การเลือกตั้ง – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 13 Feb 2019 07:35:29 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “เรียลไทม์ มาร์เก็ตติ้ง” ต้องมา! แบรนด์เกาะกระแสเลือกตั้ง ปั้นสารพัด “พรรค” https://positioningmag.com/1213789 Wed, 13 Feb 2019 06:33:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1213789 ด้วยจำนวนผู้ใช้สื่อโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มหลัก เฟซบุ๊ก 51 ล้านบัญชี ไลน์ กว่า 44 ล้านบัญชี ทวิตเตอร์ กว่า 12 ล้านบัญชี อินสตาแกรม กว่า 14 ล้านบัญชี ไม่เพียงแต่เป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี แต่วันนี้สามารถเข้าถึงคนทุกวัย 

โซเชียลมีเดีย จึงกลายมาเป็น “สื่อหลัก” ที่บรรดาแบรนด์ต่างๆ ต้องใช้เป็น “ช่องทาง” ดึงดูดความสนใจผู้คนในทุกจังหวะที่เกิด “กระแส” สำคัญ

ประเด็นที่เป็น “วาระแห่งชาติ” ในช่วงนี้ต้องยกให้ “การเลือกตั้ง” ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 เรียกว่าทุกพรรคการเมือง ต่างใช้สื่อโซเชียลมีเดียรายงานความเคลื่อนไหวผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่นเดียวกับ “สื่อออฟไลน์-ออนไลน์” ก็ต้องเกาะติดรายงานประเด็นฮอต ไม่เพียงเท่านั้น บรรดา “แบรนด์” ต่างๆ มองโอกาสในการใช้ “เรียลไทม์ มาร์เก็ตติ้ง” มาครีเอตคอนเทนต์ที่เชื่อมโยงกับการเมือง ในมุมที่ทำให้เรื่องหนักๆ กลายเป็นเรื่องสนุกๆ กับสารพัด #พรรค

“แบรนด์” ปั้นพรรคใหม่

เจ้าพ่อเรียลไทม์ มาร์เก็ตติ้ง อย่าง Major Group หรือโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วในการจับกระแสและแอดมินไม่หลับไม่นอน ปล่อยคอนเทนต์เกี่ยวกับ “พรรค” มาแรง ออกมาหลายเวอร์ชันเช่นกัน ทั้งชวนมาตั้งชื่อให้เหล่า “ไวกิ้ง” ขี่มังกร ของ “ฮิคคัพ” #HowToTrainYourDragon3  ภาพยนตร์ของค่ายดรีมเวิร์ค  

หรือชวนมากา “เบอร์ ว่า รับ แถบ” กับ “พรรคพาล่องลอย” โปรโมตหนัง “สงกรานต์แสบสะท้านโลกันต์” เข้าฉายวันที่ 11 เมษายนนี้ เช่นเดียวกับการเปิดนโยบาย “ไรหนี้ ไร้จน ไร้ปราณี” ของ “พรรคกลับชาติมาเกิด” กับภาพยนตร์เรื่อง The Prodigy เข้าโรง 21 กุมภาพันธ์นี้ กว่าจะถึงวันเลือกตั้ง 24 มีนาคมนี้ คงเปิดตัวนโยบายและพรรคใหม่มาให้ประชาชนออนไลน์เลือกกันอีกเพียบ

ยืนหนึ่งเป็นเจ้าแห่งเรียลไทม์ มาร์เก็ตติ้ง เช่นกัน สำหรับ KFC ที่ใช้ความไวจับกระแส ไม่แพ้ใครในปฐพีนี้ ประเดิมเปิดตัวคอนเทนต์แนะนำ “พรรคกินไก่ เท่าไหร่ก็ไม่พอ” มาให้ชาวโซเชียลเป็นตัวเลือกของสารพัดพรรคในช่วงนี้ ตอกย้ำนโยบาย “ส่งจริง ส่งไว ใกล้ไกลไม่เกี่ยง เย็นสายบ่ายเที่ยง เราพร้อมส่ง” ขอเป็นตัวเลือกให้สายกิน “เลือก KFC เป็นมื้อต่อไป” ตบท้ายด้วยกดเบอร์ 1150

