กระทรวงดีอี – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 03 Nov 2020 00:28:14 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘DE’ สั่งบล็อก ‘Pornhub’ ส่วน ‘เว็บพนันออนไลน์’ เตรียมตัวรายต่อไป https://positioningmag.com/1304143 Mon, 02 Nov 2020 14:46:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1304143 ปัจจุบัน เว็บไซต์ที่มีสื่อลามก อนาจาร ยังคงหาได้ในโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งนำมาซึ่งปัญหาสังคมมากมาย โดยเฉพาะหากขาดการควบคุม และเข้าถึงเด็ก เยาวชน นอกจากนี้ การส่งต่อสื่อลามกอนาจาร ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยพบว่าปัจจุบันมีการตั้งกลุ่มในไลน์ เฟซบุ๊ก เพื่อส่งต่อภาพลามก อนาจารของเด็กและเยาวชน และมีการเก็บค่าบริการ ซึ่งมีการจับกุมผู้กระทำความผิดอยู่เป็นระยะ เป็นสาเหตุของการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ล่าสุด ศาลมีคำสั่งให้ระงับการเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กับ เว็บโป๊ “pornhub” จำนวนกว่า 191 URLs ที่มีเนื้อหาลามก อนาจาร ซึ่งผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและมือถือทุกค่ายต้องปฏิบัติตาม


นอกจากนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ยังเดินหน้าต่อในการควบคุม เว็บพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย หลังส่งผลกระทบเศรษฐกิจและสังคม วงเงินหมุนเวียนนับพันล้าน พบปัญหาเซิร์ฟเวอร์อยู่นอกประเทศ สั่งปิดทันทีไม่ได้ ชี้ 3 หน่วยงานต้องร่วมมือ เผยสั่งปิดนับพันเว็บต่อปีแต่กลับมาเปิดใหม่ นักวิชาการเสนอแก้กฎหมายล้าหลัง

ทั้งนี้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ปัญหาการพนันออนไลน์มีผลกระทบมากมาย ทั้งต่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงสร้างความเดือดร้อนแก่คนในครอบครัว แต่ที่ผ่านมาการปิดเว็บไซต์ หรือ เซิรฟ์เวอร์ไม่สามารถทำได้ทันทีต้องอาศัยอำนาจของทางสำนักงานตำรวจและกระทรวงมหาดไทย และด้วยต้นทางของเซิร์ฟเวอร์ไม่ได้ตั้งอยู่ในประเทศไทย จึงทำให้เมื่อเว็บ หรือยูอาร์แอลที่เป็นพนันออนไลน์แล้วก็จะเปลี่ยนชื่อและไปเปิดในชื่อใหม่

ที่ผ่านมา ดีอีเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามดำเนินการทางกฎหมายอยู่ตลอด และด้วยเหตุนี้ภายใต้การอำนวยการของ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอศ.ตร.) ทำการสืบสวนจนนำไปสู่การจับกุมกว่า 20 รายใหญ่ทั่วประเทศ วงเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท ตามกฎหมาย พ.ร.บ.การพนัน

Source

]]>
1304143
สนมั้ย ? กระทรวงดีอี หาคนเก่งค่าตัวสูงสุด 2 แสนบาท https://positioningmag.com/1119176 Mon, 13 Mar 2017 18:29:14 +0000 http://positioningmag.com/?p=1119176 กระทรวงดีอี เตรียมขอกำลังพลเพิ่ม 100 อัตรา อัดฐานเงินเดือนจูงใจสูงสุด 218,400 บาท ในลักษณะพนักงานอัตราจ้างทำสัญญา 4 ปี

พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างกระทรวงดีอีว่า ได้มีการหารือกับ นางเมธินี เทพมณี เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ถึงการขอกำลังพลในส่วนที่ขาดหายไปของกระทรวงดีอี ภายหลังปรับเปลี่ยนมาจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)

กระทรวงดีอีได้ร้องขอไปจำนวนทั้งสิ้น 100 อัตรา ภายในปี 2560 เพื่อเสริมอาวุธในการทำงาน พร้อมกับเสนอขึ้นเงินเดือนในอัตราที่สูงกว่าข้าราชการทั่วไป เพื่อเป็นการจูงใจบุคคลที่มีความสามารถเข้ามาทำงาน เนื่องจากบุคคลที่มีความรู้ความสามารถส่วนใหญ่มักไม่เลือกทำงานกับหน่วยงานรัฐ เนื่องจากราชการมีฐานเงินเดือนจูงใจที่น้อยกว่าเอกชน

สำหรับฐานเงินเดือนของบุคลากรทั้ง 100 คน ประกอบด้วย ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะกิจ เงินเดือน 37,680-68,350 บาท, ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญทั่วไป เงินเดือน 109,200 บาท, ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญภายในประเทศ เงินเดือน 163,800 บาท และตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญระดับสากล เงินเดือน 218,400 บาท โดยทุกตำแหน่งจะมีการจ้างงานในลักษณะพนักงานอัตราจ้างทำสัญญา 4 ปี

จากนั้น จะมีการประเมินผลการปฏิบัติงาน (เคพีไอ) เพื่อพิจารณาต่อสัญญา รวมทั้งพนักงานในส่วนดังกล่าวทางกระทรวงดีอี จะมีสวัสดิการให้ในระดับเดียวกันกับบุคลากรขององค์การมหาชน สำหรับการสรรหานั้น เฉพาะตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะกิจเท่านั้น ที่จะมีการเปิดการสรรหา ส่วนตำแหน่งอื่นจะสรรหาโดยวิธีการชักชวน หรือทาบทามบุคคลที่มีความสามารถในสาขาต่างๆ ที่ตรงกับความต้องการ และขอความร่วมมือมหาวิทยาลัยต่างๆ ให้ช่วยสรรหาบุคลากรระดับหัวกระทิมาทำงานร่วมกับกระทรวงดีอี

ทั้งนี้ คุณสมบัติเบื้องต้นที่กระทรวงดีอีต้องการ คือ ต้องเป็นผู้ที่มีประวัติการทำงานดี เช่น เคยสอนหนังสือระดับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ หรือเคยทำงานองค์การนาซา เป็นต้น ซึ่งทางกระทรวงไม่จำกัดเรื่องของอายุหรือการทำงานปัจจุบัน อยู่ภาครัฐหรือเอกชน และในหรือนอกประเทศ

โดยบุคลากรที่สรรหาในครั้งนี้ จะนำมาดำเนินงานในภารกิจงานใน 2 ส่วนสำคัญ คือ 1.ฝ่ายกำกับดูแลฮาร์ดแวร์ เช่น การดูแลห้องวิจัยด้านดิจิตอลต่างๆ อาทิ ศูนย์พัฒนานวัตกรรมด้าน Internet of Things (IoT) หรือศูนย์จัดเก็บข้อมูล (ดาต้าเซ็นเตอร์) และ 2.ยังไม่มีศูนย์วิจัยและพัฒนาด้านดิจิตอลของตนเอง ทั้งที่เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญมาก

ที่มา : http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9600000024944

]]>
1119176