ฝ่ายบริหารของจังหวัดคุมาโมโตะ ระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะป้องกันการแพร่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทางอ้อมระหว่างผู้คนที่ไปเยือน “คุมะมง สแควร์” ในเมืองคุมาโมโตะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น รวมถึงสถานที่อื่นๆ ที่คุมะมงไปพบปะกับแฟนๆ
นับตั้งแต่เปิดในปี 2013 มีผู้คนรวมแล้วกว่า 2.5 ล้านรายที่ไปเยือน “คุมะมง สแควร์” ในย่านชูโอ เพื่อพบกับเจ้าหมีมาสคอตสีดำตัวนี้ โดยที่คุมะมงจะดูแลเหล่าแฟนๆ ด้วยการเต้น พร้อมด้วยการจับมือและไฮไฟว์กัน
จากข้อมูลของฝ่ายบริหารจังหวัดคุมาโมโตะ มีผู้ไปเยือนมากถึง 550,000 รายในปีงบประมาณ 2018 โดยที่มีประมาณครึ่งหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ อาทิ ฮ่องกง ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่
คุมะมงนั้นมีกำหนดจัดงานเทศกาลวันเกิดในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของฝ่ายบริหารจังหวัดคุมาโมโตะ ระบุว่า หากถึงตอนนั้นการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังไม่สามารถควบคุมได้ เจ้าหมีคุมะมงก็จะยังไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมจับมือไฮไฟว์กับแฟนๆ
]]>ขณะที่แนวโน้มธุรกิจสิ่งทอทั่วโลกอยู่ในภาวะถดถอย กลุ่มสินค้าแฟชั่นของเครือสหพัฒน์เองก็มีอัตราการเติบโตลดลงเมื่อเทียบกับกลุ่มอาหารที่ขยับขึ้นมาเป็นพอร์ตรายได้หลักเมื่อ 2 ปีก่อน ยุทธศาสตร์จากนี้จึงมุ่งสร้างการเติบโตจากพัฒนานวัตกรรมใหม่และขยายธุรกิจบริการมากขึ้น
บุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากปี 2015 ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับจังหวัดคุมาโมโตะ ดูแลลิขสิทธิ์ “คุมะมง” เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวจังหวัดคุมาโมโตะและการทำตลาดไลเซ่นส์คุมะมงในประเทศไทย ปีนี้ได้เซ็นสัญญากับบริษัท เอดีเค อีโมชั่น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากจังหวัดคุมาโมโตะ ให้ดูแลลิขสิทธิ์คุมะมงทั่วโลก โดยไอ.ซี.ซี. ได้รับ Master Licensee คุมะมง ในประเทศไทย 3 ปี (2019-2021)
การทำตลาดไลเซ่นส์ คุมะมง ถือเป็นการขยายธุรกิจด้านบริการเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอของเครือสหพัฒน์ และเป็นการทำตลาดคาแรกเตอร์ในฐานะ Master Licensee ครั้งแรกของเครือ เนื่องจากเห็นโอกาสจากธุรกิจลิขสิทธิ์คุมะมงที่กำลังได้รับความนิยมจากต่างประเทศ ปัจจุบันจังหวัดคุมาโมโตะกำลังอยู่ระหว่างทำโปรเจกต์ภาพยนตร์แอนิเมชั่นคุมะมงกับค่ายหนังฮอลลีวูด ซึ่งจะทำให้คุมะมงเป็นรู้จักมากขึ้น
วิริทธิ์พล ชัยถาวรเสถียร ผู้อำนวยการฝ่าย บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศที่ 4 ที่ได้รับแต่งตั้งเป็น Master Licensee คุมะมง ต่อจากจีน ไต้หวัน และฮ่องกง ไอ.ซี.ซี.ได้สิทธิทำตลาดทั้งสินค้าและบริการทุกประเภทในทุกช่องทาง ปัจจุบันได้รับความสนใจจากลูกค้าหลายธุรกิจติดต่อเข้ามาขอใช้ลิขสิทธิ์ รวมทั้งบริษัทในเครือสหพัฒน์ ทั้ง ไลอ้อน สหพัฒนพิบูลย์ รถเช่า BUDGET
