กระทรวงพลังงาน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sat, 07 Mar 2020 11:23:19 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ช่วยอีก! กระทรวงพลังงาน เตรียมถกลดค่าไฟช่วยประชาชนจาก COVID-19 https://positioningmag.com/1267346 Sat, 07 Mar 2020 11:01:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1267346 กระทรวงพลังงาน เตรียมประชุมหารือเรื่องมาตรการลดค่าไฟฟ้า เพื่อช่วย ปชช.จากวิกฤตการแพร่ระบาดของ COVID-19

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 มี..นี้ ตนได้มอบหมายให้ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือมาตรการลดค่าไฟฟ้าช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว

กระทรวงพลังงานจะมีออกมาอีกหลายมาตรการ อาทิ มาตรการด้านไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และน้ำมัน ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาในรายละเอียด แต่จะเริ่มดำเนินการจากการลดค่าไฟฟ้าก่อน 

Source

]]>
1267346
กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ ปตท. จัดกิจกรรม สานต่อโครงการ "เยาวชนอาสา พัฒนาพลังงานชุมชน" ปี 2 https://positioningmag.com/56596 Thu, 13 Jun 2013 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=56596

กรมพัฒนาพลังงานทดแทน กระทรวงพลังงาน จับมือ ปตท. สานต่อโครงการ “เยาวชนอาสา พัฒนาพลังงานชุมชน” ปี 2 เพื่อต่อยอดและขยายประโยชน์ การนำพลังงานทดแทนในหลากหลายรูปแบบไปสู่ชุมชนอย่างกว้างขวาง พร้อมสร้างสำนึกเรื่องการทำงานอาสาเพื่อสังคมในการลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริงร่วมกับชาวชุมชนในพื้นที่ห่างไกล

นายประเสริฐ สลิลอำไพ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของการจัดโครงการ “เยาวชนอาสา พัฒนาพลังงานชุมชน” ในปี 2555 ที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมกับกระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ได้จัดขึ้น ด้วยการจัดสร้างศูนย์ต้นแบบพลังงานทดแทนแบบผสมผสานในชุมชนพื้นที่ห่างไกล โดยได้สร้างศูนย์ต้นแบบพลังงานทดแทนแบบผสมผสานขึ้นเป็นแห่งแรก ที่หมู่บ้านห้วยจะกือ ตำบลด่านแม่ละเมา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

ซึ่งศูนย์ต้นแบบพลังงานทดแทนแบบผสมผสานดังกล่าว ได้สร้างประโยชน์มากมายให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง เพราะได้นำเอาพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานชีวมวล ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่มีในพื้นที่ มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดได้จริง ดังนั้นเพื่อเป็นการต่อยอดและขยายประโยชน์ของการนำพลังงานทดแทนในหลากหลายรูปแบบไปสู่ชุมชนอื่นให้มากยิ่งขึ้น ในปี 2556 ทาง ปตท. จึงให้การสนับสนุนโครงการ “เยาวชนอาสา พัฒนาพลังงานชุมชน” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้นิสิตนักศึกษา นำความรู้ที่ได้จากการศึกษาในห้องเรียนมาปฏิบัติได้จริง ให้เกิดประโยชน์แก่สังคมส่วนรวมอย่างเป็นรูปธรรมและสร้างสำนึกเรื่องการทำงานจิตอาสา ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของพลังงานทดแทน ผ่านการลงมือปฏิบัติของทั้งกลุ่มเยาวชน และประชาชนในพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ด้านการอนุรักษ์พลังงาน และหันมาใช้พลังงานทดแทนเพื่อช่วยรักษาสภาวะแวดล้อม และเป็นการต่อยอดโครงการ เพื่อขยายประโยชน์ไปสู่ชุมชนอื่นในพื้นที่ห่างไกล ให้ได้รับประโยชน์จากแหล่งพลังงานทดแทนที่มีอยู่ในแต่ละชุมชน เพื่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมที่ดีมีประสิทธิภาพและพึ่งพาตนเองได้

สำหรับการเข้าร่วมโครงการ จะมีการคัดเลือกผลงานจากเยาวชนนิสิตนักศึกษา ที่มีความรู้ ความสามารถ มาร่วมปฏิบัติงานจริงกับชุมชนในพื้นที่ โดยสร้างแหล่งพลังงานทดแทนแบบผสมผสาน ที่ใช้พลังงานทดแทนมากกว่า 1 ประเภท อาทิ พลังงานชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ มาสร้างให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน ภายใต้งบประมาณสนับสนุนจำนวน 300,000 บาท

