คุกกี้เสี่ยงทาย – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 09 May 2018 09:11:03 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 กฎเหล็ก BNK48 เป็นไอดอลต้องเป๊ะ  เพราะชีวิตจริงไม่มีคุกกี้เสี่ยงทาย https://positioningmag.com/1169260 Wed, 09 May 2018 07:47:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1169260 BNK48 (บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต) วงน้องสาวอันดับที่ 5 ของ AKB48 เป็นกลุ่มไอดอลหญิงของประเทศไทย ที่มาภายใต้แนวคิดที่ว่า “ไอดอลที่คุณสามารถไปพบได้” ตั้งแต่เดบิวต์เมื่อปี 2017 ก็ปัง ดังเป็นพลุแตก ขึ้นท็อปเพลงทุกชาร์ตและเป็นที่พูดถึงแพร่หลายด้วยพลังโอตะ (แฟนคลับ) ของพวกเธอ จนทำให้บรรดาผลิตภัณฑ์สินค้าและสารพัดแบรนด์ต้องยืมพลังพวกเธอมาใช้ในการตลาดกันอย่างพึ่บพั่บ 

แต่สิ่งที่เป็นที่พูดถึงไม่น้อยกว่าความน่ารักของไอดอลแต่ละคนก็คือ กฎระเบียบต่างๆ ที่ทางต้นสังกัดบัญญัติไว้อย่างชัดเจน ซึ่งมีเพียง 5 ข้อ แต่ทุกข้อต้องเป๊ะ ไม่มีการยกเว้น ดังต่อไปนี้

1. สมาชิกทุกคนต้องย้ายมาอยู่ในกรุงเทพฯ ระบุไว้ชัดเจนตั้งแต่ตอนสมัคร โดยทีมงานจะเป็นคนช่วยหาที่พักให้ เพื่อความสะดวกในการทำงาน

2. ห้ามถูกเนื้อต้องตัว และห้ามเซลฟี่กับแฟนคลับ โดยเฉพาะ “การจับมือ” เพราะจะมีการขายบัตรในอีเวนต์การจับมืออย่างเป็นทางการ และขายรูปถ่าย ถ้าจับมือถ่ายรูปได้ทั่วไป ย่อมีผลต่อมูลค่าของบัตรและรูปถ่ายของพวกเธอเองที่ดูเป็นของหายากเสียจริง

3. เคร่งครัดการใช้สื่อโซเชียลทุกช่องทาง พอเริ่มเป็นสมาชิก BNK48 ทุกคนต้อง Set Zero สื่อโซเชียลทุกช่องทางเดิมของตน และต้องตั้งใหม่พร้อมกัน เพื่อให้ทุกคนเริ่มพร้อมกันภายใต้การใช้ชื่อ BNK48 อย่างเป็นทางการ

4. ไม่ทำงานเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง หรือสื่อลามกอนาจารใดๆ ทั้งสิ้น เพราะทางต้นสังกัดต้องการสื่อให้เห็นว่า วงมีภาพลักษณ์ของการเป็นเด็กสาวบริสุทธิ์ สดใส จึงกันเรื่องพวกนี้ออกไปให้ไกลที่สุด อย่างกรณีของ ปัณณ์ ที่เคยถูกผับชื่อดังแห่งหนึ่งเอารูปน้องไปขึ้นเพื่อเป็นการโฆษณาผับ ก็เคยเกิดเป็นดราม่าใหญ่โตมาแล้ว

5. งานของวงถือว่าสำคัญเป็นอันดับแรก เพราะตารางซ้อม ตารางงานของวงค่อนข้างแน่นมาก ทำให้ส่วนใหญ่เลือกการศึกษานอกระบบ หรือปรับตารางเรียนของตนเองเพื่อไม่ให้ตรงกับตารางซ้อม แต่ก็มีเมมเบอร์บางคนที่บริหารเวลาของตนเองได้ดีทั้งการเรียนและการงานของวง

นอกบัญญัติ 5 ประการที่กำหนดไว้ชัดเจนในสัญญาและทุกคนต้องปฏิบัติตาม ดูเหมือนว่าจะบางกฎที่หลายคนคงเคยได้ยินๆ กันมาบ้าง และดูโหดไม่แพ้กัน ที่แม้ทางตัวเมมเบอร์และต้นสังกัดต่างพร่ำบอกว่า ไม่บังคับใช้บทลงโทษอะไรที่เป็นทางการ หรือเรียกง่ายๆ ว่ากฎดังต่อไปนี้ เป็นแค่สัญญาใจเท่านั้น นั่นก็คือ

1. ห้ามศัลยกรรม ด้วยความที่ภาพลักษณ์ของวงต้องการเน้นความเป็นเด็กสาวที่เต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ตอบโจทย์ความชอบของโอตะหลายๆ กลุ่ม จึงไม่นิยมให้หน้าตาเป็นไปตามสมัยนิยมเหมือนๆ กัน อย่าง ปูเป้ ที่มีปัญหาเรื่องของฟัน ก็มีหลายคนเชียร์ให้น้องไปจัดฟัน แต่น้องก็ได้โพสต์หน้าสื่อโซเชียลของตนเป็นนัยๆ ว่า ถ้าจัดฟันก็คงเหมือนคนอื่นๆ จึงอยากเก็บไว้เป็นเอกลักษณ์ของตนเองมากกว่า

