 03:53:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469724

อีกครั้งกับ  “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” กับปีที่ 9 ที่มาพร้อมกับแนวคิด เย็นฉ่ำ  ชื่นใจ ครอบคลุมพื้นที่ใน 6 จังหวัด 4 ภูมิภาคของประเทศไทย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ลำพูน อุดรธานี ขอนแก่น และภูเก็ต นอกจากจะร่วมกันสืบสานวัฒนธรรม “บอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก”แล้ว ยังร่วมภาคภูมิใจในโอกาสที่ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ไทย” เป็นตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ  ครั้งที่ 18 ณ เมืองคาเซเน สาธารณรัฐบอตสวานา อีกด้วย

ซึ่งในงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” ทุกๆ ปี จะเชื่อมโยงกับชุมชนที่มีความโดดเด่นเชิงศิลปวัฒนธรรมที่แตกต่างกันแต่ละภูมิภาค เป็นศูนย์รวมของความเชื่อและศรัทธา ความกลมเกลียวและสันติภาพของชุมชนพหุวัฒนธรรม ภายใต้หลักการของ บวร ยกกำลังสอง ได้แก่ บ้าน วัด โรงเรียน และร่วมสนับสนุนโดยบริษัท วิสาหกิจเพื่อชุมชนและราชการ จะเห็นได้ว่านอกเหนือจากความโดดเด่นและอัตลักษณ์ในท้องถิ่นแล้ว ของดี ของเด็ด ของชุมชนรอบสถานที่จัดงาน ก็จะถูกนำมารวมกันไว้อวดสายตานักท่องเที่ยว  ที่จะอดไม่ได้ในการช้อป ชิม แชะ แชร์ ต่อจนทำให้เห็นว่า ถ้ามาที่นี่ต้องได้ชิมและมีของพื้นถิ่นติดไม้ติดมือกลับไปอย่างแน่นอน

เริ่มต้นที่เชียงใหม่และลำพูน ภาคเหนือ ของไทยในงานจะมี กาดหมั้วครัวฮอม และกาดสล่าล้านนา พร้อมด้วยอาหารพื้นเมืองดั้งเดิมและร่วมสมัยจากชุมชน มาออกร้านให้เลือกอย่างหลากหลาย ที่ขาดไม่ได้คือ ลาบเหนือ แกง/ตำขนุน เป็นต้น  นอกจากนั้นสายช้อปยังจะได้พบกับ สินค้างานคราฟท์  ผ้าทอล้านนา เครื่องประดับจากดิน อิ่มท้องแถมยังมือของติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างชื่นใจ  หรือจะเป็นภาคอีสาน อย่างที่ขอนแก่นและอุดรธานี ต้องมีของท้องถิ่นกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นผ้าทอ งานฝีมือ และอาหารรสจัด แซ่บนัวแบบต้นตำหรับอย่างส้มตำและข้าวปุ้น แซ่บสุดอย่าบอกใคร  ปิดท้ายที่ภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต ของเด็ดๆ คือ งาน Handmade และงานอาร์ต ที่มารวมตัวกันที่  สี่แยกชาเตอร์ และห้ามพลาด กับสับปะรด ภูเก็ต เย็นฉ่ำ..ชื่นใจ แน่นอน ส่วนในพื้นที่ กทม. ใจกลางกรุง ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่มีมูลค่าสูง ในทุกๆ พื้นที่จัดงาน แต่ก็เปิดโอกาสให้ชุมชนรอบๆ วัดอารามหลวง ทั้ง 5 แห่ง อันได้แก่  วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ได้มาออกร้านสร้างรายได้ โดยไม่คิดค่าพื้นที่ ซึ่งคนที่มาเที่ยว จะได้เห็นของกินและย้อนวันวานไปในวัยเด็ก ได้อุดหนุนของที่หาทานยากในปัจจุบัน  แต่ก็จะรวมไว้ในงานนี้

แม้จะเป็นระยะเวลาในการจัดงานเพียงไม่กี่วัน แต่การจัดงาน Water Festival ทั้ง 6 พื้นที่ มาสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยในปี  2566  ที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน กว่า  2.61 ล้านบาท

ร่วมเฉลิมฉลองปีใหม่ไทยแบบเย็นฉ่ำชื่นใจ เสริมสิริมงคล พร้อมอุดหนุน ของดีของเด็ดได้ในทุกพื้นที่จัดงาน พร้อมทั้งสืบสาน รักษา ต่อยอด ประเพณีไทยรวมถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่น ใกล้ที่ไหน เที่ยวที่นั่น กับงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย”  เย็นฉ่ำ  ชื่นใจ   ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Water Festival Thailand

]]>
1469724
“GULFxGDH Family Power หลานม่า พาความคิดถึงกลับบ้าน” https://positioningmag.com/1469587 Wed, 10 Apr 2024 13:00:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469587
  • กัลฟ์ จับมือ GDH จัดแคมเปญ “Family Power หลานม่า พาความคิดถึงกลับบ้าน”
  • เพราะสำหรับทุกครอบครัว เวลาคือสิ่งมีค่าและสำคัญเสมอ GULF ในฐานะผู้ผลิตพลังงานชั้นนำของประเทศ จึงจัดรถบัส EV พลังงานไฟฟ้า เพื่อส่งต่อพลังงานสู่พลังครอบครัว ให้รถรับ-ส่ง ผู้โดยสารกลับบ้านไปหาครอบครัวฟรี โดยมี MRT ร่วมสนับสนุน จุดปล่อยรถ
  • รถบัส EV “Family Power” ให้บริการในระหว่างวันที่ 5,6,7 และ 10,11,12 เม.ย. 2567 ณ จุดรับบริเวณลานจอดรถ MRT สามย่าน (วัดหัวลำโพง) เพื่อไปส่งยัง 4 สถานีปลายทาง คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต2), สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) สถานีขนส่งผู้โดยสาร สายใต้ใหม่ (ตลิ่งชัน) และสถานีขนส่งสายตะวันออกกรุงเทพฯ(เอกมัย)