ส่วนคุณสมบัติของผู้สมัคร ต้องเป็นนิสิตนักศึกษาที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี เน้นสายวิศวกรรม รวมเป็นทีมมีสมาชิกจำนวน 10 คน ในแต่ละทีมจะต้องมีอาจารย์ประจำสถาบันการศึกษาของตนเอง เป็นที่ปรึกษา 1 ท่าน ทุกสถาบันการศึกษา สามารถส่งโครงงานเข้าแข่งขันได้มากกว่า 1 โครงงาน และทีมที่ได้รับคัดเลือก ต้องสามารถลงพื้นที่ปฏิบัติการในสถานที่จริงจนงานสำเร็จสมบูรณ์

โดยระยะเวลาดำเนินงานโครงการจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2556 ซึ่งเป็นวันแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ และจะมีการประชาสัมพันธ์โครงการตามสถานศึกษาต่างๆ ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน ถึง 15 กรกฎาคม โดยเปิดรับผลงานจนถึง วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม แล้วคัดเลือกแผนงานรอบแรกในวันที่ 3 กันยายน และรอบตัดสินวันที่ 11 กันยายน เพื่อลงพื้นที่ปฏิบัติงานสร้างศูนย์พลังงานทดแทนฯ ช่วงระหว่างวันที่ 5 ถึง 25 ตุลาคม และส่งมอบผลงานให้แก่ชุมชนเป็นลำกับต่อไป ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดโครงการรวมระยะเวลาของโครงการทั้งสิ้น 5 เดือน

รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดตามความเคลื่อนไหวโครงการได้ทาง www.facebook.com/PTTARSA

]]>
56596
สถานทูตสวีเดน กระทรวงพลังงานและสแกนเนีย สยาม พร้อมพันธมิตร ร่วมกันเปิดโครงการเดินรถโดยสารสาธารณะที่ใช้เชื้อเพลิงเอทานอล ED95 https://positioningmag.com/56335 Wed, 24 Apr 2013 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=56335

ฯพณฯ คลาส โมลิน เอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย (Mr. Klas Molin, Swede’s Ambassador to Thailand) นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (Mr.Pongsak Ruktapongpisal, Minister of Energy) นายภูริวัทน์ รักอินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด (Mr. Phuriwat Rak-Intr, General Manager of Scania Siam Co., Ltd.) พร้อมพันธมิตรผู้ร่วมพัฒนาการใช้เชื้อเพลิงเอทานอล ED95 เพื่อทดแทนการใช้พลังงานน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ร่วมกันเปิดโครงการเดินรถโดยสารสาธารณะที่ใช้เชื้อเพลิงเอทานอล ED95 โดยเส้นทางให้บริการระหว่างสถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี ถึง มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี วิทยาเขตบางมด ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2556 นี้เป็นต้นไป พร้อมจัดสัมมนาเอ็นเนอร์ยี่ ฟอรั่ม (Energy Forum) ครั้งที่ 6 ในหัวข้อ “รถโดยสารประจำทางของไทย ควรใช้พลังงานทดแทนอย่างไร” เพื่อเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อการส่งเสริมการใช้เอทานอล ED95 แก่รัฐบาล เมื่อเร็วๆ นี้

]]>
56335
กระทรวงพลังงาน ป๋าดัน “พลังงานทดแทน” https://positioningmag.com/14079 Tue, 13 Sep 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=14079

เป็นความพยายามอย่างต่อเนื่องของกระทรวงพลังงานที่ต้องทำให้ประชาชนต้องรู้จักการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า และบอกกับทุกคนว่าพลังงานที่ใช้ไม่ได้มีแค่พลังงานจากน้ำมันเพียงอย่างเดียว มีพลังงานจากธรรมชาติอื่นๆ อีกที่สามารถเลือกใช้ได้

จึงเป็นความยากของหน่วยงานนี้ ในการสื่อสารออกไปให้ทุกคนได้รับรู้ และแนวทางที่กระทรวงพลังงานเลือกใช้คือการสร้าง Brand ของกระทรวง ให้เป็นตัวแทนของพลังงานหลัก และพลังงานทางเลือกที่มีอยู่

กระทรวงพลังงานกำลังสื่อกับทุกคนในสังคมว่า ไม่ใช่กระทรวงน้ำมัน เพราะน้ำมันเป็นเพียงหนึ่งหน่วยพลังงานที่กระทรวงดูแลอยู่เท่านั้น

เมตตา บันเทิงสุข รองปลัดกระทรวงพลังงาน บอกว่า ได้เริ่มต้นสร้าง Brand ของกระทรวงมาตั้งแต่ปี 2550 เพราะเชื่อว่าหากสามารถสร้างจุดนี้ และเป็นที่ยอมรับได้ในสังคม ก็จะเกิดความเชื่อถือ และการให้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคม

เครื่องมือหลักที่ใช้ในการสร้างแบรนด์ ยังเป็นสื่อหลักคือโทรทัศน์ จึงมีภาพยนตร์โฆษณาเกี่ยวกับพลังงานออกมาต่อเนื่องถึง 4 เรื่อง เพื่อตอกย้ำแผนงานหลักของกระทรวงโดยเฉพาะเรื่องแผนพลังงานชุมชน

การชูเรื่องแผนพลังงานชุมชน คือการสร้างทัศนคติการใช้พลังงานให้กับทุกคน ซึ่งต้องการให้ทุกคนได้รู้ว่าพลังงานทางเลือกต่างๆ สามารถจัดหาได้จากรอบๆ ตัว และอยู่ในชุมชนของตัวเอง

ภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ในเรื่อง “กลับบ้าน” ซึ่งเป็นโฆษณาชุดล่าสุด จึงสื่อว่า มีพลังงาน มีความสุข หมู่บ้านที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ในเรื่องพลังงานทั้งจากแสงอาทิตย์  และก๊าซชีวมวล

หลายคนอาจเห็นว่าเป็นงานโฆษณาซึ่งอาจจะต้องมีการสร้างเรื่องขึ้นมา แต่หมู่บ้านที่นำมาเป็นสถานที่เล่าเรื่องของโฆษณาชุดนี้ มีอยู่จริง และใช้พลังงานทางเลือกเหมือนกับที่เห็นในโฆษณาจริง

หมู่บ้านนี้ผลิตพลังงาน ไม่มีสแตนอิน หรือใช้เทคนิคพิเศษมาช่วยเด็ดขาด เป็นหมู่บ้านหนองงิ้วผา ตำบลหินซ้อน จังหวัดสระบุรี

สปอตตัวนี้วางแผนเผยแพร่ 220 สปอต นาน 60 วัน ทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง จากนั้นจะเสริมด้วยสื่อกลางแจ้ง สิ่งพิมพ์ และสปอตวิทยุ

โฆษณาของกระทรวงพลังงานที่มองไปถึงเรื่องพลังงานทางเลือก ก็ต้องออกไปชนกับโฆษณาของบริษัทน้ำมันต่างๆ ที่ยังเน้นเรื่องความแรงของน้ำมัน แม้ช่วงหลังจะมีเรื่องความประหยัดเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง แต่ผู้บริโภคก็มองข้ามไป อยากรู้เพียงแค่ว่า เติมแล้วรถแรงขึ้นหรือไม่

พลังงานทางเลือกก็เลยกลายเป็นพลังงานที่ไม่เลือกไปในที่สุด

TVC กระทรวงพลังงาน
สินค้า กระทรวงพลังงาน
ชื่อเรื่อง กลับบ้าน
แนวคิดหลัก มีพลังงาน มีความสุข
รายละเอียด
 
  • หมู่บ้านที่พึ่งพาตนเองได้ มีการพัฒนาพลังงานทดแทน
  • ลดรายจ่าย ทุกคนมีความสุข
ความยาว 30 วินาที
จำนวนสปอต 220 สปอต
ระยะเวลา 15 ส.ค. 54-15 ต.ค. 54
แผนพัฒนาพลังงานทดแทน 2551-2565
ประเภท หน่วย/เมกะวัตต์
พลังงานแสงอาทิตย์ 500 
พลังงานลม 800
พลังงานขยะ 160
พลังงานจากก๊าซชีวภาพ 120
พลังงานชีวมวล 3,700
พลังงานน้ำขนาดเล็ก 324
]]>
14079
กระทรวงพลังงาน กฟผ. จับมือพันธมิตร เปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่หลอดผอมเบอร์ 5 https://positioningmag.com/54374 Tue, 10 May 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=54374

กระทรวงพลังงาน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย และบางจากปิโตรเลียม เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “กฎใหม่ของการลงทุน” เผยแพร่ผลสำเร็จจากการใช้หลอดผอมเบอร์ 5 ของ 3 องค์กร ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้กว่า 13.92 ล้านหน่วยต่อปี หรือปีละ 41.7 ล้านบาท พร้อมลดคาร์บอนไดออกไซต์ได้ถึง 13,140 ตันต่อปี เริ่มออกอากาศตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