ด้าน Tops Thailand ท็อปส์ ไทยแลนด์ เปิดตัว “พรรคเพื่อช็อป” กับนโยบาย 1 บาท ก็ซื้อได้ เดินหน้าความคุ้มค่าทั่วไทย ขนสินค้ามาเปิดตัวพรรคเครือข่ายอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น “พรรคชาวประชาห้ามหาว” กับสินค้ากาแฟแบรนด์  Moccona “พรรคคู่ฟันขาว” กับยาสีฟัน Sparkle หรือ “พรรคหมดจดสดใส” สินค้า Pigeon

แบรนด์น้ำดื่ม “คริสตัล” มากับ “พรรคนี้ก็จะน่ารักหน่อยๆ” ผ่านพรีเซ็นเตอร์คนหล่อ นาย ณภัทร เสียงสมบุญ อ้อนแม่ยกกันสุดๆ “หากคิดถึงก็ดื่มน้ำ รักน้ำก็ดื่มน้ำ เหนื่อยก็ดื่มน้ำ ท้อก็ดื่มน้ำ” เป็นการตอกย้ำ Message ที่ต้องการสื่อสารของน้ำดื่มไปพร้อมกัน

ฟาก Grab เสนอตัวเลือก “พรรคเถอะ” กับการเลือกพักผ่อนตามอัธยาศัย วางใจ ใช้แกร็บ ทั้งส่งคน ส่งของ สั่งอาหาร เลือกได้ทุกเซอร์วิส GrabCar GrabBike GrabExpress GrabFood

ธุรกิจธนาคารไม่พลาดกระแสเลือกตั้งเช่นกัน ME By TMB เปิดตัว “พรรคเพื่อเงิน” กับนโยบาย สวัสดิการดี ฟรีค่ารักษาบัญชี ทำงาน 24 ชั่วโมง โปร่งใส SMS แจ้งเตือนทุกการโอนถอนฟรี

ธุรกิจสื่อ-คนบันเทิงแห่เกาะเทรนด์

แวดวงสื่อ ธุรกิจบันเทิงและนักแสดง ไม่พลาดกระแสเลือกตั้งเช่นกัน Netflix บริการวิดีโอ สตรีมมิง” ที่ต้องแข่งขันกับความง่วงของผู้ชม จึงมากับ “พรรคก่อนเนาะ” ชวนมาเลือกองค์ชายชางใน Kingdom ซีรีส์เกาหลี ออริจินัลคอนเทนต์ที่ Netflix

ด้าน MonoMax บริการดูหนังออนไลน์ ออกแคมเปญเข้าคูหากาพรรคไหนดีกับซีรีส์จีน-เกาหลี แบบเลือกคนที่รัก กาพรรคที่ใช่ ไฮไลต์อยู่ที่ “พรรคโบกอม” หากต้องการเลือกคนดีศรีโซซอน “โบกอมมี่” ต้องเข้าคูหากาหัวใจอย่างเดียว กับรวมซีรีส์ของ “พัคโบกอม”

รายการข่าวบันเทิงเบอร์หนึ่งของทีวีไทย Nine Entertain เปิดตัว “พรรคภูมิใจเผือก” สโลแกนพรรค “เข้าถึงเรื่องของชาวบ้าน ยกเว้นเรื่องตัวเอง” หากชอบพรรคนี้ เลือกเลยเบอร์ 9 ตามติดมากับ “เจ้าพ่อตีสิบ” วิทวัส สุนทรวิเนตร์ กับ “พรรคสนทนากันสักครู่” เบอร์ 33 โปรโมตรายการตีสิบเดย์ ทุกบ่าย 3 โมงวันเสาร์ ช่อง 33

ช่วงนี้คนบันเทิงเองหลายคนต่างประกาศเปิดตัวพรรค ลงสมัครรับเลือกตั้งกันเช่นกัน ล่าสุด ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ขอตามกระแสอีกคน เปิดตัว “พรรคที่จะล้อม” บอกคุณสมบัติผู้สมัครกับสโลแกน “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ผลดีพิสูจน์ใจ”

“แบรนด์” ดูทันสมัย แต่มาไวไปไว

ต้องยอมรับว่าเมื่อสื่อออนไลน์กลายเป็น “สื่อแมส” ที่เข้าถึงผู้ใช้งานระดับ 50 ล้านคน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจึงเป็นช่องทางหลักที่แบรนด์ใช้สร้างปฏิสัมพันธ์ (Engagement) กับผู้บริโภคได้ตลอดเวลา