  • โดยมี คุณจินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้าจำกัด , คุณพัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผู้กำกับภาพยนตร์ “หลานม่า” พร้อมด้วย คุณธนญ ตันติสุนทร Executive Officer บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) และ คุณพรรณวิภา บูรณดิลก ผู้อำนวยการส่วนการตลาดอาวุโส บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด ( BMN) มาร่วมคิกออฟ ปล่อยรถรับส่งพลังงานไฟฟ้าพาผู้โดยสารกลับบ้านฟรีเมื่อวันก่อน
  • คุณจินา โอสถศิลป์ ตัวแทนจาก GDH กล่าวถึงความรู้สึกในกิจกรรมวันนี้ว่า “ภาพยนตร์เรื่องหลานม่า เป็นภาพยนตร์อบอุ่น พูดถึงเรื่องความผูกพันในครอบครัว เราเชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้ผู้ชมทุกคน อยากกลับไปกอดใครสักคนที่บ้าน จากจุดเริ่มต้นตรงนี้เราโชคดีมากๆ ที่ได้ GULF มา Make it Happen ทำให้แคมเปญดีๆ เกิดขึ้นจริง”
  • สำหรับ คุณธนญ ตันติสุนทร ตัวแทนจาก GULF กล่าวว่า “เราพร้อมสนับสนุนส่งเสริมพลังหนังไทยนะครับ โดยเฉพาะภาพยนตร์หลานม่า ถือเป็นหนังดีๆที่ทำให้ผู้ชมเกิดความสุขและอยากกลับไปใช้เวลาที่มีความหมายกับครอบครัว การได้ทำแคมเปญ Power Family หลานม่า พาความคิดถึงกลับบ้าน จะเสริมทั้งพลังหนังไทย เสริมพลังครอบครัว สร้างพลังดีๆให้กับสังคม ยินดีที่ได้ทำแคมเปญที่เป็นประโยชน์ในช่วงวันหยุดสำคัญของคนไทยในช่วงนี้ครับ”
  • ด้าน คุณพรรณวิภา บูรณดิลก ตัวแทนจาก BMN กล่าวว่า “ MRT มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมของภาพยนตร์หลานม่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ลานจอดรถ MRT สามย่าน จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการรับส่งความรักและความคิดถึงของทุกคนกลับไปหาครอบครัวอันเป็นที่รักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้ค่ะ”
  • กลับไปชวนคนที่บ้านมาใช้เวลาร่วมกันกับ “หลานม่า” 4 เมษายนนี้ พร้อมหน้าพร้อมตากันในโรงภาพยนตร์ #GULF #GulfSPARK #หลานม่า #FamilyPower
]]>
1469587
ปั่นไปรอบกรุง ชมบรรยากาศบ้านเรือน ผู้คน และจุดเช็ค พอยท์ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย เย็นฉ่ำ ชื่นใจ https://positioningmag.com/1469406 Wed, 10 Apr 2024 03:56:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469406

การได้ใช้เวลาอย่างค่อยเป็น ค่อยไป ช้าบ้าง เร็วบ้าง พอสมควร พร้อมๆ กับเรียนรู้ วิถีชีวิต และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในมุมมองที่แตกต่าง ถือเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจ ที่ทำให้คนรักการปั่นจักรยาน ไม่สามารถละสายตา และวางสองขาที่กำลังปั่นให้จบลงได้ง่ายๆ นอกจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของคนปั่น จะได้รับประสบการณ์ตรงแล้ว ยังถือเป็นการฮีลกาย ฮีลใจ อีกวิธี จนบางกรณีก็ลืมอากาศที่ร้อนระอุลงไปได้ โดยเฉพาะการได้รับรอยยิ้มและมิตรภาพที่ได้จากผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาทั้งสองข้างทาง

และจากเหตุผลต่างๆ นี้เองทำให้กลุ่มนักปั่นรวมไปถึงคนที่ปรับประยุกต์นำพลังงานทางเลือกอย่างสกูตเตอร์ไฟฟ้า มักจะมารวมตัวและร่วมทริปไปกับทีม Jamming Thailand ซึ่งจะมีการจัดเส้นทางจักรยานที่น่าสนใจหลากหลายเส้นทาง เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชนในย่านต่างๆ  โดยเฉพาะทางฝั่งเมืองเก่าย่านพระนครและฝั่งธนบุรี ที่มีทั้งสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์  และ ร้านเด็ดเจ้าดังอันเก่าแก่ ให้ได้แว่ะอุดหนุนกันมากมาย