9 พฤษภาคม 54 ณ ห้องวิภาวดีบอลรูม C โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทาราแกรนด์ แบงคอก – ดร.ณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในงานเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาเบอร์ 5 ชุด “กฎใหม่ของการลงทุน” โดยได้รับเกียรติจาก นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการ กฟผ. นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา
ดร.ณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สถานการณ์พลังงานของโลกและประเทศไทยในปัจจุบันอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ดังนั้น กระทรวงพลังงานจึงได้เร่งรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันลดการใช้พลังงานทุกวิถีทางอย่างเร่งด่วน ด้วยการมุ่งส่งเสริมการอนุรักษ์และประหยัดพลังงาน รวมถึงสนับสนุนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโครงการส่งเสริมการใช้หลอดผอมเบอร์ 5 ที่ กฟผ. ได้จัดทำขึ้นนี้ จะเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่ก่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะหากผู้ใช้ไฟฟ้า ทั้งในภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรม ร่วมกันใช้หลอดผอมเบอร์ 5 ขนาด 28 วัตต์ แทนหลอดฟลูออเรสเซนต์ T8 ขนาด 36 วัตต์ ทั้งประเทศ จำนวน 18.5 ล้านหลอด ภายในปี 2556 จะสามารถส่งผลให้ลดปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดได้ 174.8 MW ลดพลังงานไฟฟ้าได้ถึงประมาณ 800 ล้านหน่วยต่อปี หรือลดค่าใช้จ่ายได้ 2,400 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 400,000 ตันต่อปี

ด้าน นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวถึงการดำเนินงาน ว่า กฟผ. ได้รับมอบหมายจากกระทรวงพลังงาน ให้ดำเนินการส่งเสริมการใช้หลอดผอมเบอร์ 5 ตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สามารถรณรงค์ให้เกิดการเปลี่ยนหลอดผอมเบอร์ 5 ไปแล้ว 1.5 ล้านหลอด แบ่งเป็น หน่วยงานภาคเอกชน จำนวน 1.2 ล้านหลอด หน่วยงานภาครัฐ จำนวน 130,000 หลอด และศาสนสถาน จำนวน 160,000 หลอด นอกจากนี้ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่สาธารณชน กฟผ. ยังได้ดำเนินการเปลี่ยนมาใช้หลอดผอมเบอร์ 5 ภายในอาคารสำนักงานใหญ่ และเขต เขื่อน โรงไฟฟ้า จำนวนประมาณ 43,000 หลอด ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานได้กว่า 1.95 ล้านหน่วยต่อปี หรือปีละ 5.8 ล้านบาท และลดคาร์บอนไดออกไซต์ ได้ 980 ตันต่อปี

ในขณะที่ นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงการสนับสนุนโครงการฯ ว่าธนาคารกสิกรไทยมีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ กฟผ. ในการดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ โดยธนาคารได้เริ่มเปลี่ยนมาใช้หลอดผอมเบอร์ 5 ภายในองค์กร ตั้งแต่ปี 2550 โดยเปลี่ยนในอาคารสำนักงานใหญ่ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักสาขาราษฎร์บูรณะ อาคารจอดรถ อาคารพหลโยธิน อาคารแจ้งวัฒนะ และสาขาของธนาคารทั่วประเทศ จำนวนรวม 267,000 หลอด ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ 9.7 ล้านหน่วยต่อปี หรือปีละ 29.1 ล้านบาท และลดคาร์บอนไดออกไซต์ได้ถึง 11,000 ตันต่อปี

ด้าน ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเข้าร่วมโครงการฯ ว่า บางจากฯ เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์พลังงานเสมอมา สำหรับการเข้าร่วมโครงการฯ ในครั้งนี้ บางจากฯ ได้ดำเนินการเปลี่ยนหลอดผอมเบอร์ 5 ในอาคารสำนักงานและสถานีบริการน้ำมันไปแล้วกว่า 30,000 หลอด และมีแผนที่จะส่งเสริมการใช้หลอดผอมเบอร์ 5 เพิ่มเติม 26,000 หลอด ภายในปี 2554 ทำให้รวมการเปลี่ยนมาใช้หลอดผอมเบอร์ 5 ทั้งสิ้น 56,000 หลอด ซึ่งจะสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ 2.27 ล้านหน่วยต่อปี หรือปีละ 6.8 ล้านบาท และลดคาร์บอนไดออกไซต์ได้ 1,160 ตันต่อปี

โครงการ “เครือข่ายร่วมลดโลกร้อน ด้วยหลอดผอมเบอร์ 5” ภายใต้การสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน มีเป้าหมายรณรงค์ส่งเสริมให้อาคารภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมเปลี่ยนมาใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ขนาด 28 วัตต์ หรือหลอดผอมเบอร์ 5 ทดแทนหลอดฟลูออเรสเซนต์ขนาด 36 วัตต์ทั่วประเทศ โดยในปี 2554 มีแผนที่จะดำเนินการส่งเสริมการใช้หลอดผอมเบอร์ 5 จำนวนทั้งสิ้น 5 ล้านหลอด แบ่งเป็นอาคารควบคุมภาครัฐ – ศาสนสถาน จำนวน 2 ล้านหลอด และภาคเอกชนจำนวน 3 ล้านหลอด

]]>
54374
ส่งเสริมธุรกิจบริษัทจัดการพลังงาน ในงาน Thailand Esco Fair https://positioningmag.com/53821 Thu, 06 Jan 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=53821

