ขายธุรกิจในอาเซียน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 07 Apr 2021 12:40:59 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 J&T Express บิ๊กขนส่งอินโด เตรียมขาย IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ คาดระดมทุน 1 พันล้านดอลลาร์ https://positioningmag.com/1326898 Wed, 07 Apr 2021 10:53:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1326898 ‘J&T Express’ บริษัทโลจิสติกส์ยักษ์ใหญ่ของอินโดนีเซีย เร่งการเติบโตไปอีกขั้น เตรียมเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ คาดเกิดขึ้นช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ประเมินระดมทุนได้ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์

Bloomberg รายงานโดยอ้างเเหล่งข่าวว่า J&T Express กำลังทำงานร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อยื่นเสนอขายหุ้น IPO ในตลาดสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 4 ของปีนี้

เบื้องต้นมีการประเมินว่า การขาย IPO ครั้งนี้ จะระดมทุนได้ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.1 หมื่นล้านบาท) ซึ่งจะทำให้มูลค่าบริษัทของ J&T Express เพิ่มขึ้นไปเเตะ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.56 เเสนล้านบาท)

แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า J&T Express กำลังจะมีการระดมทุนรอบใหม่หลังเพิ่งระดมทุนได้ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.4 พันล้านบาท) ไปเมื่อไม่นานมานี้

โดยการเสนอขายหุ้น IPO ของ J&T Express ในตลาดนิวยอร์กครั้งนี้ ถือเป็นการท้าชิงตำแหน่งเเชมป์ของบริษัทอินโดนีเซียที่สามารถระดุมทุนได้มากที่สุดในตลาดหุ้นสหรัฐฯ กับ ‘PT Indosat’ โทรคมนาคมรายใหญ่ ที่เคยขาย IPO ได้ราว 1.05 พันล้านดอลลาร์ มาตั้งเเต่ปี 1994

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดและไทม์ไลน์ของการเสนอขายหุ้น IPO ของ J&T Express อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งทางบริษัทยังปฎิเสธที่จะให้ความคิดเห็นต่อข่าวนี้

สำหรับ J&T Express ก่อตั้งในปี 2015 โดยสองผู้บริหารอย่าง Jet Lee เเละ Tony Chen ให้บริการธุรกิจโลจิสติกส์ในอินโดนีเซีย ต่อมาขยายไปในประเทศเเถบอาเซียนอย่าง มาเลเซีย เวียดนาม ไทย สิงคโปร์ กัมพูชา และจีน มีพนักงานมากกว่า 350,000 คน เเละมีผู้ใช้บริการมากกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลก

ที่ผ่านมา บริษัทมีการถึงร่วมมือเป็นพันธมิตรกับอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ๆ ของอินโดนีเซียอย่าง PT Tokopedia และ Bukalapak.com รวมถึง Shopee ของสิงคโปร์

ดีมานด์ของธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้า เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงการเเพร่ระบาดของ COVID-19 เมื่อผู้บริโภคหันมาช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้บริการขนส่งเติบโตตามไปด้วย

สำหรับในประเทศไทยนั้น J&T Express เข้ามาเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2019 โปรโมตด้วย ‘Entertainment Marketing’ โดยเลือกนักเเสดงชื่อดังอย่างมาริโอ้ เมาเร่อเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกพร้อมกลยุทธ์การขึ้นป้ายหน้าร้านสาขา

โดยบริษัทได้ลงทุนในไทยไปแล้วราว 6,000 ล้านบาท เเละในปี 2564 มีเเผนจะลงทุนเพิ่มอีกราว 3,000 ล้านบาท ในด้านเทคโนโลยีการคัดแยก ยานพาหนะ และพนักงาน

 

ที่มา : Bloomberg

 

 

]]>
1326898
ทำไม Uber อาจต้องขายธุรกิจในอาเซียนให้ Grab? https://positioningmag.com/1157890 Wed, 21 Feb 2018 04:21:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1157890 อูเบอร์ (Uber) ผู้ให้บริการรถร่วมเดินทางรายใหญ่เป็นข่าวว่า อาจตัดสินใจขายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้กับคู่แข่งอย่างแกร็บ (Grab) เพื่อปรับปรุงฐานะทางการเงินของตัวเองในช่วงเวลาที่กำลังเตรียมนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ และเสนอขายหุ้นครั้งแรก หรือ IPO รายงานชี้มีแนวโน้มที่ดีลจะระบุให้ Uber ได้รับหุ้นใน Grab เป็นการตอบแทน ด้านซีอีโอ Uber ยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การดำเนินงานใน “ตลาดกำลังพัฒนา” เป็นการลงทุนที่ไม่จำเป็นสำหรับบริษัท

รายงานจากสำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) ระบุว่า Uber เตรียมอาบน้ำแต่งตัวพร้อมจะขายธุรกิจในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ให้แก่บริษัทแท็กซี่คู่แข่งรายอื่น โดย CNBC กล่าวว่า Uber จะได้รับหุ้นจำนวนไม่น้อยใน Grab เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่กำลังเกิดขึ้น

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) เคยรายงานเมื่อปี 2017 ว่า Uber กำลังต้องดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อแข่งขันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากคู่แข่งอย่าง Grab เปิดตัวฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย และกระบวนการชำระเงินทางเลือกที่ Uber ไม่มี จุดนี้สื่ออเมริกันจึงวิเคราะห์ว่า Uber พยายามแก้เกมด้วยการผลักดันรูปแบบธุรกิจ และแอปพลิเคชันของตัวเอง ออกมาสู่ตลาดที่มั่งคั่งมากกว่าแทน

หากการซื้อขายระหว่าง Uber และ Grab เกิดขึ้นจริง นี่จะไม่เป็นครั้งแรกที่ Uber เฉือนเนื้อขายธุรกิจนอกพื้นเกิดไป เพราะเมื่อปี 2016 ดาวรุ่งอย่าง Uber ตัดสินใจควบรวมกิจการในประเทศจีนเข้ากับคู่แข่งแดนมังกรอย่าง Didi โดย Didi ตกลงเทเงินลงทุนมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.15 หมื่นล้านบาท) ใน Uber ซึ่งเป็นช่วงที่ Uber มีมูลค่าตลาดมากกว่า 6.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.1 ล้านล้านบาท)

ผลของการลงทุนครั้งนั้น ทำให้นักลงทุนของ Uber China กลายเป็นผู้ถือหุ้น 20% ของบริษัท ที่ควบรวมกิจการแล้ว ซึ่งมีมูลค่าตลาดราว 3.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

หากการซื้อขายระหว่าง Uber และ Grab เกิดขึ้นจริง นี่จะไม่เป็นครั้งแรกที่ Uber เฉือนเนื้อขายธุรกิจนอกพื้นเกิดไป

***เส้นทางใหม่เพื่อทำกำไรของ Uber?

ดารา คอซรอว์ชาฮิ (Dara Khosrowshahi) ซีอีโอ Uber ประกาศชัดเจนในงานประชุม Goldman Sachs Technology and Internet Conference ในซานฟรานซิสโก ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า Uber อาจจะขายส่วนธุรกิจที่ทำประสิทธิภาพต่ำ เพื่อปรับปรุงบัญชีของบริษัท ก่อนที่ Uber จะดำเนินการเสนอขายหุ้นในปี 2019

ซีอีโอ Uber อธิบายว่า ตลาดหลักของ Uber ในช่วงไตรมาสที่ 4 คือ ตลาดที่พัฒนาแล้ว และรายได้รวมจากประเทศกลุ่มนี้จะช่วยอุ้มค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจของบริษัท จุดนี้ Khosrowshahi ย้ำว่า บริษัทกำลังเน้นดำเนินงาน 2 ส่วน ซึ่งรวมการเทเงินลงทุนในตลาดที่กำลังพัฒนาด้วย 

“แม้จะเป็นตัวเลขค่าใช้จ่ายตัวแดงที่เห็นได้ชัด แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนทางเลือกสำหรับ Uber” ซีอีโอ Uber ระบุ โดยเชื่อว่าการลงทุนในตลาดกำลังพัฒนา จะยังทำให้ Uber ติดลบต่อไปอีกนาน

ยุโรปคือหนึ่งในตลาดที่พัฒนาแล้ว ซึ่งทำรายได้มากจนช่วยอุ้มค่าใช้จ่ายของ Uber ได้ระดับหนึ่ง

ในภาพรวม Khosrowshahi มองว่า ภาวะติดลบจะยิ่งเพิ่มขึ้นในยุคที่ยานยนต์อัตโนมัติแจ้งเกิดแพร่หลาย ทั้งหมดนี้ทำให้เขาระบุว่า หากตัดปัจจัยทั้งหมดทิ้งไป ตัวเขาเองอยากตัดสินใจหยุดการลงทุนเพื่อเน้นทำเงินจากบริการหลักที่มีอยู่ให้ดีที่สุด

“หากลืมเรื่องทั้งหมดนี้ไป สิ่งที่ผมต้องการ คือ บริการหลัก” โดยบอกว่า หาก Uber เน้นทำตลาดทุกบริการที่มีอยู่แล้ว หรือหยุดการลงทุนทุกอย่าง บริษัทจะเป็นธุรกิจที่มีเม็ดเงินกระแสเงินสดหมุนเวียนสูงมาก สัดส่วนไม่น้อยกว่า 1 ใน 4.

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000017683

]]>
1157890