นอกจากทริปที่ลัดเลาะตามจุดเช็คอินที่น่าสนใจแล้วทีม Jamming Thailand  ยังได้ร่วมกับผู้จัดงาน “Water Festival เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย  และ River Festival  เทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรม” จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทุกๆปี อย่างเช่นในปี 2023 ที่ผ่านมา ทีม Jamming Thailand  ได้ร่วมจัดกิจกรรม Bike tour ปั่นเพลินวิถีไทย เที่ยวชุมชน โดยพลังงานสะอาด ด้วยการปั่นจักรยานและใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้า  สัมผัสวิถีชุมชนเก่า กะดีจีน – พระนครเมืองเก่า เส้นทางประวัติศาสตร์หลากหลายวัฒนธรรม ขึ้นเรียกได้ว่าสร้างความสนุกสนาน และการเรียนรู้ให้กับผู้ร่วมทริปในมุมมองที่น่าสนใจที่แตกต่างออกไป

ส่วนในงาน “Water Festival 2024  เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย  เย็นฉ่ำ  ชื่นใจ” ในปีนี้  ทีม Jamming Thailand ก็ได้มีจัดทริปวาง Routing และจุดเช็คอินที่น่าสนใจ ซึ่งตรงกับสถานที่จัดงานหลายแห่ง  อาทิเช่น ทริปที่ตรงกับการจัดงานในวันแรก  (13 เมษายน)  จะมีการเดินทางผ่านและแวะเชคอินที่ กะดีจีน – พระนครเมืองเก่า วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร และศาลเจ้ากวนอู เป็นต้น หรือในวันที่ 14 เมษายน ได้มีจุดเช็คอินที่เป็นพื้นที่จัดงานหลายแห่ง เช่น วัดระฆัง ท่ามหาราช วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ จนไปจบที่พื้นที่ใหม่ล่าสุดในการจัดงานนั่นก็คือ คลองโอ่งอ่าง – สะพานหัน วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร โดยทั้งสองทริป จะมีการสลับระหว่างการปั่นและโดยสารทางเรือเป็นระยะ สร้างสีสัน และประสบการณ์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง สำหรับใครที่สนใจจะร่วมทริปดังกล่าว สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสอบถาม ได้ที่ Facebook page : Jamming Thailand Tours

ส่วนใครที่ผ่านไปผ่านมาหรือแว่ะเที่ยวงาน Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย เย็นฉ่ำ ชื่นใจ” ในระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน 2567 ที่จัดขึ้นพื้นที่กรุงเทพมหนานคร และพบปะกับทริปของกลุ่ม Jamming Thailand  ก็สามารถโบกมือทักทาย ให้กำลังใจกับกลุ่มนักปั่นทั้งหลายได้เช่นกัน

นอกจากนั้น งาน “Water Festival 2024 ยังจัดพร้อมกัน ทั้ง 4 ภาค 6 จังหวัด ได้แก่ ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดลำพูน ภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี และ จังหวัดขอนแก่น และภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต ใกล้ที่ไหน เที่ยวที่นั่น  ให้เย็นฉ่ำ ชื่นใจ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Water Festival Thailand   

]]>
1469406
เมื่อ MUJI สยายปีกสู่ภาคใต้ เปิดสาขาแรกที่ “เซ็นทรัล หาดใหญ่” ตอกย้ำ Lifestyle Destination ตัวจริง https://positioningmag.com/1469477 Tue, 09 Apr 2024 11:38:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469477

หาดใหญ่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของภาคใต้ เรียกได้ว่าเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจก็ไม่มีผิด แถมยังเป็นอีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์ที่ทางเซ็นทรัลพัฒนา เลือกเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ และประเดิมปี 2567 เซ็นทรัล หาดใหญ่ได้ฤกษ์เปิด MUJI สาขาแรกของภาคใต้ เป็นการตอกย้ำภาพการเป็น Lifestyle Destination ตัวจริงเสียงจริง

MUJI เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น มีสินค้าให้เลือกหลากหลายทั้งกลุ่มเสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน ของตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง และอื่นๆ อีกมากมาย หลายคนติดใจ และชื่นชอบ MUJI ด้วยความที่เป็นแบรนด์ที่สินค้ามีดีไซน์ที่เรียบง่าย และอัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันจริงๆ

ก่อนหน้านี้ MUJI เลือกที่ขยายสาขาในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ แต่เปิดต้นปี 2567 MUJI ได้เปิดสาขาใหม่ล่าสุดเรียกว่าเป็นสาขาแรกในโซนภาคใต้เลยก็ว่าได้ ได้เปิดสาขาที่ 35 ในประเทศไทย ปักหมุดที่ “เซ็นทรัล หาดใหญ่” ศูนย์การค้าแห่งเดียวในจังหวัดสงขลาที่ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง และตลาดท้องถิ่น รองรับความต้องการของนักช้อปทั้งในอำเภอหาดใหญ่ ตัวเมืองจังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียง

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“จังหวัดสงขลามีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภาคใต้ โดยสถิติล่าสุด ระบุว่า มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด หรือ GPP คิดเป็น 243 ล้านบาท รายได้ต่อหัวของจังหวัดประมาณ 145,000 บาท/คน/ปี (จากประชากรปัจจุบัน 1.43 ล้านคน) ถือเป็นเมืองเศรษฐกิจอันดับ 14 ของประเทศและเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้  ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียในสัดส่วนสูงที่สุดของประเทศ เปรียบเสมือนศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคใต้ การเปิด MUJI แห่งแรกในภาคใต้ที่เซ็นทรัล หาดใหญ่ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำศักยภาพของเซ็นทรัล หาดใหญ่ในการเป็นแลนด์มาร์คสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียอีกด้วย”