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้เกียรติเปิดงาน Thailand ESCO FAIR 2010 “Low Risk & Green Investment with ESCO” กิจกรรมหนึ่งภายใต้โครงการส่งเสริมธุรกิจบริษัทจัดการพลังงาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นทั้งงานสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการ และยังเป็นเวทีกลางในการพบปะกันระหว่างบริษัทจัดการพลังงาน สถาบันการเงิน หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนที่ให้บริการด้านการอนุรักษ์พลังงาน และผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จด้านการอนุรักษ์พลังงาน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงกันอย่างครบวงจร และสามารถนำข้อมูลความรู้ที่ได้มาพัฒนาศักยภาพด้านการประหยัดพลังงานให้กับธุรกิจของตัวเองต่อไป โดยมีคณะผู้บริหารการจัดงาน คุณพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ คุณไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ให้เกียรติร่วมเปิดงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

โดยภายในงานประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก คือ 1.ส่วนงานสัมมนา หัวข้อ “Low Risk & Green Investment with ESCO” และหัวข้อการเสวนาอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ การลงทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน การใช้อุปกรณ์ควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์ (VSD) เพื่อการอนุรักษ์พลังงานในโรงงาน และในอาคาร เป็นต้น และ 2.ส่วนงานนิทรรศการด้านพลังงาน พบกับ นิทรรศการความรู้ เทคนิค และเทคโนโลยี รวมถึงอุปกรณ์ด้านการอนุรักษ์พลังงาน จากทั้งบริษัทจัดการพลังงาน (ESCO) และจากภาครัฐ – ภาคเอกชน กว่า 40 บูธ ที่มาร่วมจัดแสดงให้เยี่ยมชมตลอดงาน

]]>
53821
กระทรวงพลังงานผลิตภาพยนตร์เชิดชูพระอัจฉริยภาพด้านพลังงานทดแทน https://positioningmag.com/53434 Mon, 18 Oct 2010 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=53434

กระทรวงพลังงาน เผยแพร่ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระอัจฉริยภาพด้านพลังงานทดแทนผ่านสื่อฟรีทีวีทุกช่องและโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ในโครงการรณรงค์สร้างการรับรู้ (Campaign) “เมืองไทย เมืองแห่งพลังงานทดแทน” เพื่อปลุกกระแสความสนใจพลังงานทดแทนให้กับประชาชนทุกภาคส่วนของประเทศ

สำหรับภาพยนตร์ มีเนื้อหาที่สะท้อนถึงพระอัจฉริยภาพและพระวิสัยทัศน์อันยาวไกล ของพระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการนำสิ่งที่ประเทศไทยมีอยู่แล้วมากมายมาแปลงเป็นสิ่งที่เราเคยคิดว่าเราขาดแคลน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเตรียมรับวิกฤตพลังงานมาตั้งแต่เมื่อ 40 ปีที่แล้ว โดยริเริ่มนำพืชผลทางการเกษตรมาผลิตเป็นพลังงานทดแทน เพื่อให้คนไทยพึ่งตัวเองได้ในด้านพลังงาน เนื่องจากเล็งเห็นว่า เมืองไทยอาจประสบปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ และปัญหาราคาน้ำมันแพงในอนาคตจึงได้แปลงเชื้อเพลิงพลังงานจากพืช จนสามารถผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และพลังงานชีวภาพ รวมทั้งทรงมีการสาธิตและจำลองรูปแบบการใช้งานพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์

ภาพยนตร์โฆษณาได้มีการอัญเชิญพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2548 ที่ว่า “คนอื่นอาจไม่มี แต่ว่าเรามี เพราะเราขวนขวายหาวิธีที่จะทำ” มานำเสนอ จนทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า ด้วยสายพระเนตรที่กว้างไกล พลังงานของคนไทยจะไม่มีวันหมดไป

ภาพยนตร์เทิดพระเกียรติฯ ความยาว 60 วินาที มีชื่อว่า “แผ่นดินของเรา” ตั้งตามชื่อเพลงพระราชนิพนธ์ แผ่นดินของเรา ซึ่งกระทรวงพลังงานได้กราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระบรมราชานุญาตนำเพลงพระราชนิพนธ์นี้มาประกอบไว้ในภาพยนตร์ดังกล่าว ช่วยสร้างความรู้สึกประทับใจแก่ผู้ชมไปพร้อมๆ กับการตระหนักถึงพระปรีชาสามารถของพระองค์ในทุกมิติ ทั้งทางด้านศิลปะ และวิทยาการทันสมัย โดยได้เผยแพร่ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์สาธารณะและโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 เป็นต้นไป

รายชื่อคณะผู้จัดทำ
Agency : บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

