การนอนหลับ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 03 May 2023 05:50:01 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 คาดธุรกิจแก้ปัญหา “สุขภาพการนอน” จะเติบโตปีละ 6% โอกาสมาแรงในอุตสาหกรรม “เวลเนส” https://positioningmag.com/1429369 Wed, 03 May 2023 05:30:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1429369 ทุกคนรู้ว่า “สุขภาพการนอน” เป็นเรื่องสำคัญ ทำให้อุตสาหกรรม “เวลเนส” ที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับกำลังบูมไปทั่วโลก และนักวิทยาศาสตร์ต่างกำลังศึกษาปัจจัยความเสี่ยงต่อการนอน

McKinsey บริษัทที่ปรึกษาชื่อดัง เสนอรายงานถึงมูลค่าตลาดอุตสาหกรรม “เวลเนส” ทั่วโลกที่สูงถึง 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีธุรกิจหลักที่ทำเงินในอุตสาหกรรมนี้คือ ฟิตเนส, โภชนาการ และการทำสมาธิ

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเวลเนสอีกอย่างหนึ่งที่กำลังมาแรงคือ “สุขภาพการนอน” ธุรกิจนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ในตลาด และลูกค้ายังแบ่งสัดส่วนการใช้จ่ายด้านเวลเนสมาที่การนอนหลับค่อนข้างน้อยหากเทียบกับการใช้จ่ายด้านอื่น แต่ตัวเลขกำลังเติบโตขึ้นอย่างน่าสนใจ โดย McKinsey คาดว่า ธุรกิจส่งเสริมสุขภาพการนอนจะโตเฉลี่ยปีละ 6% ระหว่างปี 2022-2030 ทำให้มูลค่าธุรกิจสุขภาพการนอนเติบโตขึ้นไปแตะ 1.25 แสนล้านเหรียญสหรัฐได้ภายในปี 2030

 

นอนไม่พอ ส่งผลต่อการทำงาน

ปัญหาการนอนหลับเป็นบ่อเกิดของปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน โรคหัวใจ โรคซึมเศร้า และยังกระทบกับประสิทธิภาพการทำงานด้วย

เราอาจจะเคยได้ยินเรื่องคนที่ประสบความสำเร็จสูงโดยนอนพักผ่อนแค่ 3-4 ชั่วโมงต่อวัน อย่างไรก็ตาม วิทยาศาสตร์พบว่าเรื่องนี้ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะการวิจัยพบว่าการนอนให้เพียงพอมีผลสำคัญต่อประสิทธิภาพการทำงาน แม้แต่ตัวเราเองก็น่าจะเคยรู้สึกได้ถึงผลของการนอนไม่พอ หากคืนนี้นอนดึกมาก การทำงานในวันพรุ่งนี้ก็จะลำบากชีวิตกว่าปกติ

เมื่อร่างกายของเรานอนไม่พอ การรับรู้สิ่งรอบตัวจะแย่ลงเหมือนกับการมีแอลกอฮอล์ในเลือดในระดับ 0.05% การตั้งสมาธิในการประชุม ทำงานสำคัญ เก็บรายละเอียดข้อมูล ร่วมงานกับผู้อื่น ทุกอย่างจะถดถอยลงทั้งหมด ในทางกลับกัน ถ้าเรานอนหลับได้เป็นอย่างดี เราจะกลายเป็นนักแก้ปัญหาที่ดีขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถรับความรู้ใหม่ๆ ได้ดี และคิดวิเคราะห์ได้มากขึ้น

Young Asian man sleeping and snoring loudly lying in the bed

องค์กรธุรกิจก็ทราบผลลบจากการนอนไม่พอเช่นกัน ทำให้บางบริษัทเริ่มมีแพ็กเกจด้านสุขภาพการนอนรวมเข้าไปในสวัสดิการด้านเวลเนส เช่น โปรแกรมฝึกการนอนหลับ สมัครสมาชิกแอปพลิเคชัน Calm and Headspace ให้ฟรี แนวโน้มเหล่านี้ทำให้ธุรกิจด้านการนอนกำลังจะเติบโต