MUJI เซ็นทรัล หาดใหญ่ ออกแบบและตกแต่งภายใต้แนวคิดดั้งเดิมของ MUJI คือเรียบง่าย เป็นธรรมชาติ ผสมผสานกลิ่นอายของวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วยบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น แบ่งสัดส่วนของประเภทสินค้าอย่างเป็นระเบียบ และครบครันไปด้วยสินค้า MUJI มากมายให้เลือกสรรกว่า 3,000 รายการ

เริ่มด้วย โซนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ที่อยากให้ชาวใต้ได้ลองเครื่องแต่งกายสไตล์เบสิกสไตล์ MUJI ที่มิกซ์แอนด์แมทช์ได้กับไอเท็มตัวโปรด มาพร้อมไฮไลท์ คอลเลคชัน Spring/Summer 2024 ในสไตล์และสีสันที่หลากหลาย พร้อมกันนี้ยังมีเครื่องประดับต่างๆ เช่น กระเป๋า รองเท้า ถุงเท้า หมวก ให้เลือกช้อปอีกมากมาย ถัดมากับ โซนเครื่องใช้ในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน เอาใจคนรักบ้าน รวบรวมสินค้าจำเป็นสำหรับห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่นอุปกรณ์ทำความสะอาด กล่องและอุปกรณ์เอนกประสงค์จัดระเบียบบ้านทุกรูปแบบ พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านที่โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบง่ายและปราณีต พร้อมฟังก์ชันตามมาตรฐานประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์เครื่องเขียนและสำนักงาน ตอบโจทย์นักเรียน นักศึกษา และพนักงานออฟฟิศ ราคาเริ่มต้นหลักสิบ

และเอาใจคนรักการท่องเที่ยวกับ MUJI to GO อุปกรณ์สำหรับการเดินทาง รวบรวมอุปกรณ์จำเป็น ที่มอบความสะดวกสบายให้กับการเดินทางในทุกๆ รูปแบบ ต่อด้วยโซน Health & Beauty ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ผิวกาย และเส้นผม รวมไปถึงอุปกรณ์แต่งหน้า, เครื่องสำอาง และเครื่องหอมอโรม่าหลากหลายกลิ่น ที่โดดเด่นด้วยส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติ และปราศจากสารเคมี พร้อมกันนี้ยังมี โซนขนมและอาหารสำเร็จรูปจาก MUJI แบบจัดเต็ม เช่น เค้กบามคูเฮน, ชอคโกแลตเคลือบสตรอวเบอร์รี, ขนมปังโดรายากิ, ปลาแฮร์ริงอบแห้ง และขนมญี่ปุ่นรสชาติอร่อยอีกมากมาย

ที่สำคัญ ห้ามพลาดไฮไลท์! เอาใจคาเฟ่ ฮอปเปอร์กับ MUJI Coffee Corner บริการเครื่องดื่มกาแฟ และอีกมากมาย ราคาเริ่มต้นเพียง 60 บาท พร้อมเสิร์ฟขนมเค้กและของหวานสไตล์ญี่ปุ่น เริ่มต้น 49 บาทเช่น พุดดิ้งรสนม (ราคา 49 บาท), มินิ ทีรามิสุ (ราคา 69 บาท), ขนมฟุวะ ฟุวะ (ราคา 69 บาท), มินิ ชีสเค้ก (ราคา 69 บาท) และอีกมากมาย พร้อมกันนี้ ยังมีจำหน่ายไอศกรีมแบบถ้วย 9 รสชาติ ราคา 49 บาท ให้ชาวหาดใหญ่ได้สัมผัสรสชาติความอร่อยอย่างจุใจ

นอกจาก MUJI แล้วภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ ยังพร้อมเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตด้วยพันธมิตรร้านค้าและแบรนด์ชั้นนำ ที่ยกทัพมามอบประสบการณ์การช้อปปิ้งหลากหลายครบทุกมิติอาทิ MLB, GENTLE WOMAN, CHARLES & KEITH, LYN, LEVI’S, MC JEANS, YUEDPAO, ADIDAS ORIGINAL, THE NORTH FACE, CROCS และอีกมากมาย

ร่วมสัมผัสประสบการณ์ไลฟ์สไตล์เต็มรูปแบบจาก MUJI ครั้งแรกในภาคใต้ ที่ร้าน MUJI CENTRAL HATYAI ชั้น 1 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตที่หลากหลายได้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งเดสติเนชั่นใจกลางแหล่งท่องเที่ยวแห่งแรกและแห่งเดียวในจังหวัดสงขลา

]]>
1469477
Water Festival 2024 ชวนร่วมงานเทศกาลสงกรานต์ไทย เที่ยวอย่างสนุก พร้อมชวนสร้างสรรค์ VLOG Walking Tour แบบ เย็นฉ่ำชื่นใจ ไทยทั่วหล้า ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 9,000 บาท 13-15 เมษายน นี้ https://positioningmag.com/1469400 Mon, 08 Apr 2024 04:00:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469400