2. การห้ามรับของขวัญจากแฟนคลับที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 บาท ซึ่งการรับของที่บรรดาโอตะพร้อมเปย์ให้เมมเบอร์ในราคาที่สูงมากเกินไปอาจทำให้ภาพลักษณ์ดูไม่ดี เพราะคนเราคิดกันไปได้ต่าง ๆ นานา โดยเฉพาะการนำเรื่องเงินมาผูกกับความชื่นชอบ แต่สำหรับโอตะที่อยากจะเปย์โอชิตัวเองมากๆ ทางบริษัทก็จัดไว้ให้เปย์หลากหลายช่องทางให้อยู่แล้ว อาทิ ของที่ระลึกต่างๆ บัตรจับมือ อัลบั้ม รูปถ่าย หรือแม้กระทั่งการไลฟ์ Voov ที่สามารถส่งของขวัญให้โอชิของตนได้โดยตรง ฯลฯ

3. ห้ามมีแฟน เป็นกฎที่ดูจะไม่เข้าใจวัยรุ่นที่สุดแล้ว เลยถือเป็นกฎเหล็กแสนโหดแสนหิน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนเล็กๆ แต่ว่าทุกคนก็รับทราบโดยพร้อมเพรียงกันตั้งแต่ก่อนเซ็นสัญญาเข้าวง แม้ว่าจะไม่ได้ห้ามอย่างเด็ดขาด หรือมีบทลงโทษที่ชัดเจน

สมาชิกทุกรายไม่ว่าที่ไหน ถ้าฝ่าฝืนกฎห้ามมีแฟน มักจะโดนลงโทษกันไปตามระเบียบ เช่นเดียวกับกรณีของ แคน นายิกา ศรีเนียน สมาชิก BNK48 ที่กลายเป็นละครบทใหม่ในโซเชียลตอนนี้ เพราะแม้จะออกมายอมรับผิดแต่โดยดีกรณีที่มีคนโชว์หลักฐานรูปถ่ายว่าไปทานข้าวกับแฟน โดยเธอพูดตบท้ายชัดเจนว่า “จะไม่นิ่งเฉยกับบุคคลที่มีเจตนาไม่ดีกับแคน”

ในแฟนเพจอย่างเป็นทางการของ BNK48 ก็ได้มีการโพสต์บทลงโทษในการทำผิดกฎของสาวแคนเกี่ยวกับการห้ามมีแฟนจากต้นสังกัดออกมาแล้ว โดยระบุว่า จะทำการพักงานนักร้องหญิงเป็นเวลา 1 เดือนต่อการทำผิดกฎดังกล่าว ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันนี้ (8 พฤษภาคม 2561) เป็นต้นไป

นอกจากกรณีของแคนลองมาดูว่า ที่ผ่านมีสมาชิกคนใด กลายเป็นประเด็นร้อนในการละเมิดกฎข้อนี้กันบ้าง

มินามิ มิเนกิชิ รายนี้สมาชิกวง AKB48 วงรุ่นพี่ที่เป็นข่าวช็อกวงการมาครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีสื่อถ่ายภาพเธอตอนขึ้นไปคอนโดพร้อมกันกับผู้ชาย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ทางต้นสังกัดและชาวโอตะรับไม่ได้ ถึงกับประณามและต่อว่าอย่างรุนแรง เธอจึงออกมาอัดคลิปขอโทษในขณะที่ผมบนศีรษะของเธอถูกโกนเพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการสำนึกผิดและขอให้ทุกคนอภัยให้กับเธอเพราะเธอก็ยังอยากอยู่ในวงต่อไป

เมษา จีนะวิจารณะ สมาชิก BNK48 เริ่มจากที่เธอโดนชายคนหนึ่งที่อ้างตัวว่า เป็นโอตะ กล่าวหาว่าเธอมีแฟนพร้อมงัดหลักฐานมาโชว์มากมายตอนต้นกุมภาพันธ์ 2560 แต่เรื่องก็เงียบไป

จนกระทั่งเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาเปิดเผยทำนองเดียวกันอีก พร้อมให้เมษาออกมาตอบให้ชัดเจนว่ามีแฟนจริงหรือไม่ จนถึงขั้นที่ จ๊อบ ชิไฮนิน หรือ จ๊อบซัง ผู้จัดการวง BNK48 ต้องออกมาขอให้เหล่าโอตะใจเย็นๆ เพราะกำลังปรึกษาทนายอยู่

จนถึงเดือนมกราคมปีนี้ที่ผ่านมา ในไอจีสตอรี่ (IG Story) ของเมษา ได้โพสต์ภาพชายคนหนึ่งที่นอนบนเตียงคล้ายๆ ร้านนวด แล้วลบคลิปออกทีหลัง แต่แต่ช้ากว่าชาวเน็ตที่มือไวกดโหลดไว้อย่างรวดเร็ว งานนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากการผิดพลาดลงผิดแอคเคานต์ ท้ายที่สุดต้นสังกัดจึงลงโทษประกาศพักงานเมษาไปเป็นระยะเวลา 1 เดือน