เมื่อช่วงเวลาใดมีคอนเทนต์ที่เป็น talk of the town แบรนด์ นักการตลาดและนักสื่อสาร ต้องไม่พลาดหยิบกระแสมาเล่นเป็น “เรียลไทม์ มาร์เก็ตติ้ง” เพื่ออยู่ในกระแสสนใจของผู้คน แต่ต้องอาศัยความไวและคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ได้แบบโดนใจ สร้างให้เป็นกระแส “บอกต่อ” พร้อมสร้างการรับรู้ (Awareness) และทำให้แบรนด์อยู่ใน top of mind ปลายทางคือต้องการให้เกิด action ตัดสินใจซื้อ

ไตรลุจน์ นวะมะรัตน นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) มองว่า กลยุทธ์เรียลไทม์ มาร์เก็ตติ้ง เป็นสิ่งที่แบรนด์นำมาใช้ระยะสั้น เพื่อดึงดูดความสนใจผู้บริโภค แต่ต้องอาศัยความไว เพราะรายที่มาก่อนหากมีไอเดียดี จะสร้างการรับรู้ได้ก่อน

ปีก่อนหลายแบรนด์เกาะกระแส “บุพเพสันนิวาส” และมีแบรนด์ที่ทำได้ดี เช่นเดียวกับช่วงนี้ ที่ผู้คนติดตามเรื่องการเลือกตั้ง การหยิบประเด็นนี้มาสร้างสรรค์เป็นคอนเทนต์ในโซเชียลมีเดีย หากน่าสนใจจะทำให้เกิดการค้นหาข้อมูลรายละเอียดของแบรนด์ ถือเป็นการ remind แบรนด์ที่ดี

กระแสล้อเลียนตั้งพรรคใหม่ ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง มีหลายแบรนด์นำมาใช้ รวมทั้งคนทั่วไปก็หยิบมาเล่น หากจะเล่นกับกระแสต้องทำเร็ว การมาก่อนจะสร้างการรับรู้ได้ก่อน

ทางด้าน แพน จรุงธนาภิบาล รองผู้อำนวยแผนกพัฒนาและการตลาด และ ณัฐวีร์ ณีว มาวิจักขณ์ หัวหน้าแผนกพัฒนาและการตลาด กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) ร่วมกันให้มุมมองว่า “เรียลไทม์ มาร์เก็ตติ้ง” ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่เกิดจากพลังของผู้บริโภคที่ต้องการมีส่วนร่วมในสถานการณ์ที่เป็นกระแส แบรนด์ต่างๆ จึงสร้างสรรค์คอนเทนต์และนำเสนอผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งแบรนด์เองจะได้ภาพลักษณ์ที่ทันสมัยเกาะติดเทรนด์   

“การเล่นกับกระแส ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่มาไวไปไว บางกระแสอยู่เพียงแค่ 1 วันก็จบ การจะเล่นกับกระแสจึงต้องคาดการณ์และจับทิศทางให้ได้ว่าแบรนด์จะได้อะไร”

สำหรับ ภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ เอ็มไอ มองว่า สร้างสรรค์คอนเทนต์ล้อเลียนกระแสการเลือกตั้ง ด้วยการตั้งพรรคต่างๆ เป็นการนำประเด็นที่กำลังอยู่ในความสนใจของผู้คน มาสร้างโอกาสให้เกิดความสนใจพูดถึงและทำให้แบรนด์ดูทันสมัยเกาะติดทุกเทรนด์.

]]>
1213789
ทีวี-วิทยุอด กม.ห้ามพรรคการเมืองซื้อโฆษณาช่วงเลือกตั้ง คาดสื่อออนไลน์มาแรง https://positioningmag.com/1204561 Fri, 21 Dec 2018 11:17:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1204561 นักการเมืองและพรรคการเมืองห้ามซื้อสื่อโฆษณาทางทีวีและวิทยุ คาดหันไปซื้อสื่อในช่องทางออนไลน์ และออนกราวด์มากขึ้น หลัง กกต.ชี้แจงทำความเข้าใจสื่อ

หลังจาก กสทช.ได้เรียกประชุมบรรดาผู้ประกอบกิจการวิทยุและทีวี ที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช.เรื่องทำความเข้าใจสื่อก่อนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 21 ..ที่ผ่านมา โดยมีณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต. เป็นผู้ให้รายละเอียดกับผู้ประกอบกิจการหลายร้อยคน