งาน Water Festival 2024  จัดขึ้น 6 จังหวัด 4 ภาคทั่วไทย ภาคกลาง ที่กรุงเทพมหานคร, ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ณ บ้านโบราณเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน ณ บริเวณถนนเจริญราษฏร์และถนนอินทยงยศ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี ณ ลานวัฒนธรรมมรดกโลกบ้านเชียงและที่จังหวัดขอนแก่น ณ วัดไชยศรี ต.สาวะถี และที่ภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต ณ วัดไม้ขาว และ สี่แยกชาร์เตอร์ รวบรวมหลาหลายกิจกรรมไว้ในงานเดียวให้ชาวไทยได้ “เย็นฉ่ำ ชื่นใจ” ใกล้ที่ได้ เที่ยวที่นั่น และอย่าลืมถ่าย Vlog รีวิวเพื่อชิงรางวัลรับปีใหม่ไทย

รางวัล VLOG Walking Tour : เที่ยวเทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย เย็นฉ่ำชื่นใจ ไทยทั่วหล้า

  • รางวัลชนะเลิศ จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล 5,000 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศ จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล 3,000 บาท
  • รางวัลชมเชย จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล 1,000 บาท

กติกาและเงื่อนไขการร่วมประกวด

  •  ผู้เข้าร่วมประกวด ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย
  •  ถ่ายคลิป VLOG รีวิวความสุขแบบเย็นฉ่ำชื่นใจ การท่องเที่ยวงาน Water Festival 2024 ความยาวไม่เกิน 2 นาที โดยในคลิปจะต้องกล่าวถึงชื่องาน “Water Festival 2024 เย็นฉ่ำชื่นใจ” และภาพ Logo งาน Water Festival 2024 อยู่ในคลิป
  • และ Post ลง Social Media ส่วนตัว Facebook Instagram หรือ Tiktok (เปิดเป็นสาธารณะ) พร้อมใส่ Hashtag #WaterFestivalThailand #เทศกาลวิถีน้ำวิถีไทย #เย็นฉ่ำชื่นใจ
  • ผู้เข้าประกวด จะต้องลงทะเบียนและส่งลิงค์ผลงานเข้าร่วมการประกวดที่ >> https://shorturl.at/hxzW1
  • กำหนดให้ 1 บัญชีผู้ใช้งาน มีสิทธิ์ได้รับรางวัลสูงสุดเพียงรางวัลเดียวเท่านั้น
  • ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดต้องกดติดตาม Facebook : @Water Festival Thailand

**คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

  • เปิดรับสมัครและส่งผลงาน : 13 –  15 เมษายน 2567  และปิดรับผลงาน : 15 เมษายน 2567 (18.00 น.)
  • ประกาศผล : 18 เมษายน 2567

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Water Festival Thailand

#WaterFestivalThailand #เทศกาลวิถีน้ำวิถีไทย #เย็นฉ่ำชื่นใจ #เที่ยวสงกรานต์ #VlogWalkingTour

]]>
1469400
“พี่สอนน้อง” ต่อยอดเยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม กับการสร้างสรรค์การโปรโมทการท่องเที่ยวบน Platform online https://positioningmag.com/1469377 Sat, 06 Apr 2024 18:33:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469377

ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม และเรื่องราวอัตลักษณ์ประจำท้องถิ่น หากมีการปลูกฝัง หยั่งรากลึกลงในหัวใจของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้เกิดความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทย เยาวชนกลุ่มนี้จะเป็นพลังสำคัญในการร่วมอนุรักษ์ สานต่อ ความเป็นไทยให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของโครงการเยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม ในการเสริมสร้างทักษะความรู้เรื่องชุมชนให้กับเยาวชน และฝึกฝนการเป็นเจ้าบ้านที่ดีพร้อมเป็นผู้สืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของไทย ที่ริเริ่มโดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในงาน Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” น้องๆ เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรมจะทำหน้าที่เป็นฑูตวัฒนธรรม ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในพื้นที่การจัดงาน กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ลำพูน ขอนแก่น อุดรธานี และภูเก็ต พร้อมเผยแพร่เรื่องราวอันดีงามของเทศกาลสงกรานต์ไทย ทั้งยังบอกเล่าประวัติศาสตร์ได้อย่างน่าประทับใจ

ในปีนี้ได้มีการต่อยอดกิจกรรม โดยใช้แนวคิด “พี่สอนน้อง” ซึ่งเชื่อมโยงเครือข่ายนักศึกษาวิทยาลัยผู้ประกอบการ จากโครงการ Beta Young Entrepreneur ให้เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงและแชร์ความรู้ เทคนิค ในการถ่ายทำ Vlog ให้กับน้อง ๆ เพื่อที่จะได้นำมาประยุกต์และต่อยอดในการประชาสัมพันธ์พื้นที่การท่องเที่ยวในชุมชนของตนเองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี น้อง ๆ ตั้งใจเก็บเกี่ยวความรู้และสร้างสรรค์คลิปวีดีโอได้อย่างน่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีรุ่นพี่เยาวชนเจ้าบ้าน ได้มาแชร์ประสบการณ์พร้อมคำแนะนำในการปฏิบัติหน้าที่

สำหรับโครงการเยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรมเปิดรับสมัครน้อง ๆ ที่อยู่ในชุมชนใกล้เคียงพื้นที่การจัดงาน ที่มีอายุระหว่าง 7-14 ปี เพื่อมาฝึกทักษะและเตรียมตัวสำหรับการเป็นเจ้าบ้านที่ดี โดยตั้งแต่เปิดโครงการมาจนถึงขณะนี้ มีน้อง ๆ เข้าร่วมโครงการกว่า 136 คน ซึ่งทางโครงการได้มีการมอบทุนการศึกษาให้กับน้อง ๆ ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา โดยเป็นทุนการศึกษาระดับประถมศึกษาจนถึงระดับมัธยมศึกษา