ส่วนกรณีล่าสุดของ แคน BNK48 หลังจากที่จบข่าวของเมษาไป เหล่าโอตะก็โล่งใจเพราะถือว่ามีการลงโทษที่ชัดเจน แต่ก็ไม่วาย ที่แคนก็ก่อเหตุซ้ำในกรณีเดิม “แคน” ซึ่งมีภาพลักษณ์ของนักกิจกรรม จิตอาสา แม้ว่าจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ในช่วงแรก แต่ก็เคยติดเซ็มบัตสึ (ตัวจริง) และมีฐานแฟนคลับไม่น้อยที่ชื่นชมในเสียงร้องของเธอ จนมีคะแนนให้เธอได้เป็นตัวจริงในทีม BIII (บีทรี) ที่จะแสดงในเธียร์เตอร์อีกด้วย

แต่พอล่าสุด เมื่อมีภาพแคนไปกินข้าวกับผู้ชายสองต่อสองในไอจี นอกจากต้นสังกัดก็ออกมาพักงาน 1 เดือนตามระเบียบ พร้อมทั้งเปลี่ยนตัวให้ เปี่ยมรินรดา อินทร์ไธสง เป็นตัวจริงในทีมบีทรีแทนแคนอีกด้วย

เรียกได้ว่า งานนี้เป็นโชว์เคสที่ทำให้เสียศูนย์ไปตามๆ กัน เพียงเพราะละเมิดกฎเหล็ก เอ้ย… สัญญาทางใจกับทางต้นสังกัดที่ยกแพลตฟอร์มแทบจะ 100% มาใช้ ซึ่งทางญี่ปุ่นก็เคร่งครัดเรื่องพวกนี้เอามากๆ เพราะสมาชิกของวงเยอะมาก และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นในกลุ่มสมาชิกรุ่นต่อๆ ไป การปกครองคนหมู่มากก็เลยต้องมีกฎเหล็กที่เข้มข้นประมาณนี้

ทั้งนี้ เพราะสำหรับไอดอล ภาพลักษณ์ของเมมเบอร์ในวงทุกคนสำคัญมากๆ ต่อการทำการตลาดของต้นสังกัด ซึ่งข้อนี้โอตะเข้าใจและยอมรับดี เพราะในเรื่องของเพลงเอยที่ยกมาจากทางญี่ปุ่นและเปลี่ยนเนื้อให้เป็นไทยชนิดที่ว่าถ้าไม่ใช่ BNK48 ร้องก็คงไม่รอดแน่ๆ

หรือจะเป็นการเต้นที่เป็นประเด็นดราม่าตลอดเวลาว่าไม่พร้อมสักที โดยให้เหตุผลว่า เพราะทุกคนจะได้เห็นความพยายามและพัฒนาการของเมมเบอร์อย่างต่อเนื่อง หรือเพราะที่จริงแล้วเพลงกับการเต้นไม่ใช่จุดขายหลักของ BNK48 เหมือนนักร้องวงอื่นทั่วๆ ไป แต่เน้นขายภาพลักษณ์เด็กสาวสดใสบริสุทธิ์ที่พยายามตามฝัน โดยมีเหล่าโอตะเป็นผู้ช่วยทั้งการสนับสนุนในทุกช่องทางของเมมเบอร์ และทางต้นสังกัดคอยตามเชียร์และทุ่มเทเพื่อไอดอลที่พวกเขาชื่นชอบ

ดังนั้น ถ้ามองดีๆ กฎแต่ละข้อก็ดูเหมือนจะออกมาอำนวยให้กับกลุ่มโอตะเหมือนกัน เพราะถ้าหากความนิยมลดลง หรือโอตะเฮน (เลิกชอบ) ออกจากวงไป แล้วต้นสังกัดจะขายใคร จริงมั้ย?

กฎเหล็กสำหรับสมาชิก จึงเป็นเหมือนตัวช่วยที่จะรักษาความชอบของโอตะไว้ให้นานที่สุด ขณะเดียวกันก็ถือเป็นสิ่งที่จะช่วยรักษามาตรฐานของวงหรือแบรนด์ไว้ให้ได้นานที่สุดไปพร้อมกัน.

