คราวนี้มาถึงผลงานที่แท้จริงกันบ้าง After You รายงานผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี 2019 มีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 599 ล้านบาท เติบโต 48% หรือเพิ่มขึ้นถึง 194 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้ของ “ร้านขนมหวาน” เพิ่มขึ้น 161 ล้านบาท หรือเติบโตถึง 41% เนื่องจากการเปิดสาขาใหม่ทั้งสิ้น 6 สาขา ปัจจุบันมีรวมกัน 38 สาขาและการเพิ่มขึ้นของยอดขายของสาขาเดิม
และ “การขายสินค้าและวัตถุดิบ” เพิ่มขึ้น 29 ล้านบาท หรือ 2,900% ตัวเลขที่หวือหวานี้มาจากทั้งงานจากสายการบินโดยเฉพาะ “แอร์เอเชีย”, 2. Starbuck 3. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ 4. ขนมปังเนยโสดและนมโสดที่สั่งทำจากสาขาใหญ่
ทั้งหมดนี้ทำให้ช่วงครึ่งปีแรก 2019 After You สามารถทำกำไรสุทธิเป็นตัวเลขถึง 123 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 63 ล้านบาท หรือ 105% เนื่องจากการบริหารจัดการที่ดีขี้นและผลจาก Economies of scale จากการดําเนินการ 38 สาขา ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น
ตัวเลขที่เกิดขึ้นเป็นไปตามการประเมินก่อนหน้านี้ของ บริษัท หลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด ที่ได้ระบุว่า After You จะมีรายได้เติบโตจาก Delivery และซื้อกลับบ้านเพิ่มข้ึน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนพนักงานและสถานที่
การประเมินนี้ถูกยืนยันด้วยสัดส่วนยอดขาย สินค้าปรุงสดต่อสินค้าซื้อกลับบ้าน 71% : 29% ซึ่งแม้จะไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า สินค้าซื้อกลับบ้านในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีเป็นจำนวนเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าปีนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดดแน่นอน
เพราะในไตรมาส 2 ซึ่งยอดขายจากร้านขนมหวานเติบโต 45% หรือคิดเป็นตัวเลข 91 ล้านบาท After You ได้ระบุเองว่า มาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายสินค้าซื้อกลับบ้านจากสาขา การออกเมนูใหม่และการออกเมนูตามเทศกาล
ขณะเดียวกันมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในหมวด To-Go อย่างต่อเนื่อง จากการทําวิจัยและพัฒนา (R&D) ภายใน ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เคยออกมาแล้วนั้นอาทิเช่น ชานมไข่มุก ซูเฟล์ชีสเค้ก และเอแคลร์ สินค้าล่าสุดคือ “Pancake Mix” ผลิตภัณฑ์วัตถุดิบสําเร็จรูปชิ้นแรกที่ลูกค้าสามารถใช้เป็นนวัตถุดิบในการทําแพนเค้กเองที่บ้านได้
นอกจากนี้ After You เองก็เพิ่มโมเดล Grab-and-Go ซึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มคนเมือง ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก โดยโดยมีการเพิ่มจํานวน Pop-up store อย่างต่อเนื่องในหลายพื้นท่ี โดยล่าสุดได้เปิดดําเนินการร้าน Pop-up store ในพื้นที่สถานีรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) จำนวน 4 สถานีได้แก่ สวนจตุจักร เพชรบุรี สามย่าน และสุขุมวิท
สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีแผนที่จะเปิดเพิ่มเติมจํานวน 2 – 4 สาขาในประเทศไทยและอีก 1 สาขาแฟรนไชส์ในฮ่องกง ซึ่งปัจจุบันได้เซ็นสัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดการณ์ว่าสาขาในฮ่องกง จะสามารถเริ่มดําเนินงานก่อนวันคริสต์มาสในไตรมาสที่ 4 ปีนี้