         น้อง ๆ เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม พร้อมแล้วที่จะรอต้อนรับทุกท่านที่มาเที่ยวงาน Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” ที่จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 ภายใต้แนวคิด “เย็นฉ่ำ ชื่นใจ” ระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน 2567 ที่จัดโดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเครือข่ายพันธมิตรทุกภาคส่วน ในพื้นที่การจัดงานกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ลำพูน ขอนแก่น อุดรธานี และภูเก็ต

ร่วมเฉลิมฉลองปีใหม่ไทยแบบเย็นฉ่ำชื่นใจ เสริมสิริมงคล พร้อมกิจกรรมหลากหลาย ที่สืบสาน รักษา ต่อยอด ประเพณีไทยรวมถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ชุมชน ใกล้ที่ไหน เที่ยวที่นั่น ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Water Festival Thailand

]]>
1469377
ธ.กรุงไทย เปิดประมูลทรัพย์เด่น ทำเลดี น่าลงทุน 18 รายการ เม.ย.-พ.ค.นี้ https://positioningmag.com/1469147 Sat, 06 Apr 2024 03:45:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469147

เตรียมตัวให้พร้อม! สำหรับใครที่อยากได้ทรัพย์เด่น ทำเลดี โอกาสมาถึงแล้ว เพราะธนาคารกรุงไทยได้ประกาศประมูลแข่งขันราคาเสนอซื้อทรัพย์สินพร้อมขายของธนาคาร แบบวิธียื่นซองเสนอราคา (Sealed Bid) ในภาคกลางและภาคอีสาน จำนวนถึง 18 รายการ ในรอบประมูลทั้งหมด 7 รอบ ในเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้

 

โดยรอบประมูลที่ 1 เป็นทรัพย์ลงทุน จังหวัดปทุมธานีและพระนครศรีอยุธยา จำนวน 3 รายการ ได้แก่ ที่ดินเปล่า 1 แปลง ตำบลพืชอุดม อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่รวม 60-1-23 ไร่ , ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 4 แปลง ตำบลคานหาม อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื้อที่รวม 19-3-95 ไร่ และ โรงสี 5 แปลง (ขายพร้อมเครื่องจักร 3 เครื่อง) ตำบลเทพมงคล อำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื้อที่รวม 60-2-92 ไร่ ในวันที่ 23 เม.ย.2567

รอบประมูลที่ 2 เป็นทรัพย์ลงทุน จังหวัดลพบุรีและสระบุรี จำนวน 2 รายการ ได้แก่ โรงสี 7 แปลง ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เนื้อที่รวม 54-3-75.64 ไร่ และ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 11 แปลง ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็กจังหวัดสระบุรี  เนื้อที่รวม 23-3-54 ไร่ ในวันที่ 30 เม.ย.2567

รอบประมูลที่ 3 เป็นทรัพย์ลงทุน จังหวัดเพชรบุรีและนครปฐม จำนวน 3 รายการ ได้แก่ ศูนย์บริการ/โชว์รูม/ปั๊มน้ำมัน 9 แปลง ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เนื้อที่รวม 2-0-24.5 ไร่ , ที่ดินเปล่า 3 แปลง ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เนื้อที่รวม 156-2-33.5 ไร่ และ ที่ดินเปล่า 1 แปลง ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เนื้อที่รวม 2-2-73 ไร่ ในวันที่ 7 พ.ค.2567

รอบประมูลที่ 4 เป็นทรัพย์ลงทุน จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 4 รายการ ได้แก่ ที่ดินเปล่า 3 แปลง ตำบลสนามชัย อำเภอเมืองสุพรรณบุรี เนื้อที่รวม 47-3-30 ไร่ , โรงสี 11 แปลง ตำบลวังลึก อำเภอสามชุก เนื้อที่รวม 59-2-78 ไร่ , โกดัง 1 แปลง เครื่องจักร 14 เครื่อง ตำบลสวนแตง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี เนื้อที่รวม 12-0-89 ไร่ และ โรงสี 2 แปลง เครื่องจักร 1 เครื่อง ตำบลตลิ่งชัน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี เนื้อที่รวม 9-3-25 ไร่ ในวันที่ 9 พ.ค.2567

รอบประมูลที่ 5 เป็นทรัพย์ลงทุน จังหวัดยโสธร จำนวน 1 รายการ ได้แก่ ที่ดินเปล่า 3 แปลง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร เนื้อที่รวม 3-1-32.4 ไร่ ในวันที่ 14 พ.ค.2567

รอบประมูลที่ 6 ทรัพย์ลงทุน จังหวัดขอนแก่นและบุรีรัมย์ จำนวน 3 รายการ ได้แก่ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 2 แปลง ตำบลหนองไผ่ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เนื้อที่รวม 23-1-70 ไร่ , ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 2 แปลง ตำบลโนนแดง กิ่งอำเภอโนนศิลา จังหวัดขอนแก่น เนื้อที่รวม 9-2-46.3 ไร่ และ ที่ดินเปล่า 2 แปลง ตำบลหนองคู อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เนื้อที่รวม 35-3-61 ไร่ ในวันที่ 15 พ.ค.2567