ฝ่ายสร้างสรรค์ : กรณ์ เทพินทราภิรักษ์ (Chief Creative Officer)
ภารุจ ดาวราย (Creative Director)
ฤดี สุรพงรักตระกูล (Copywriter)
รตภณ ห้วยหงษ์ทอง (Art Director)

ฝ่ายผลิต : เบญจรัตน์ ลับกิ่ม (TV Produce)

ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ : วานิช จิระสุวรรณกิจ (Head of Strategic Planning Unit)
กมลวรรณ แสนอิสระ (Strategic Planning Manager)
กานดิทัต ศรีจรัสจรรยา (Strategic Planner)

ฝ่ายบริการงานลูกค้า : ภาวิต จิตรกร (Management Partner)
กิ่งแก้ว สุนทรเจริญนนท์ (Communications Director)
จันทมาศ เศรษฐจินดาเลิศ (Communications Executive)

Production House : บริษัท หับโห้หิ้น บางกอก จำกัด

ผู้กำกับภาพยนตร์ : ปวีณ ภูริจิตปัญญา

]]>
53434
ส.อ.ท. ผนึก กระทรวงพลังงาน จัด Thailand ESCO Fair 2009 https://positioningmag.com/50156 Fri, 27 Nov 2009 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=50156

สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม ส.อ.ท. ผนึกกำลัง กระทรวงพลังงาน ร่วมผลักดันการลงทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน จัดงานแถลงข่าวประชาสัมพันธ์โครงการครั้งใหญ่ Thailand ESCO Fair 2009 และ ESCO Fair ภูมิภาค

ด้วยพลังงานจัดว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นขั้นพื้นฐานในปัจจุบัน ทั้งทางด้านพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศ โดยแต่ละปีประเทศไทยต้องนำเข้าพลังงานเป็นจำนวนมาก และที่ผ่านมาได้มีการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ คิดเป็นมูลค่ากว่า 900,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มสูงเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

“จากแนวโน้มการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นของประเทศ ทำให้รัฐบาลโดยเฉพาะในส่วนของ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงานต้องเร่งหานโยบายและแนวทางเพื่อกำกับดูแลและส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์พลังงานในทุก ๆ สาขาเศรษฐกิจให้มีความยั่งยืน และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและประเทศ” นายดนัย เอกกมล ผู้อำนวยการสำนักกำกับและอนุรักษ์พลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าว

นายดนัย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่ผ่านมา พพ. ได้มีการส่งเสริม ESCO ในหลาย ๆ รูปแบบ เช่นเดียวกับปีนี้ที่ทางเราได้ร่วมมือ และให้การสนับสนุน กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดงาน Thailand ESCO Fair 2009 ขึ้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ถึงแนวทาง และนโยบายการสนับสนุนและส่งเสริมบริษัทจัดการพลังงาน ให้เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น และเพื่อเป็นการสานต่อผลงานจากปีที่ผ่านมา อีกทั้งเป็นการแสดงผลงานความสำเร็จของการอนุรักษ์พลังงาน ESCO ในประเทศ โดยได้อนุมัติเงินทุน ESCO FUND จำนวน 500 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการลงทุนด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเพิ่มมากขึ้น

ด้านนายเจน นำชัยศิริ รองประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม กล่าวว่า “การจัดงาน Thailand ESCO Fair 2009 และ ESCO Fair ภูมิภาค ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และส่งเสริมให้สถานประกอบการที่มีความพร้อม และมีศักยภาพในการอนุรักษ์พลังงาน สามารถเลือกลงทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงานได้อย่างเหมาะสม”

ทั้งนี้ งาน Thailand ESCO Fair 2009 โดยความร่วมมือระหว่าง สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม ส.อ.ท. และกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน จะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 15 ธันวาคม 2552 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ ห้องบอลรูม โซน เอ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นพ. วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มากล่าวเปิด พิธีมอบโล่ห์ประกาศเกียรติคุณ ESCO Project Award 2009 ให้กับสถานประกอบการ ที่ประสบผลสำเร็จจากการใช้ระบบ ESCO และโล่ห์ประกาศเกียรติคุณ ESCO excellent Award 2009 ให้กับบริษัทจัดการพลังงานดีเด่น จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพร้อมกันนี้ภายในงานจะประกอบด้วย 3 ส่วนหลักด้วยกัน คือ ส่วนของงานสัมมนา, ส่วนนิทรรศการ 47 บูธ ผู้สนใจเข้าร่วมงานสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2345-1251-5 หรือ www.Thaiesco.org