ประเมินปีแรกทำรายได้จากการบริหารลิขสิทธิ์คุมะมง 20-30 ล้านบาท จากลูกค้ากว่า 10 ราย โดยจะเก็บค่าลิขสิทธิ์ในอัตรา 7.5% ของยอดขายในแต่ละโปรเจกต์ที่เข้ามาขอใช้ลิขสิทธิ์ ปีหน้าคาดทำรายได้เพิ่มขึ้น “เท่าตัว” จากปีนี้ พร้อมทั้งศึกษาจัดตั้ง “ออฟฟิศเชียลช็อป” จำหน่ายสินค้าที่ระลึกคุมะมงอีกด้วย
อิคุโอะ คาบาชิมะ ผู้ว่าราชการจังหวัดคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น บอกว่า “คุมะมง” เป็นมาสคอตตัวแทนจังหวัดคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น ที่กำเนิดขึ้นเมื่อเดือน มี.ค. 2011 ในโอกาสเปิดเส้นทางใหม่ของรถไฟชินคังเซ็นสายคิวชู ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว จากคาแร็กเตอร์ที่เป็นมิตรและความน่ารักทำให้คุมะมง หมีแก้มแดง ครองใจชาวญี่ปุ่นและคนทั่วโลก
ปี 2018 คุมะมง มีผลงานหนังสือภาพถ่ายของตนเอง แสตมป์ที่ระลึก จำหน่ายได้ 3 ล้านดวง ของที่ระลึกคุมะมงสร้างรายได้ให้กับจังหวัดคุมาโมโตะ กว่า 42,000 ล้านบาท (กว่า 155,000 ล้านเยน)
เครือสหพัฒน์ยังได้ลงนามบันทึกความร่วมมือทางการศึกษาร่วมกับโรงเรียนนานาชาติ คิงส์ คอลเลจ วิมเบิลดัน จากประเทศอังกฤษ จัดตั้งโรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจ กรุงเทพ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์จากยุโรปครั้งแรก ที่ถือเป็นอีกโปรเจกต์ในการขยายธุรกิจด้านบริการ
ดร.สาคร สุขศรีวงค์ ประธานบริหารโรงเรียนนานาชาติ คิงส์ คอลเลจ กรุงเทพ กล่าวว่าโรงเรียนจัดตั้งบนที่ดินของเครือสหพัฒน์ ขนาด 23 ไร่ ย่านพระราม 3 มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 41,000 ตารางเมตร โครงการนี้จะมีการลงทุนต่อเนื่อง 7 ปี มูลค่าโครงการ 3,000-4,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มเปิดสอนในปี 2020 ตั้งแต่ชั้น Pre-Nursery ถึง Year 13 หรืออายุ 2-18 ปี ปีแรกรับนักเรียนได้ราว 200 คน รองรับนักเรียนได้เต็มที่ 1,500 คน
คิงส์ คอลเลจ กรุงเทพ เป็นโรงเรียนนานาชาติที่ออกมาเปิดนอกอังกฤษ เป็นประเทศที่ 2 หลังจากปีก่อนเปิดที่จีน 2 แคมปัส วางเป้าหมายให้เป็น “จุดหมาย” โรงเรียนนานาชาติของกลุ่มประเทศอาเซียน ที่ผู้ปกครองส่งลูกมาเรียน จากแบรนด์โรงเรียนชั้นนำระดับโลกและค่าใช้จ่ายต่ำกว่าส่งไปเรียนที่คิงส์ คอลเลจ อังกฤษ คาดมีนักเรียนไทย 70% และนักเรียนต่างชาติ 30% สำหรับค่าเรียนระดับก่อนอนุบาลและอนุบาลอยู่ที่ 5 แสนบาทต่อปี ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา 7 แสนบาทต่อปี
“ครอบครัวไทยมีลูกลดลง เฉลี่ย 1 คน ทำให้ผู้ปกครองทุ่มเทด้านการศึกษาให้ลูกเต็มที่ ทำให้โรงเรียนนานาชาติเป็นตัวเลือกของผู้ปกครองในยุคนี้ ค่าเรียนในไทยถือว่าต่ำกว่าการส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ 30-50%”
ปี 2018 มีโรงเรียนนานาชาติในไทยทั้งที่เป็นโรงเรียนที่ก่อตั้งในไทยและสาขาโรงเรียนนานาชาติจากต่างประเทศ จำนวน 205 แห่ง มีนักเรียน 72,800 คน จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นปีละ 4-6% ซึ่งถือเป็นอัตราสูงเมื่อเทียบกับอัตราเด็กเกิดใหม่ของไทยที่มีแนวโน้มลดลง
บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ มองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน กำลังซื้อถือว่า “เงียบมาก” หลังจากยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และหากจัดตั้งรัฐบาลได้ช้าจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว เพราะปัจจุบันได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า 10% จาก 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็น 30บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จึงกระทบส่งออก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าภาคเกษตร
“หลังจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ต้องการให้คณะรัฐมนตรีเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ราคาสินค้าเกษตรและค่าเงิน ระดับที่เหมาะน่าจะอยู่ที่ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ”
ภาพรวมเครือสหพัฒน์ครึ่งปีแรกโตเล็กน้อย สินค้ากลุ่มอาหารและอุปโภคบริโภคยังเติบโตดี สินค้าแฟชั่นหดตัว แต่ปีนี้คาดว่ายอดขายรวมยังโต 2-3%
]]>ซันโทรี่ เริ่มต้นธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากโรงกลั่นวิสกี้ ต่อยอดเป็นเบียร์และซอฟต์ดริ้งก์ หลากหลายของผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำระดับโลก
กลุ่มเครื่องดื่ม “นอนแอลกอฮอล์” ถือเป็นจุดแข็งและผลักดันการเติบโตของซันโทรี่มาต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่ม LRB (Liquid Refreshment Beverage) เครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นและดูแลสุขภาพ
ปัจจุบัน “ซันโทรี่” เป็นผู้ผลิตน้ำดื่มอันดับ 1 ในญี่ปุ่น ที่มีมูลค่า 4 หมื่นล้านบาท ด้วยมาร์เก็ตแชร์ 35% จากนวัตกรรมที่หลากหลายทั้งน้ำแร่ธรรมชาติ, น้ำดื่มอัดลม และกลุ่ม Flavored Water หรือ Water Plus น้ำแต่งกลิ่นรส รูปแบบ “น้ำใส”
การก้าวสู่ผู้นำตลาดน้ำดื่มของซันโทรี่ในญี่ปุ่น คือ นวัตกรรม ที่สร้างความแตกต่างในหลายแคทิกอรี่ของกลุ่มเครื่องดื่ม รวมทั้งการเข้าใจผู้บริโภค (Consumer needs) เพื่อพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ โดยเฉพาะเทรนด์สุขภาพ ที่ขยายตัวจากสัดส่วนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นจุดแข็งของซันโทรี่
ปัจจุบัน ซันโทรี่มีฐาน R&D Center 3 แห่ง โอซากา เกียวโต คาวาซากิ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ นวัตกรรม แพ็กเกจกิ้ง เทคโนโลยี และการควบคุมคุณภาพ
กระบวนการพัฒนา “สินค้าใหม่” เริ่มจากการรับฟังความเห็นจากผู้บริโภคและวิจัยความต้องการลูกค้าในตลาด จากนั้นเป็นการวางคอนเซ็ปต์และพัฒนาสินค้าต้นแบบ ซึ่งจะอยู่ ภายใต้ One Team เป็นการทำงานร่วมกันของ 3 ฝ่าย อาร์แอนด์ดี การตลาด และทีมสร้างสรรค์ ในปี 2017 มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 100 โปรดักต์
สำหรับฐานการผลิตเครื่องดื่มซันโทรี่ คือโรงงานที่เมือง คุมาโมโตะ เป็นโรงงานผลิตน้ำแร่ธรรมชาติ เบียร์ พรีเมียม มอลต์ กลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, กาแฟกระป๋อง Boss, เครื่องดื่มชา, วอเตอร์ พลัส รวมกว่า 63 ผลิตภัณฑ์
เมืองคุมาโมโตะ ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดน้ำสำคัญของญี่ปุ่น โดยการันตีว่าน้ำในพื้นที่คุมาโมโตะทั้ง 100% มาจาก “น้ำแร่” และโรงงานซันโทรี่ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำแร่จากภูเขาไฟอะโสะ (Aso) ที่นำมาใช้ผลิตเครื่องดื่มประเภทต่างๆ