]]>
1169260
คนไทยฮิตวิดีโอออนไลน์ดูผ่านยูทูปติดท็อป 10 ของโลกทะลุ 40 ล้านคน คุกกี้เสี่ยงทาย-บุพเพสันนิวาส หวย 30 ล้าน ฮิตดูมากสุด https://positioningmag.com/1162488 Tue, 20 Mar 2018 13:57:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1162488 เมื่อยูทูปเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ได้ใช้แค่ฟังเพลง แต่เป็นช่องทางเจ้าของคอนเทนต์ แบรนด์สินค้าและบริการ รวมถึงบรรดาคนมีไอเดีย ยึดพื้นที่ในการทำตลาด นำเสนอคอนเทนต์ “วีดีโอออนไลน์” เพื่อป้อนชาวโซเชียลมีเดียกันจำนวนมาก แต่มาดูกันว่าในปี 2561 สถิติคนรับชม คนติดตาม (Subscribe) เป็นยังไงกันบ้าง  

  • ทั่วโลกมีคนรับชมยูทูปประมาณ 1,000 ล้านชั่วโมงต่อวัน และมีผู้ใช้ล็อกอินเข้าระบบยูทูปมากถึง 1,500 ล้านต่อเดือน และทุกๆ นาที มีคนอัพโหลดวิดีโอขึ้นแพลตฟอร์มยูทูป 400 ชั่วโมง
  • ส่วนประเทศไทยมีคนใช้งานยูทูป (Users) ประมาณ 40 ล้านคน
  • ไทยเป็นประเทศที่ติดท็อป 10 ประเทศที่มีคนดูยูทูปมากสุดในโลก
  • คนที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตในเขตเมืองมีการรับชมยูปทูปมากถึง 93% และต่างจังหวัดอยู่ที่ 92%
  • อานิสงส์ของละคร “บุพเพสันนิวาส” ส่งผลให้ระยะเวลา 30 วันที่ผ่านมา สถานีโทรทัศนช่อง เป็นช่องที่มีคนดูมากสุด 34.7 ล้านวิว ตามด้วยเวิร์คพอยท์ 22 ล้านวิว
  • ในปี 2560 มีแบรนด์สินค้าและบริการที่ยึดยูทูปเปิดช่องสำหรับแบรนด์อย่างป็นทางการ (Brand Channel) ที่มีผู้ติดตามเกิน 100,000 รายการ เติบโตมากถึง 50%  

++ใครเป็นฐานยูทูปบ้าง?

ในไทยมีคนดูยูทูปหลายครั้งต่อวันประมาณ 65% ขณะที่คนที่เข้าไปดูยูทูปทุกวันอยู่ที่ 75% โดยคนที่ดูทุกวันมีหลากหลายอายุ ดังนี้

  • อายุ 16-24 ปี มากถึง 85%
  • อายุ 25-34 ปี 79%  
  • อายุ 35 ปีขึ้นไป 67%

++คนไทยฮิตฟังเพลง ดูทีวีรีรันผ่านยูทูป

ทั้งนี้พฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้งานยูทูปส่วนใหญ่ 70% ยังคงใช้เป็นช่องทางในการฟังเพลง และส่วนใหญ่ 77% จะเป็นผู้บริโภคอายุระหว่าง 16-34 ปี รองลงมาเป็นคนอายุ 35 ปีขึ้นไป 62% ที่เข้ามาฟังเพลง  

อันดับ คือใช้ยูทูปเป็นช่องทางในการดูทีวีรีรัน 51% กลุ่มหลักที่ดูคอนเทนต์ดังกล่าวมีอายุระหว่าง 25-34 ปี อันดับ ใช้เป็นช่องทางค้นหาความรู้ 33% จากกลุ่มผู้ชมอายุ 16-24 ปี อันดับ ใช้ในการค้นหาสินค้าและบริการ 24% โดยคนอายุ 25-34 ปี ใช้งานมากถึง 30% และอายุ 35 ปีขึ้นไป ใช้ค้นหาสินค้าและบริการ 24% สะท้อนว่าสินค้าก็ยังมีโอกาสในการทำตลาดและโฆษณาบนแพลตฟอร์มดังกล่าว  

นอกจากนี้ พฤติกรรมการเสพยูทูปวันจันทร์-ศุกร์ ของคนไทยเฉลี่ย 2.3 ชั่วโมงต่อวัน โดยช่วงที่นิยมดูมากสุด จะเป็นเวลา 18.00-20.00 น.

ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ คนไทยเสพยูทูปเฉลี่ย 2.9 ชั่วโมงต่อวัน เพิ่มขึ้น 30% และช่วงเวลาพีคยังเป็น 18.00-20.00 น.

สำหรับคนต่างจังหวัดนิยมใช้มือถือในการรับชมวิดีโอยูทูปมากถึง 93% และเมื่อเปรียบเทียบการรับชมวิดีโอยูทูปของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล กับคนต่างจังหวัด เป็นดังนี้

  • คนกรุงเทพฯ และปริมณฑล รับชมวิดีโอยูทูปต่อครั้งเฉลี่ยนาน 70 นาที และใช้เวลาต่อวันรับชมมากถึง 2.4 ชั่วโมง  
  • คนต่างจังหวัด รับชมเฉลี่ยต่อครั้งนาน 60 นาที และต่อวันอยู่ที่ 2.1 ชั่วโมง

สิ่งที่น่าสนใจในการรับชมวิดีโอยูทูป สัดส่วน ใน 10 คอนเทนต์ เป็น “เพลงลูกทุ่ง” ซึ่งมีเพลงจำนานมากที่ยอดวิวทะลุหลัก 100 ล้านวิว

อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 วิดีโอคอนเทนต์ของไทยที่สร้างปรากฏการณ์ติดเทรนด์ผู้รับชมสูงสุดในโลกได้แก่เพลง “ตราบธุลีดิน” ของหน้ากากหอยนางรม ที่ออกอากาศผ่านรายการ The Mask Singer Season 2 ส่วนปีนี้ช่องศิลปิน (Artist Channel) ที่มาแรงยังคงเป็นเพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” ของไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป “BNK48” และแน่นอนละครยอดฮิตบนยูทูปที่คนดูมากสุดคือ “บุพเพสันนิวาส” ส่วนข่าวที่คนไทยติดตามชมมากสุดคือ “หวย 30 ล้าน”. 