และรอบประมูลที่ 7 เป็นทรัพย์ลงทุน จังหวัดบึงกาฬ จำนวน 1 รายการ ได้แก่ ศูนย์บริการ/โชว์รูม/ปั้มน้ำมัน ตำบลบึงกาฬ อำเภอบึงกาฬ เนื้อที่รวม 4-0-84 ไร่ ในวันที่ 17 พ.ค.2567

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจข้อมูลและรายละเอียดทรัพย์เพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ฝ่ายบริหารทรัพย์สินพร้อมขาย 2 ชั้น15 บมจ.ธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ อาคาร 2 (อาคารสุขุมวิท) เลขที่ 10 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 หมายเลขโทรศัพท์ : 0-2208-7528, 095-372-1902 (คุณพิชญ์สินี), 0-2208-8684, 095-372-1907 (คุณปริวรรตน์) บมจ.ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-111-1111 / KTB NPA Application / https://npa.krungthai.com

หมายเหตุ : เงื่อนไขอื่นเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนดธนาคารสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์เงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า และโปรดศึกษาหลักเกณฑ์เงื่อนไขให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจ โปรดศึกษาเงื่อนไข หลักเกณฑ์ และวิธีการแข่งขันราคาเสนอซื้อทรัพย์สินพร้อมขายของธนาคาร แบบวิธียื่นซองเสนอราคา (Sealed Bid) ก่อนเข้าร่วมแข่งขันราคา ที่ Website https://npa.krungthai.com

]]>
1469147
Space Water ส่ง Space Flavored Water ลุยตลาดน้ำดื่มผสมกลิ่น ประเดิมด้วย “อุทัยสเปซ น้ำกลิ่นสมุนไพร” สร้างมิติใหม่ในการดื่มน้ำ https://positioningmag.com/1468870 Fri, 05 Apr 2024 13:02:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1468870

ตลาดน้ำดื่มในประเทศไทยมีสีสันมากขึ้นทุกปี ด้วยเทรนด์การดูแลสุขภาพของคนไทย มีการใส่ใจในเรื่องการดื่มน้ำมากขึ้น ทำให้เราได้เห็นตลาดน้ำดื่ม ทั้งน้ำแร่ รวมไปถึงน้ำผสมวิตามิน ฟังก์ชันนอลดริ้งก์มีความคึกคัก

สเปซ วอเตอร์ (Space Water) หนึ่งในผู้เล่นในตลาดน้ำดื่มน้องใหม่ ที่เพิ่งทำตลาดได้ 6 ปี โดยผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง กฤตภาส พาณิชอภิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท สเปซ วอเตอร์ จำกัด อดีตหนุ่มวิศวกร ที่ผันตัวมาทำธุรกิจส่วนตัวเป็นของตัวเอง

กฤตภาส ได้เริ่มก่อตั้ง บริษัท สเปซ วอเตอร์ จำกัด ตั้งแต่ปี 2560 สร้างเป็นโรงงานผลิตน้ำดื่มย่านสุขสวัสดิ์ จ.สมุทรปราการ แรกเริ่มเดิมทีกฤตภาสได้ทำงานด้านสายวิศวกรรม ปิโตเลียม และได้ทำงานที่บริษัทพลังงานแห่งหนึ่ง พอทำได้ 3 ปี ก็เริ่มเห็นเทรนด์การทำสตาร์ทอัพเกิดขึ้น รวมถึงการที่ธุรกิจต่างๆ ถูกดิจิทัลเข้ามาดิสรัป หลังจากนั้นเขาจึงเริ่มมีมีความคิดว่า ธุรกิจอะไรจะโดนดิสรัปช้าที่สุด ผลออกมาเป็นกลุ่ม “อาหาร” เพราะเป็นปัจจัย 4 ที่มนุษย์ยังต้องใช้ในการดำรงชีวิต จากนั้นได้ตกผลึกในการทำธุรกิจเกี่ยวกับ “น้ำดื่ม” เริ่มจากโรงงานเล็กๆ งบลงทุนก้อนแรก 50 ล้านบาท เริ่มต้นจากทีมงานเพียงแค่ 5 คน เน้นรับจ้างผลิต หรือทำ OEM สร้างความแตกต่างด้วยการใช้เว็บไซต์ทันสมัย เพื่อสร้างความทันสมัย และน่าเชื่อถือ ใช้ระยะเวลา 2 ปีก็ถึงจุดคุ้มทุน ในช่วงแรกสเปซ วอเตอร์ เน้นการรับจ้างผลิตเป็นหลัก ทำให้รายได้หลัก 90% มาจากการทำ OEM ลูกค้าหลักมีทั้งโรงพยาบาล โรงแรม และร้านอาหาร แต่จุดพลิกเกมที่สำคัญก็คือช่วง COVID-19 ที่เกิดการล็อกดาวน์ หลายธุรกิจต้องหยุดชะงัก โรงแรม ร้านอาหารต้องปิดชั่วคราว รายได้จากการผลิตน้ำดื่มก็หายไปด้วย

กฤตภาสจึงแก้เกมด้วยการสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา เป็นแบรนด์น้ำดื่ม Space Water เน้นตลาดแมสเป็นหลัก เน้นขายได้จำนวนเยอะๆ กำไรไม่ต้องเยอะมากก็ได้ แต่ต้องกู้สถานการณ์ในตอนนั้นก่อน ซึ่งก็สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้