ในที่ประชุมผู้แทนของ กกต.ได้ชี้แจงว่า การเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศในปี 2562 นี้ ตามกฎหมายการเลือกตั้งไม่สามารถให้บรรดาผู้สมัคร ส.ส.และพรรคการเมืองซื้อสื่อโฆษณาเพื่อหาเสียงในทีวีและวิทยุได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า สื่อทีวีและวิทยุเป็นสื่อของรัฐ ที่ได้รับการอนุญาตประกอบกิจการจาก กสทช. เพื่อความเป็นกลางและเท่าเทียมกับของทุกพรรคและผู้สมัครทุกคน แต่สามารถไปลงโฆษณาในช่องทางอื่นๆ เช่น ออนไลน์ ได้

จากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.สวันที่ 12 .. 2561 ข้อ 69 ระบุว่า มาตรา ๖๙ ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งทางวิทยุกระจายเสียง หรือวิทยุโทรทัศน์ เว้นแต่เป็นการดําเนินการตามที่ได้รับการสนับสนุนตามมาตรา ๘๑

มาตรา ๘๑ ให้คณะกรรมการมีหน้าที่สนับสนุนการโฆษณาหาเสียงเลือกต้ังให้แก่ผู้สมัครและ พรรคการเมือง ท้ังนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกําหนด ในการน้ี คณะกรรมการจะขอให้ หน่วยงานอื่นของรัฐเป็นผู้ดําเนินการสนับสนุนด้วยก็ได้

ในการสนับสนุนการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการอาจจัดเวทีประชัน นโยบายบริหารประเทศสําหรับพรรคการเมืองได้ด้วย

จากข้อมูลของนีลเส็น งบโฆษณาในช่วงการเลือกตั้งครั้งล่าสุดของประเทศไทยในปี 2554 พรรคการเมืองได้ใช้งบโฆษณากันไปทั้งหมดรวมประมาณ 300 ล้านบาท เป็นการใช้สื่อโฆษณาในหนังสือพิมพ์มากที่สุด 50% , ทีวี 46%วิทยุ 3% และสื่อกลางแจ้ง 1% 

พรรคการเมืองที่ใช้งบซื้อสื่อโฆษณามากที่สุดคือ พรรคประชาธิปัตย์ ใช้งบ 127 ล้านบาท พรรคชาติไทยพัฒนา 42 ล้านบาท พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 35 ล้านบาท พรรคภูมิใจไทย 22 ล้านบาท พรรคเพื่อไทย 21 ล้านบาท และพรรคอื่นๆ รวมกัน 44 ล้านบาท

โดยใช้โฆษณาทีวีในช่วงนั้นใช้อยู่ประมาณ 130 ล้านบาท ซึ่งยังเป็นยุคทีวีแอนะล็อก มีเพียง 6 ช่องเท่านั้น และสื่อออนไลน์ยังไม่เติบโตขนาดนี้

เมื่อ กกต.ระบุห้ามการซื้อสื่อทีวี จึงมีการคาดการณ์ว่า งบซื้อสื่อของบรรดาพรรคการเมืองจะหันมาเทลงช่องทาง ออนไลน์, สื่อนอกสถานที่ บิลบอร์ด จอแอลอีดี หรือการจัดกิจกรรมออนกราวด์ และหนังสือพิมพ์มากขึ้น

นอกจากนี้การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่จะมีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรกที่มีประมาณ 7-8 ล้านคน จึงคาดว่าสื่อออนไลน์น่าจะเป็นช่องทางที่มียอดโฆษณาเติบโตสูงสุด

ทั้งนี้ กกต.ได้เปิดให้บรรดาพรรคเมืองและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมด สามารถเริ่มหาเสียงได้ตั้งแต่วันที่ 2 .. 2562 เป็นต้นไป จนกว่าการเลือกตั้งจะสิ้นสุด ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่สามารถซื้อโฆษณาทางทีวีและวิทยุได้

ส่วนการจัดรายการทางทีวีวิทยุ ต้องให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกพรรคการเมือง ซึ่งอีกคำถามที่บรรดาผู้ประกอบการสอบถามมากคือ จะสามารถจัดดีเบท เชิญบรรดาแกนนำพรรคใหญ่บางพรรคมาในรายการทีวีได้หรือไม่ ซึ่งตัวแทน กกต.ชี้แจงว่า จะทำได้ในกรณีที่ มีโพลมาประกอบการดีเบท ซึ่งอ้างอิงตามโพลและเชิญตัวแทนพรรคเหล่านั้นมาร่วมรายการ เพื่อให้เกิดความเป็นกลาง เป็นธรรมมากที่สุด เพราะกฎหมายต้องการให้ทุกพรรคมีโอกาสเท่าเทียมกัน.

]]>
1204561