สำหรับงาน ESCO FAIR ภูมิภาค นั้น นายเจน นำชัยศิริ รองประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันพลังงานเพื่อุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมฯ ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับคุณอัครพล วิสีปัต ประธานอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี คุณสามารถ อังวราวงศ์ ประธานอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น คุณพีระ เพชรพานิชย์ กรรมการสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ คุณอาภา รัตยานุวัฒนะ กรรมการสภาอุตสาหกรรมงหวัดระยอง และคุณสมปอง ผลเจริญจิต เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคเหนือ โดยมีกำหนดที่จะจัดงาน ESCO FAIR ภูมิภาค ดังนี้

จังหวัดราชบุรี จัดงาน ESCO Fair ภูมิภาค ร.ร.โกล์เด้นราชบุรี วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553
จังหวัดขอนแก่นจัดงาน ESCO Fair ภูมิภาค ร.ร.เจริญธานี วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2553
จังหวัดภูเก็ต จัดงาน ESCO Fair ภูมิภาค ร.ร. เมโทรโพล วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม 2553
จังหวัดระยอง จัดงาน ESCO Fair ภูมิภาค รร. โกลเด้นซิตี้ วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม 2553
จังหวัดนครสวรรค์ จัดงาน ESCO Fair ภูมิภาค ม.เจ้าพระยา วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน 2553

]]>
50156
กระทรวงพลังงานจับมือแกรมมี่ ให้โคราชเป็นจังหวัดนำร่องจัดงาน “รวมพล คนใช้โซฮอล 91” https://positioningmag.com/48686 Thu, 30 Jul 2009 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=48686

กระทรวงพลังงานจับมือแกรมมี่ ให้โคราชเป็นจังหวัดนำร่องจัดงาน “รวมพล คนใช้โซฮอล 91”
หวังมัดใจผู้ใช้รถจักรยานยนต์ 4 จังหวะหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 แทนเบนซิน

กระทรวงพลังงานดันโคราชเป็นจังหวัดนำร่อง หลังเปิดตัวแคมเปญ “I LOVE GASOHOL 91” ด้วยการจัดคอนเสิร์ต “รวมพล คนใช้โซฮอล 91” หวังมัดใจกลุ่มเป้าหมายผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ ให้หันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 แทนน้ำมันเบนซิน มั่นใจกลยุทธ์ Music Marketing ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์

นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวในงาน “รวมพล คนใช้โซฮอล 91” ด้วยการร่วมขี่รถจักรยานยนต์ 4 จังหวะในคาราวานรถจักรยานยนต์ I LOVE GASOHOL 91 ว่า “กระทรวงพลังงานพยายามส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญประการหนึ่งของกระทรวงพลังงาน จึงได้ผลักดันให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลทดแทนน้ำมันเบนซิน”

“โดยที่โครงการ I LOVE GASOHOL 91 นี้จะเน้นการประชาสัมพันธ์ไปที่กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ 4 จังหวะเป็นกลุ่มหลักที่ยังคงมีการใช้น้ำมันเบนซินให้หันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ที่นำพืชผลทางการเกษตรมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอลสำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล”

นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า “สาเหตุที่เลือกจังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดนำร่องของโครงการ I LOVE GASOHOL 91 เพราะเป็นจังหวัดที่มีจำนวนรถจักรยานยนต์ที่มีการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 51 มากถึง 573,590 คัน ซึ่งถือว่ามากที่สุดในภาคอีสาน” โดยมีศักยภาพในการช่วยเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลได้มากขึ้น

ด้านนายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่าการเลือกใช้กลยุทธ์ MUSIC MARKETING มาเป็นเครื่องมือในการรณรงค์สร้างกระแสความตื่นตัวในโครงการโดยมีการใช้พรีเซนเตอร์เป็นตัวแทนสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายให้เกิดการรับรู้ และจดจำจนมีการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ทดแทนน้ำมันเบนซิน จึงได้เลือกอาร์ เดอะสตาร์ และเป้ย ปานวาด มาเป็นพรีเซนเตอร์ของโครงการ และศิลปินชื่อดังขวัญใจชาวร็อค BIG ASS มาแสดงคอนเสิร์ตในงานรวมพลคนใช้โซฮอล 91 ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายอย่างล้นหลามแน่นอน

อนึ่งโครงการ I LOVE GASOHOL 91 เป็นโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 กับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน จัดงาน “รวมพล คนใช้โซฮอล 91” ในวันเสาร์ที่ 25 ก.ค. 52 ณ MCC HALL ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา โดยงานดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวโคราชมาร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งนอกจากจะมีการจัดคอนเสิร์ตจากศิลปินร็อคชื่อดัง BIG ASS แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ได้แก่การจัดเวทีเสวนาภาษาโซฮอล 91 กับผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ชื่อดัง พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่มาสร้างสีสันภายในงาน อาทิ คาราวานรถจักรยานยนต์ I LOVE GASOHOL 91 นำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กับเหล่าศิลปินดาราชื่อดัง เช่น วงบูดาเบส, เตชินท์ ชยุติ, ต้น-เม เดอะสตาร์, เจนนิเฟอร์ โปลิตานนท์, เบลล์ ไชน่าดอลล์ ญาญ่าญิ๋ง, ไรอัน เจทท์ และโบว์ เบจวรรณ อาร์ตเนอร์ เป็นต้น ตลอดจนมีการแจกของที่ระลึกในโครงการด้วย
——————————————–