]]>
1162488
นาทีนี้ BNK48 ดังแรง! ฉุดไม่อยู่แล้ว 10 แบรนด์ดังดึงเป็นพรีเซ็นเตอร์ แตกไลน์สินค้าใหม่เจาะตลาดอีกเพียบ! (มีคลิป) https://positioningmag.com/1156188 Thu, 08 Feb 2018 16:09:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1156188 หลังการปลุกปั้น “BNK48” โมเดลธุรกิจใหม่ในประเทศไทยอย่าง Idol Platform ของ “จิรัฐ บวรวัฒนะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรส อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด (RAM) ที่เปิดตัวครั้งแรกต่อสาธารชน(Debut)เมื่อ 2 มิ.ย.60 จนถึงปัจุบัน ธุรกิจถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีไอดอลดังเกิดขึ้น เพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” ยอดวิวพุ่งปรี๊ด พลิกตลาดและกลุ่มเป้าหมายจำกัดเฉพาะ(Niche market)จนขยายสู่ตลาดวงกว้าง (Mass) ได้อย่างรวดเร็ว

ดีกรีความดังของไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป BNK48 ยังแรงขึ้น เพราะปี 2561 เหล่าสมาชิกของวงมีงานจ่อคิวเพียบ เพื่อกวาดเงินให้บริษัทใน 3 ช่องทางสัดส่วนเท่าๆกัน ได้แก่ 1.ขายสินค้า ซีดี เสื้อผ้า ของที่ระลึก (Merchandise)  2.การขายตั๋วการแสดงต่างๆ(Ticketing)จากคอนเสิร์ต เปิดเธียร์เตอร์ แคมปัสการ์ด อีเวนท์การจับมือ ฯ และ 3.การบริหารจัดการไอดอล(Talent Management) การเป็นพรีเซ็นเตอร์ โชว์ตัว และสปอนเซอร์ชิป

++ประเดิมโกยงานพรีเซ็นเตอร์นับ 10 แบรนด์ดัง

ลุ้นกันมาสักพัก เมื่อไหร่ไอดอลดังจะมีงานพรีเซ็นเตอร์ ปีนี้เลยได้เห็นแบบจัดเต็ม เพราะมีสินค้าแบรนด์ดังนับ 10 แบรนด์ เตรียมดึงสมาชิกในกลุ่มไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่อยู่นหมวด(Category)ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน และมีลูกค้าเป้าหมายจับคนรุ่นใหม่ สอดคล้องกับคาแร็กเตอร์ของไอดอลแต่ละคนนั่นเอง ส่วนสินค้าใหญ่ รายได้ดี เช่น กลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสินค้าที่ทำให้เห็นผลในข้ามคืน เช่น ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก บริษัทจะไม่รับงาน เพราะถือว่าขัดกับ Positioning ของแบรนด์ BNK48 ที่ต้องใช้ความพยายาม ความมุ่งมั่นในการทำสิ่งต่างๆ

“การที่แบรนด์จะเลือกไอดอลในการสื่อสารหรือทำตลาดกับลูกค้า มองว่าถ้า Positioning ของน้องๆมีความชัดเจน ก็เชื่อมโยงกับแบรนด์ของลูกค้าได้ง่าย แต่อย่างไรก็ตาม ในการเลือกว่าไอดอลคนไหนเหมาะจะเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าอะไร เราต้องดูกลุ่มเป้าหมายของสินค้านั้นๆเป็นหลัก เพราะต้องยอมรับว่าน้องๆทั้ง 27 คน มีคาแร็กเตอร์ อายุที่แตกต่างกัน”

อีกหนึ่งการทำเงินในขานี้ คือการร่วมกับเวิร์คพอยท์ผลิตรายการโทรทัศน์ใหม่ 2-3 รายการ รูปแบบเกมโชว์ วาไรตี้ และจะใช้ชื่อของไอดอลเป็นชื่อของรายการ จะช่วยสร้างฐานแฟนคลับของ BNK48 ได้มากขึ้น โดยรายการแรกคาดว่าจะออกอากาศได้กลางปีนี้

ธีรศักดิ์ อรุณเริ่มวัฒนะ ผอกลุ่ม ด้านการสื่อสารเพื่อสร้างแบรนด์ และบริหารสื่อโฆษณา บริษัท ทรู คอร์อเรชั่น

