10 เรื่องน่ารู้ "อิเซตัน" โมเดลใหม่ "This is Japan" ยกญี่ปุ่นมาที่นี่!

หลังจากทำตลาดอยู่ในเมืองไทยยาวนานกว่า 23 ปี ตั้งแต่ปี 2535 สำหรับห้าง “อิเซตัน” ที่ยึดทำเลแห่งเดียวที่ห้างสรรพสินค้า “เซ็นทรัลเวิล์ด” ในปีนี้ถึงเวลาในการประกาศ “รีโมเดล” ครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อสู้ศึกค้าปลีกที่กำลังดุเดือด อีกทั้งการมาของห้าง “ทาคาชิมาย่า” สัญชาติญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน ที่จะอิมพอร์ตมาอยู่ในเมกะโปรเจ็คต์ “ไอคอนสยาม” ก็เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่น่ากลัว ทำให้อิเซตันไม่สามารถอยู่เฉยได้อีกต่อไป

ซึ่งการรีโมเดลใหม่ครั้งจะทยอยปรับทีละชั้น เริ่มจากชั้น 5 แล้วค่อยไปที่ชั้นอื่น โดยชั้น 5 จะเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558

1. อิเซตันทำการรีโมเดลห้างครั้งใหญ่ เริ่มจาก “ฟู้ดฟลอร์ (Food Floor)” ชั้น 5 ทำการเปลี่ยนเป็น “วะโชกุ แกลเลอรี่ (Washoku Gallery)” ในพื้นที่ 3,500 ตารางเมตร ภายใต้คอนเซ็ปต์ “this is japan” มีการตกแต่งบรรยากาศให้เหมือนประเทศญี่ปุ่น

2. จากนั้นค่อยทำการปรับโฉมชั้นอื่นๆ ตั้งแต่ปี 2016-2018 ใช้งบลงทุนรวมราว 1,000 ล้านบาท แต่งบลงทุนของชั้น 5 จำนวน 200 ล้านบาท จะสูงกว่าชั้นอื่นเล็กน้อย เพราะมี Facility เยอะ 

3. ภายในคอนเซ็ปต์นี้จะประกอบด้วยแบรนด์ของคนญี่ปุ่นที่ส่งตรงมาไทยครั้งแรก  มีแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น-ยุโรป 9 ร้าน แบรนด์ร้านขนมญี่ปุ่น 4 ร้าน แบรนด์ขนมตะวันตก 10 ร้าน และจัดโซนฟู้ดคอร์ตอาหารญี่ปุ่นครั้งแรก ประกอบด้วยร้านอาหารญี่ปุ่น 7 ร้าน

4. This is Japan ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 4 อย่างคือ Eat, Cook, Joy และ Gift แบบต้นตำรับญี่ปุ่น ทั้งในเรื่องการกินดื่ม ทำอาหาร วัฒนธรรม และของขวัญต่างๆ

5. สินค้าที่จะวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตของอิเซตันแบ่งเป็นสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น 40% และสินค้าในไทย 60%

6. นอกจากเรื่องการแข่งขันในตลาดค้าปลีกแล้ว สิ่งที่ทำให้อิเซตันต้องรีโมเดลเพราะไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไป โดยกลุ่มลูกค้าหลักของอิเซตันคือกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 30-40 ปี มีรายได้มากขึ้น ใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น รวมทั้งมีลูกค้าเรียกร้องให้ทำร้านค้ารูปแบบเดียวกันกับี่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่คนไทยได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นมากขึ้นเพราะไม่ต้องขอวีซ่า (ระยะไม่เกิน 15 วัน)

7. เป็นครั้งแรกกับการนำคาแร็คเตอร์มาใช้กับห้าง โดยเลือกใช้ “เฮลโล คิตตี้” มาเป็นแบรนด์ไอคอนในการทำกิจกรรมการตลาด หวังจะเป็นแม็คเน็ตในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ

8. ตั้งเป้าทราฟฟิกผู้ใช้บริการห้างอิเซตันในปี 2559 จำนวน 2 ล้านคน ในปัจจุบันมีอยู่ 1 ล้านคน

9. คาดว่าโมเดลใหม่จะช่วยผลักดันยอดขายรวมเติบโต 170% จากยอดขายในปี 2556

10. อิเซตันยังไม่มีแผนที่จะขยายสาขาไปยังทำเลอื่น โดยที่โฟกัสอยู่แค่สาขาเดียวคือที่เซ็นเทรัลเวิล์ด