]]>แต่ฝันหวานก็อยู่ได้ไม่นาน หลังจากนั้นก็ขึ้นๆ ลงๆ จน ณ วันนี้ราคาหุ้นอยู่ที่ 8.65 (14 ก.พ. 2562 17:04:05) เท่านั้น เนื่องจากต้องเผชิญกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง และ After You วางตัวอยู่ในกลุ่มร้านขนมหวานพรีเมียม ราคา 100 – 300 บาทต่อจาน
หมอกควันจึงคลุมอยู่ใน After You ไม่แพ้ที่คลุมอยู่ในกรุงเทพฯ แม้แต่นิดเดียว
กลายเป็นแรงกดดันให้ After You ต้องเร่งปั๊มรายได้ ซึ่งนอกเหนือจากการขยายสาขาแล้ว ต้องใช้วิธีออกสินค้าใหม่มาจุดกระแสต่อคิว และควานหาสินค้า “แรร์ไอเทม” อีกครั้ง
ช่วงปลายปีที่ผ่านมาการออกเมนู “ขนมปังเนยโสด” และ “ขนมปังนมโสด” ของ After You ในราคากล่องละ 100 บาท ได้รับเสียง “ฮือฮา” จากผู้คนในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก ด้วยชื่อที่ตั้งมาได้สะดุดหู และในช่วงแรกยังจำกัดการขายแค่ละวัน 100 กล่องเท่านั้น ทำให้ถึงขนาดเกิดเป็นธุรกิจรับหิ้วขนมทั้ง 2 ชนิดเลยทีเดียว
และดูเหมือนว่าทั้ง 2 เมนูที่ออกมาจะเข้ามา “ชุบชีวิต” เลยก็ว่าได้ เพราะจากบทวิเคราะห์ที่เขียนโดย นฤมล เอกสมุทร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง บอกว่า ยอดขายที่ออกมาสวยหรูเกินคาด
จนคาดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คาดการณ์ “กำไร” ในไตรมาส 4/2018 อยู่ที่ 43 ล้านบาท เติบโต 25% เทียบปีต่อปี และ 12% ไตรมาสต่อไตรมาส ถือว่าทำได้เติบโตพอสมควร จากกำไรในไตรมาส 3/2019 ที่ทำได้ 38.45 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 7.85%
ซึ่งต้องบอกว่าตัวเลขที่ว่านี้ยังเป็นเพียงการ “คาดการณ์” จากยอดขายวันละ 2,000 กล่อง และกำไร 15% เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงยอดขายของทั้ง 2 เมนูได้พุ่งขึ้นไปถึง 4,000 กล่อง และกำไรอาจจะพุ่งไปถึง 30% เพราะแทบจะไม่จะมีต้นทุนเลย
อย่างไรก็ตาม การที่ After You จะสามารถทำกำไรและรายได้ที่เติบโตอย่างมั่นคง ยังคงต้องพึ่งปัจจัยหลักจากการ “ขยายสาขา” เท่านั้น ซึ่งจากข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2018 มีสาขาอยู่ทั้งหมด 31 สาขา ในกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ปทุมธานี นนทบุรี นครราชสีมา เชียงใหม่ และอุดรธานี
สำหรับในปี 2019 After You วางแผนขยาย 10 สาขาด้วยกัน หลักๆ อยู่ในต่างจังหวัดประมาณ 50% ซึ่งจะเป็นหัวเมืองที่มีกำลังซื้อ และมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก และจะเปิดมากในช่วงไตรมาสแรกของปีถึง 5 สาขา ได้แก่ ไอคอนสยาม, ภูเก็ต, The Market Ratchaprasong, 101 The Third Place และสุขุมวิท 11 ทำให้เมื่อถึงสิ้นปีจะมีสาขาทั้งหมด 41 แห่ง
ขณะเดียวกันคาดว่าในไตรมาส 2/2019 เชื่อว่าจะได้เห็นสาขาของ “After You” สยายปีกไปยังต่างประเทศ เริ่มปักหมุดที่ “ฮ่องกง” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแผนจากเดิมที่จะไปที่ “มาเลเซีย” เป็นแห่งแรก แต่ติดปัญหาทางด้านกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ “After You” ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการจัดตั้งบริษัทใหม่ชื่อ “After You Hong Kong Limited” ที่ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ทุนจดทะเบียน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐไว้รองรับก่อนแล้ว.