++แตกไลน์สินค้าลิขสิทธิ์ อุปกรณ์เทพเจาะเกมเมอร์

ส่วนการขายสินค้า(Merchandise)ปีนี้จะเห็นการแตกไลน์สู่สินค้าลิขสิทธิ์(Licensing) สินค้าที่ไม่ใช่ของที่ระลึก(Non-Souvenir) และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากขึ้น หลังจากหารือกับพันธมิตรผู้ผลิตสินค้า 6 หมวด จ่อออกโปรดักท์ใหม่ทำตลาดเร็วๆนี้ ได้แก่ อุปกรณ์เทพของนักเล่นเกมระดับเทพ(Gaming Gear) เพราะกลุ่มดังกล่าวชื่นชอบและเป็นฐานแฟนคลับของ BNK48 อยู่แล้ว รวมถึงสินค้าอุปกรณ์เสริมสำหรับมือถือ เครื่องเขียน เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ด้วย  

ที่ผ่านมา BNK48 มีสินค้าหลักๆที่จำหน่ายให้กับกลุ่มเป้าหมาย จะจำกัดอยู่แค่ซีดีซิงเกิลเพลง เสื้อผ้า ของที่ระลึก แต่การแตกไลน์ไปสู่สินค้าใหม่ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้กับบริษัทมากขึ้น

++เปิดเธียร์เตอร์ แคมปัส เพิ่มรอบคอนเสิร์ตดันรายได้

ส่วนการหารายได้จากการขายตั๋วการแสดงต่างๆ คอนเฟิร์มการเปิดคอนเสิร์ตในเธียร์เตอร์ไตรมาส 2 หลังจากบริษัทลงทุนกว่า 50 ล้านบาท เช่าพื้นที่และสร้างเวทีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเองที่เดอะมอลล์ บางกะปิ เนื้อที่กว่า 1,000 ตารางเมตร จุผู้ชมได้ 350 ที่นั่ง โดยการแสดงที่เธียร์เตอร์แห่งนี้ จะมีขึ้น 3 รอบต่อสัปดาห์ ราคาบัตรเข้าชมอยู่ 400 บาท แต่ตอนนี้บัตรถูกขายหมดเกลี้ยง 15,000 ใบ เรียกว่าคิวแสดงเต็มตลอด 1 ปีเรียบร้อย

พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นแคมปัส ใช้จัดโชว์อื่นๆ การแสดง อีเวนท์การจับมือ ถ่ายทำรายการโทรทัศน์  ผลิตคอนเทนท์ต่างๆ ตลอดจนการซ้อมของ BNK48 ด้วย

เหตุผลที่เลือกเดอะมอลล์ บางกะปิ จัดคอนเสิร์ตเพราะต้องการขยายตลาด BNK48 เจาะกลุ่มเป้าหมายวงกว้าง(Mass)มากขึ้น และห้างตอบโจทย์เพราะแต่ละวันมีคนเดินมาช้อป ใช้ชีวิตจำนวนมาก ต่างจากการจัด Digital live studio(ตู้ปลา) ที่เจาะตลาด Niche  

“ที่เธียร์เตอร์จะเป็นการแสดงคอนเสิร์ตของน้องๆ ที่บริษัททำซิงเกิลมาร้องที่นี่โดยเฉพาะเท่านั้น ตอนนี้บัตรการแสดงก็ขายหมดเกลี้ยงแล้ว นอกจากนี้เรายังมีแคมปัสการ์ดจำหน่ายในราคา 600 บาท ที่ขายหมดแล้วเช่นกัน ซึ่งบัตรดังกล่าวผู้เข้าชมจะได้จับมือกับ BNK48 ด้วย”

อีกโปรเจคต์ทำเงิน คือการจัดคอนเสิร์ตใหญ่วันที่ 31 มีนาคมนี้ ที่ไบเทค ซึ่งบริษัทมีแผนจะเพิ่มรอบการแสดง เพราะกระแสความต้องการมาแรงมาก ทั้งที่ยังไม่เปิดขายบัตรอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ บริษัทยังนำ BNK48 ไปร่วมงาน Bangkok Comic Con(BCC) x Thailand Comic Con(TCC) 2018 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27-29 เม.ย.นี้ ณ รอยัลพารากอนด้วย งานดังกล่าวมีไฮไลท์สำคัญเพราะจะมีคนร่วมงานเป็น “แสน” จึงเป็นโอกาสดีในการซีนเนอร์ยีกับ “ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป” ผู้จัดงานช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์(Brand Awareness) BNK48 ให้รู้จักในวงกว้าง

ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยบริหารงานประธานคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น

ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทยังลุยธุรกิจไอดอลต่อ ด้วยการนำงาน Tokyo ldol Festival งานไอดอลใหญ่จากญี่ปุ่นมาเปิดตลาดในไทยครั้งแรกที่งาน BCCxTCC ด้วย