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ณิชชญาณ์ โตสงวน โทร. 081-552-2058
รัตนา คุณสิริ โทร. 089-786-7442

]]>
48686
กระทรวงพลังงานรุกโปรโมทน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 กับรถจักรยานยนต์ https://positioningmag.com/48681 Wed, 29 Jul 2009 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=48681

สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เร่งสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ 4 จังหวะทุกรุ่น ทุกยี่ห้อว่าสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ได้โดยไม่มีผลกระทบเสียหายต่อเครื่องยนต์ พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “I LOVE GASOHOL 91” เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ และเร่งสร้างการมีส่วนร่วมในการช่วยชาติ และช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการลดการใช้น้ำมันเบนซิน และหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 แทนอย่างแพร่หลาย

นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า “กระทรวงพลังงานได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาพลังงานทดแทน โดยกำหนดเป้าหมายเพิ่มการใช้พลังงานทดแทนเป็น 8% ในปี 2554 และเพิ่มขึ้นเป็น 12% ภายในปี 2565 ดังนั้นจึงสนับสนุนให้มีการใช้เอทานอลเพิ่มขึ้น กระทรวงพลังงานจึงได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานเป็นผู้ผลักดันและทำกิจกรรมให้สอดรับกับนโยบายของกระทรวงฯ ดังกล่าว” เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ให้มากยิ่งขึ้น

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานได้เร่งประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานทางเลือกที่มีส่วนผสมของเอทานอล ได้แก่ น้ำมันแก๊สโซฮอล มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อมีการหันมาใช้น้ำมัน แก๊สโซฮอลเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้มีการใช้เอทานอลเพิ่มขึ้นโดยปริยาย เนื่องจากเอทานอลเป็นส่วนผสมในการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอลและทำให้เกษตรกรที่เพาะปลูกพืชพันธุ์ที่เป็นส่วนผสมในการผลิตเอทานอลมีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยตั้งเป้าหมายปริมาณการใช้เอทานอล 1.45 ล้านลิตรต่อวัน ภายในสิ้นปี 2553 และเพิ่มขึ้นเป็น 2.4 ล้านลิตรต่อวันภายในปี 2554

ปัจจุบันประเทศไทยมีรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ เป็นจำนวนมาก นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ถ้าหากให้กลุ่มนี้เปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลให้มากขึ้นได้ ก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม เพราะนอกจากผู้ใช้จะประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนตัวแล้ว ยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าน้ำมันดิบของประเทศได้อย่างมากด้วย”

ทั้งนี้ แคมเปญ “I LOVE GASOHOL 91” จะทำหน้าที่สื่อสารเพื่อเปลี่ยนทัศนคติของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่ยังไม่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ให้มั่นใจว่าใช้ได้และเป็นการลดภาระค่าน้ำมันของผู้ขับขี่ ทำให้เหลือเงินในกระเป๋ามากขึ้น เนื่องจากน้ำมันแก๊สโซฮฮล 91 มีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซิน

ในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่แคมเปญสื่อสารการตลาดของน้ำมันแก๊สโซฮอล 91ใช้กลยุทธ์ Music Marketing โดยมีการใช้พรีเซนเตอร์เป็นตัวแทนสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายให้เกิดการรับรู้ และจดจำจนเกิดการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ทดแทนน้ำมันเบนซิน

กระทรวงพลังงานจะมุ่งเน้นตอกย้ำความมั่นใจอย่างต่อเนื่องให้กับกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 อยู่แล้วให้ใช้ต่อไปอย่างถาวร และให้กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ 4 จังหวะทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ที่ยังไม่ได้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ให้หันมาใช้ เนื่องจากสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ได้อย่างแน่นอน

พร้อมกันนี้นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และนายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ ได้ยืนยันถึงการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ในรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ ในแง่ของสมรรถนะของรถจักรยานยนต์เมื่อใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ว่า สามารถใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาเพราะเครื่องยนต์มีการเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นรถจักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 จึงยังคง เร่งแรง ไม่มีสะดุด อย่างแน่นอน

กระทรวงพลังงานมั่นใจว่าโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 กับรถจักรยานยนต์ จะสร้างความมั่นใจและช่วยให้กระทรวงพลังงานบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล และเอทานอลได้

]]>
48681