ตลาดเครื่องดื่มที่พัฒนาจากนวัตกรรมและอาร์แอนด์ดีของซันโทรี่ และเป็นเทรนด์ที่มาแรงในญี่ปุ่นในช่วง 5 ที่ผ่านมา ต้องยกให้กลุ่ม วอเตอร์ พลัส ซึ่งเป็นเครื่องดื่มให้ความสดชื่นและดูแลสุขภาพด้วยปริมาณน้ำตาลต่ำ เป็นแคทิกอรี่น้ำดื่มที่อยู่ตรงกลางระหว่างน้ำเปล่าและเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวาน
วอเตอร์ พลัส ในญี่ปุ่นที่เริ่มทำตลาดในปี 2007 จากสินค้านำเข้า ในปี 2010 โคคา-โคล่า เริ่มทำตลาดแบรนด์ I-Lohas น้ำดื่มแต่งกลิ่นรส กลุ่มรสชาติผลไม้ จากนั้น ซันโทรี่ ได้เริ่มเปิดตลาดในปี 2014 ภายใต้แบรนด์ Tennensui เริ่มด้วยกลิ่นรสผลไม้
จากนั้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมมาต่อเนื่อง ปี 2015 เปิดตัวน้ำดื่มแต่งกลิ่นรส “โยเกิร์ต” ที่เรียกว่าได้ว่าสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาด ด้วยนวัตกรรมนำ โยเกิร์ต มาพัฒนาแต่งกลิ่นรสในรูปแบบเครื่องดื่มน้ำใสเป็นครั้งแรก จากนั้นตามมาด้วย รสชาติโยเกิร์ตผสมอโลเวรา และโยเกิร์ตผสมบลูเบอร์รี่
ปี 2017 เปิดตัวกลิ่นและรสชาติกลุ่ม “ชานม” ด้วยความแตกต่างเรื่องนวัตกรรมของรสชาติโยเกิร์ตและชานมที่ไม่มีในตลาด ทำให้ซันโทรี่ขึ้นมาครองอันดับ 1 ตลาดวอเตอร์ พลัส ในญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2015 ถึงปัจจุบัน โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 50%
ด้วยความนิยมเครื่องดื่ม “วอเตอร์ พลัส” ในญี่ปุ่นและเทรนด์ที่เติบโตสูง จึงเป็นกลุ่มสินค้าที่ได้รับการจัดสรรพื้นที่ชั้นวางขนาดใหญ่ ในช่องทางค้าปลีกต่างๆ ทั้ง ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติในญี่ปุ่น ก็ต้องมีสินค้าวอเตอร์ พลัสไว้เป็นตัวเลือก
นอกจาก “คุมาโมโตะ” เป็นฐานการผลิตเครื่องดื่มซันโทรี่แล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง คือปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ยังเป็นเมืองออนเซนในป่าเขาบรรยากาศธรรมชาติ ภูเขาไฟอะโสะ และเจ้าหมีหน้าตาใจดี ตัวดำ แก้มแดง “คุมะมง” (KUMAMON)
“คุมะมง” ถือกำเนิดเมื่อ 12 มีนาคม 2011 พร้อมการเปิดใช้บริการรถไฟความเร็วสูงชินคันเซนสายคิวชู ในจังหวัดคุมาโมโตะ โดยมี “คุมะมง” เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองและมาสคอตประจำจังหวัด เพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังจังหวัดคุมาโมโตะ
ในปี 2016 คุมาโมโตะเผชิญกับสถานการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ “คุมะมง” มีบทบาทสำคัญออกมาช่วยผู้ประสบภัยและทำหน้าที่กอบกู้เศรษฐกิจของจังหวัดคุมาโมโตะ ผ่านสินค้าเมอร์เชนไดส์หลากหลาย ตั้งแต่ของที่ระลึก เครื่องเขียน ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไปจนถึงผักผลไม้ในตลาดสดที่ติดโลโก้คุมะมง ไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ “คุมะมง” ได้ออกมาขยายอาณาจักรในต่างประเทศผ่านธุรกิจลิขสิทธิ์ เมอร์เชนไดส์ หมีดังประจำเมือง “คุมาโมโตะ” ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ที่ “ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล” ในเครือสหกรุ๊ป ให้เป็นผู้ดูแลไลเซ่นส์.