คนมีปัญหาการนอนมีมากแค่ไหน? มีผลการศึกษาในสหรัฐฯ พบว่า 29% ของผู้ใหญ่เพศหญิงมีปัญหาการนอน ซึ่งคาดว่าตัวเลขนี้น่าจะไม่แตกต่างมากในผู้ใหญ่เพศชาย นั่นแปลว่าชาวอเมริกันวัยทำงาน 1 ใน 3 มีปัญหาการนอนหลับ

สำหรับประเทศไทย มีตัวเลขจากกรมสุขภาพจิตระบุว่าคนไทย 19 ล้านคนมีปัญหาการนอน หรือเท่ากับ 27.5% ของประชากรทั้งหมด ถือว่าค่อนข้างสูงเช่นกัน

 

วิจัยเพื่อแก้ปัญหาการนอน

เมื่อการนอนเป็นเรื่องสำคัญ สิ่งที่เกิดงานวิจัยตามมาอีกมากคือ ทำไมคนเราจึงมีปัญหาการนอนและจะแก้ไขอย่างไร

ปัจจุบันนี้มีบริการและผลิตภัณฑ์ด้านการนอนหลับมากมาย ตั้งแต่อุปกรณ์การนอน อาหารเสริม แอปพลิเคชันฝึกการนอนให้เป็นเวลา ฯลฯ แต่วิทยาศาสตร์ยังค้นหาคำตอบใหม่ๆ เรื่องการนอน อย่างล่าสุดมีงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร The Journal of Sleep Research พบว่า ปัญหาการนอนอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง “บุคลิกภาพ”

การวิจัยพบว่า ผู้ที่มีความเสี่ยงด้านการนอนหลับไม่สนิท มักจะเป็นคนมีบุคลิกภาพประเภทที่ไม่มั่นคงทางอารมณ์ หุนหันพลันแล่น และเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว

เรื่องนี้สอดคล้องกับงานวิจัยเดิมที่พบว่า การนอนหลับที่ดีมักจะสัมพันธ์กับการมีภาวะอารมณ์เชิงบวก มีอารมณ์เชิงลบให้น้อยเมื่อเข้านอน ดังนั้น คนที่มีบุคลิกภาพดังกล่าวอาจจะต้องบริหารจัดการอารมณ์เชิงลบของตัวเองมากกว่าคนอื่น จึงนอนหลับได้ไม่ดี

การค้นพบเรื่องบุคลิกส่วนตัวเชื่อมโยงกับการนอนหลับ อาจจะทำให้ธุรกิจดูแลสุขภาพการนอนมีมิติใหม่ในการบริการเกิดขึ้นในอนาคตก็เป็นได้

Source

]]>
1429369
หลับดีรับปีใหม่! ฟังเคล็ดลับ “การนอน” โดย Fitbit จากการติดตามผู้ใช้ 6 พันล้านคืน https://positioningmag.com/1258785 Mon, 30 Dec 2019 11:37:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1258785 ปีใหม่นี้มานอนหลับให้ดีขึ้น ด้วยเคล็ดลับการนอนที่วิเคราะห์จากการติดตามผู้ใช้ที่สวมใส่ Fitbit 6 พันล้านคืน ผลจากการวิเคราะห์คือไม่เพียงแต่คุณควรจะนอนให้มากขึ้น แต่ต้องทำสิ่งนี้ด้วย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริการายงานว่า 1 ใน 3 ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันนอนหลับไม่เพียงพอ และจากการสำรวจของ Glassdoor พบว่า พนักงาน 2 ใน 3 ในสหรัฐฯ คิดว่าตนเองสามารถทำงานได้ดีกว่านี้ หากได้นอนมากขึ้น