 ส่วนกิจกรรมอื่นๆที่จะเห็นเพิ่มเติม คือการลุยจัดมินิคอนเสิร์ต Digital live studio ในต่างจังหวัด หลังชิมลางจัดที่เชียงใหม่พบว่าการตอบรับดี มีฐานแฟนคลับใหม่ๆอายุ 12-17 ปีเข้ามามากขึ้นถึง 80% จากฐานหลักอายุ 18-24 ปี ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย 60% และผู้หญิง 40%   

“โครงสร้างรายได้ BNK48 มาจาก 3 กลุ่ม ในสัดส่วนเท่าๆกัน และปีนี้บริษัทลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ขยายธุรกิจตลอดจนร่วมกับพันธมิตรจัดอีเวนท์ต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ และในอนาตตถ้าเรามีงานพรีเซ็นเตอร์มากขึ้น จะทำให้ขายสินค้าได้มากขึ้น และจัดคอนเสิร์ตถี่ขึ้น รายได้โดยรวมก็จะเติบโตยกแผง”

++BNK48 ปังเพราะแบรนด์เจ๋งตีคู่ทำตลาดออนไลน์  

สำหรับไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป BNK48 ถือเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ไอดอลน้องสาวของ AKB48 จากประเทศญี่ปุ่น หลังการเดบิวท์กลางปีก่อน เพราะตัวแบรนด์ต้นฉบับมีความแข็งแรงมาก จนทำให้ขยายแฟรนไชส์ไปหลายประเทศในเอเชีย นำไปสู่การสร้าง “ฐานแฟนคลับ” ของแบรนด์จำนวนมหาศาล รวมทั้งในประเทศไทยที่มีคนรู้จักอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนที่อ่านการ์ตูนญี่ปุ่น จะชื่นชอบไอดอลแบบ BNK48

รวมถึงวัฒนธรรมของไอดอลญี่ปุ่น การครีเอทศัพท์ใหม่ๆที่ไม่เคยมีประเทศไทยสร้างความน่าสนใจให้ตลาดได้อย่างมาก เช่น การจับมือ คือการที่แฟนคลับจะต้องซื้อสินค้าเพื่อแลกกับการจับมือไอดอลคนโปรด 7-10 วินาที การเป่ายิงฉุบ ซึ่งสมาชิกในวงจะต้องแข่งขันกันเพื่อร่วมร้องซิงเกิลเพลง การเลือกตั้ง คือให้แฟนคลับ(โอตะ)โหวตไอดอลคนโปรดได้ร่วมร้องซิงเกิล เป็นต้น สิ่งเหลานี้แตกต่างจากไอดอลในประเทศไทยที่ใครก็สามารถดังได้

“ผมเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของแบรนด์ 48 อย่างมาก และแฟรนไชส์ที่ได้มา คือได้ในเรื่องของ Branding ฐานแฟนคลับและวัฒนธรรม”

แต่อีกกลยุทธ์ที่ทำให้ BNK48 ปังยิ่งขึ้น คือการทำตลาดผ่านโลกออนไลน์ โซเชียลมีเดียต่างๆ มีคนดัง(Influencer)ช่วยสร้างกระแสให้วงไม่น้อย ทำให้เกิดการ Engage กับวงอย่างมาก มีคนรู้จักเยอะขึ้น

อย่างไรก็ตาม ความดังที่เกิดขึ้น บริษัทยังไม่มองว่าประสบความสำเร็จ เพราะเป้าหมายใหญ่ในการทำธุรกิจ Idol Platform  คือต้องการเห็น BNK48 ใน 2 มิติ 1.ทางสังคม เกิดไอดอลที่เป็นแบบอย่างที่ดีของคนรุ่นใหม่ 2.ด้านการทำงาน คือปลุกปั้นให้น้องๆ BNK48 เป็นที่รู้จัก หากเสริมเป้าหมายทางธุรกิจต้องการสร้างธุรกิจบริการจัดการไอดอลที่ Positioning ดี.

]]>
1156188
ไม่พลาด ! ค่ายทรู แบรนด์ไทยรายแรก คว้า BNK48 เป็นพรีเซ็นเตอร์ https://positioningmag.com/1155659 Mon, 05 Feb 2018 09:00:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1155659 นาทีนี้ฮอตสุดๆ ไม่พ้นไอดอลกรุ๊ป วง BNK48 กับเพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” ล่าสุด คาดค่ายทรู แบรนด์ไทยรายแรกได้เซ็นสัญญากับวง BNK48 เพื่อเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าในเครือทรู ที่คาดว่าจะเป็นทรูไอดี ซึ่งเตรียมเปิดตัวเป็นทางการเร็วๆ นี้

ความแรงของ BNK48 กลุ่มเกิร์ลกรุ๊ป ที่มีเด็กสาววัยรุ่นอายุตั้งแต่ 14-22 ปี จำนวน 28 คน กำลังดังเป็นพลุแตกด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ สร้าง ”ไอดอล” ให้คนติดตาม เลือกคนที่มีเสน่ห์มาฝึกฝน และสร้างฐานแฟนคลับ ที่เรียกว่า ”โอตะ” จากจุดขายความน่ารัก ความพยายามของไอดอลเหล่านี้ ได้สร้างโมเดลหารายได้จากทั้งรูปแบบการขายสินค้า งานโชว์ตัว ออกอีเวนต์ รวมถึงงาน ”พรีเซ็นเตอร์” กำลังเป็นต้องการของสินค้า ที่ต้องการใช้เพื่อเกาะไปกับกระแส และเป็นตัวแทนเพื่อสื่อสารกับวัยรุ่น