หลังจากนั้นช่วงเดือนกันยายน 2566 กฤตภาสก็ปิ๊งไอเดียใหม่ที่จะเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น และทำให้คนไทยดื่มน้ำมากขึ้น จึงเกิดไอเดีย “น้ำดื่มผสมกลิ่น” เพราะตลาดน้ำดื่มเองก็มีการตัดราคากันอย่างหนักหน่วง จนกำไรบางหนักมาก

โดยที่น้ำดื่มผสมกลิ่นจะเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ยังไม่มีแบรนด์ไหนในไทยลงมาเล่น ส่วนใหญ่จะเป็นเซ็กเมนต์น้ำวิตามิน หรือฟังก์ชันนอลดริ้งก์ไปเลย

จึงได้คลอดออกมาเป็น “Space Flavored Water” น้ำดื่มผสมกลิ่น ที่มีรสชาติและสีใกล้เคียงน้ำเปล่ามากที่สุดในประเทศไทย พร้อมชูกลิ่นไฮไลท์ อุทัยสเปซ (UTAISPACE) น้ำกลิ่นสมุนไพรที่คุ้นเคย ดับกระหายคลายร้อน ปลุกคืนความสดชื่น หวังเจาะกลุ่มผู้บริโภคในตลาดน้ำดื่มบรรจุขวด สร้างมิติใหม่ในการดื่มน้ำช่วงซัมเมอร์

อุทัยสเปซ เป็นน้ำกลิ่นสมุนไพร นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ในการใช้กลิ่นอุทัย ซึ่งเป็นกลิ่นยอดฮิตของสาวๆ ในยุค Y2K มาเป็นกลิ่นเรือธงของสินค้า ซึ่งพร้อมด้วยสรรพคุณที่ช่วยดับกระหาย คลายร้อน สร้างความสดชื่น และยังหอมกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ มีรสชาติใกล้เคียงกับน้ำเปล่ามากที่สุด โดยไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล ไม่ใส่วัตถุกันเสีย สามารถดื่มทดแทนน้ำเปล่าได้ ขณะเดียวกันยังถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องดื่มประเภท Functional Drink ที่มีส่วนผสมของ คอลลาเจน ซิงค์ และวิตามินบี 6 ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย ขนาดบรรจุ 500 ml. มาพร้อมกับดีไซน์น่ารักพาสเทล ราคาเพียงขวดละ 10 บาท

นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 กลิ่นแนะนำ ซอฟพีช (Soft Peach) น้ำกลิ่นพีช และซอฟไรซ์ (Soft Rice) น้ำกลิ่นข้าวหอม ที่มีแผนทำการตลาดต่อจากกลิ่นอุทัยสเปซ โดยช่องทางการจัดจำหน่ายขณะนี้ สามารถสั่งซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย ร้านค้าขายส่ง และช่องทางออนไลน์ Shopee และ Lazada

3 กลิ่นที่ได้เริ่มเปิดตัวนั้น เป็นกลิ่นยอดนิยมที่ได้จากการทำผลสำรวจ โดยที่แต่ละกลิ่นจะจับกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน เช่น อุทัยสเปซ จับกลุ่มผู้ใหญ่ เน้นดื่มดับกระหายคลายร้อน, ซอฟพีช จับกลุ่มวัยรุ่น ให้ความรู้สึกสดชื่น และข้าวหอม จับกลุ่มทุกเพศทุกวัย ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

ปัจจุบันสเปซ วอเตอร์มีกำลังการผลิตที่ 5 ล้านขวดต่อเดือน และมีสัดส่วนรายได้ที่เป็นแบรนด์ของจตัวเอง 90% มีรายได้รวม 100 ล้านบาท

มีการตั้งป้าว่าจะมียอดขาย 1,000 ล้านบาท พร้อมกับเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 15 ล้านขวดต่อเดือน โดยเตรียมขยายโรงงานในช่วงเดือนเมษายนนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าการขยายกำลังการผลิต จะทำให้รายได้ถึงเป้าหมายได้

ถ้าถามว่ายอดขาย 1,000 ล้านมาจากไหนบ้าง กฤตภาส บอกว่า “อยากให้สินค้าตัวนี้เป้นสินค้าแบรนด์แรกที่เข้ามาแย่งตลาดน้ำเปล่าได้” โดยพันล้านจะแบ่งเป็น 400 ล้านบาท มาจากแชร์ 1% ของตลาดน้ำดื่มที่มีมูลค่า 40,000 ล้านบาท อีก 400 ล้านบาท มาจากแชร์ 5% ของตลาดน้ำดื่มวิตามินที่มีมูลต่าตลาด 8,000 ล้านบาท และอีก 200 ล้านบาท มาจากแชร์ 5% ของตลาดน้ำแร่ ที่มีมูลค่า 4,000 ล้านบาท

ในปีนี้ Space Flavored Water เน้นทำตลาดที่น้ำดื่ม 3 กลิ่น เน้นสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง และสร้างการรับรู้ในวงกว้าง โดยที่สินค้าใหม่จะมีการเปิดตัวอย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน

และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ร่วมชิม Space Flavored Water ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มผสมกลิ่นอุทัยสเปซ (UTAISPACE) ได้ที่บูธกิจกรรมของ Space Water ทั่วกรุงเทพฯ สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและกิจกรรมของ Space Water ได้ที่ www.spacewaterfactory.com และ Facebook: https://www.facebook.com/spaceflavoredwater

]]>
1468870