แม้แต่ผู้นำธุรกิจเช่น Jeff Bezos, Sheryl Sandberg, Bill Gates และ Ariana Huffington ก็กล่าวตรงกันว่า การพัฒนาคุณภาพการนอนให้ดีขึ้น จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานและความสร้างสรรค์ดีขึ้นตามไปด้วย

หลายคนอาจมองว่า การที่ต้องรับผิดชอบชีวิตทั้งการทำงานและที่บ้าน ทำให้ความคิดเรื่องคุณภาพการนอนดูจะไกลเกินเอื้อม แต่ที่จริงแล้ว การเปลี่ยนสิ่งเล็กๆ เพียงอย่างเดียวจะทำให้คุณภาพการนอนของคุณเริ่มดีขึ้นทันที

สิ่งนั้นคือ การเข้านอนให้ตรงเวลาทุกคืน

คำตอบนี้มาจากผลการวิเคราะห์พฤติกรรมการนอนของผู้ใช้ Fitbit บริษัทเริ่มติดตามพฤติกรรมการนอนของลูกค้าที่สวมใส่ Fitbit ระหว่างนอนและนำข้อมูลการนอน 6 พันล้านคืนนั้นมาประมวลผล (ข้อมูลพฤติกรรมการนอนเป็นแบบนิรนาม และถูกเก็บในลักษณะชุดข้อมูลที่รวมผลแล้ว)

Bill Gates เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่กล่าวถึงการนอนช่วยสร้างคุณภาพการทำงาน โดยเขามีเคล็ดลับคือการอ่านหนังสือก่อนนอน 1 ชั่วโมง (Photo by Mike Cohen/Getty Images for The New York Times)

Fitbit พบว่า ความสม่ำเสมอของการเข้านอนคือกุญแจสำคัญ “หากช่วงเวลาเข้านอนของคุณแตกต่างกันสัก 2 ชั่วโมงภายใน 1 สัปดาห์ จะเสมือนว่าคุณได้นอนน้อยกว่าคนที่เข้านอนตรงเวลาทุกวันประมาณ 30 นาที” Yahoo Finance รายงานจากผลวิจัยนี้

ดังนั้น การอยู่ดึกในคืนวันศุกร์-เสาร์ แล้วค่อยมาเข้านอนเร็วในวันอาทิตย์ จะทำให้การนอนไม่ได้คุณภาพ พฤติกรรมแบบนี้ Karla Gleichauf นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่ศึกษางานวิจัยชิ้นนี้เรียกมันว่า “social jetlag” เพราะสภาพร่างกายจะเหมือนกับการเจ็ตแล็กหลังนั่งเครื่องบินข้ามไทม์โซน

เพราะเหตุนี้ เราจึงควรจะตั้งเวลาเข้านอนให้ตรงกันทุกคืนเพื่อให้คุณภาพการนอนดีขึ้น และควรสร้างช่วงเวลา “ไร้กังวล” ผ่อนคลายตนเองก่อนนอนประมาณ 10 นาทีเพื่อให้ทั้งร่างกายและจิตใจพร้อมเข้าสู่เวลานอน มิฉะนั้นความเครียดจากเรื่องงานอาจจะผุดขึ้นมาในความคิดกลางดึกได้ โดยการผ่อนคลายนั้นอาจจะเป็นการอ่านหนังสือหรือนั่งสมาธิ นอกจากนี้ การตื่นมาออกกำลังกายยามเช้ายังช่วยให้การนอนดีขึ้นในยามค่ำคืนได้ด้วย

ได้เคล็ดลับดีๆ และทำได้ง่ายแบบนี้ไปแล้ว หลังปาร์ตี้หนักช่วงปีใหม่ เรามาก้าวเข้าสู่ปี 2020 แบบคนหลับสบายใต้ตาไม่ดำกันดีกว่า!!

Source

]]>
1258785