ก่อนหน้านี้สินค้าที่ BNK48 เข้าไปร่วมกิจกรรม หรือเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย จะเป็นสินค้าแบรนด์ที่มีความเกี่ยวข้องกับความเป็นญี่ปุ่น เนื่องจาก BNK48 เป็นแฟรนไชส์ธุรกิจจากญี่ปุ่น บรรดาธุรกิจญี่ปุ่นที่อยู่ในไทย จึงให้ความสนใจดึงไอดอลในวงไปร่วมกิจกรรมมากมาย เช่น ลอว์สัน 108 ที่ดึง 3 ไอดอลของวง ได้แก่ ปัญ, เจน และ โมบาย มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โปรโมตสินค้าในร้าน เพื่อเจาะฐานคนรุ่นใหม่ เพิ่มยอดขายสินค้าในร้าน

เมื่ออยู่ในช่วงพีคขนาดนี้ จึงเป็นที่สนใจของค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ของไทยสองค่ายรุมจีบ โดยคาดว่าค่ายทรูจะเป็นผู้คว้าสิทธิ์นี้มาได้ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยมูลค่าสัญญาครั้งนี้ เนื่องจากเป็นความร่วมมือในหลายส่วน

เริ่มจากร่วมกับบริษัท ทรูวิชั่นส์ ผู้ให้บริการเพย์ทีวี ในงาน Bangkok Comic con x Thailand Comic Con 2018 งานเกี่ยวกับสื่อบันเทิง ทั้งซีรีส์ เกม ของเล่นสะสม คอสเพลย์จากฮอลลีวู้ด ญี่ปุ่น และไทย จัดขึ้นในวันที่ 27-29 เมษายน ซึ่งปีนี้ ไฮไลต์อยู่ที่วง BNK48 และวง AKB48 เข้าร่วมงานและแสดงพร้อมกัน

นอกจากนี้งานนี้แล้ว ทรูยังได้ต่อยอดนำสมาชิกวง BNK48 มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ใหม่ให้ของค่ายทรูด้วย แต่ยังอยู่ระหว่างเจรจารายละเอียด

การที่ทรูกล้าทุ่มขนาดนี้ เพราะมองว่าความเป็นไอดอลของ BNK48 เหมาะสมลงตัวกับความทันสมัย ไลฟ์ไสตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ โดยคาดว่าน่าจะเป็นแบรนด์ ทรูไอดี (TrueID) แอปพลิเคชั่นดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายทอดสดกีฬา ให้ดูฟรีผ่านสมาร์ทโฟน โดยเป็นทั้งโมบายแอป เว็บไซต์ และบริการ OTT ที่ค่ายทรูใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทในปีนี้ โดยนำคอนเทนต์มาจากเว็บไซต์ trueid.net กล่องทรูทีวี เพื่อเปิดให้เป็นบริการที่ใช้งานได้กับทุกเครือข่ายมือถือ แต่หากเป็นลูกค้าในเครือทรู จะได้สิทธิพิเศษมากขึ้น

กลุ่มทรูนั้นหวังแจ้งเกิดบริการนี้ เพราะต้องการ “ตรึง” ลูกค้าไม่ให้ย้ายค่าย หรือเลิกใช้บริการ และยังรองรับกับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่หันมาดูหนัง ฟังเพลง ดูถ่ายทอดกีฬาผ่านมือถือ เพิ่มการใช้ดาต้าท่ามกลางการแข่งขันเปิดศึกแย่งชิงลูกค้าค่ายมือถืออย่างรุนแรง

สำหรับคู่แข่งรายสำคัญของทรูไอดี คือ เอไอเอสเพลย์ บริการ OTT ของค่ายเอไอเอส ที่พยายามชูจุดขายคอนเทนต์ที่ครอบคลุม และสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าค่ายเอไอเอสเช่นเดียวกัน โดยค่ายเอไอเอสก็มีพรีเซ็นเตอร์ชื่อดังในกลุ่มวัยรุ่น เช่น “หน้ากากจิงโจ้” – เป๊ก ผลิตโชค และ “หน้ากากทุเรียน” ทอม รูม39

ทรูไอดี มีพรีเซ็นเตอร์อยู่แล้วหลายคน ตั้งแต่ “เจ้านาย” จิณเจษฎ์ วรรธนะสิน , “เจเจ” กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม – นักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง, “ออกแบบ” ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง ฉลาดเกมส์โกง , “ไอซ์ซึ“ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ – นายแบบไทยคนแรกที่ไปสังกัดนายแบบเกาหลี และ “มินท์” ภัทรศยา ยงรัตนมงคล นางแบบรุ่นใหม่มาแรง และล่าสุดคือวง BNK48.

]]>
1155659